29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

January 31,2020

อีสานปลอดไวรัสโคโรนา ‘รพ.มหาราช-ป.แพทย์’ปฏิเสธ แค่ป่วยไข้หวัดใหญ่

รพ.มหาราชฯ ยืนยัน ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ารักษาตัว เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น สสจ.โคราชเผย สถานการณ์ยังปลอดภัย แต่ไม่ประมาท ผู้ว่าฯขอนแก่น เผย คุมเข้มพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ด้าน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แนะอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม ควรฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น

สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพบผู้ป่วยลักษณะคล้ายโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ โดยเป็นชาย อายุ ๓๔ ปี ชาวอำเภอจักราช จ.นครราชสีมา ไปทำงานที่โรงงานในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเกิดโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาระบาด ได้เดินทางกลับมาบ้านที่ประเทศไทย ประมาณวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓

โดยเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓  “โคราชคนอีสาน” สัมภาษณ์ นางยุภาพร ราชวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา (สสจ.) ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากที่มีสื่อเสนอข่าวว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา รักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเดินทางทำงานที่เมื่ออู่ฮั่นจริง ทั้งนี้เมื่อมีอาการป่วยจึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชฯ โดยเบื้องต้นพักรักษาตัวประมาณ ๒-๓ วัน และในวันนี้ (๒๗ มกราคม ๒๕๖๓) ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว และยืนยันว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมายังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ให้ความรู้ประชาชน

นางยุภาพร กล่าวอีกว่า โรคนี้มีอาการเหมือนไข้หวัด จึงต้องการให้ประชาชนดูแลตนเอง หากป่วย มีไข้หวัด ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน รวมถึงมาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ก็สามารถช่วยลดภาวะเสี่ยงได้ หากอยู่ในช่วงระบาดแบบนี้ ซึ่งไม่ทราบว่าจะมาที่ประเทศไทยหรือไม่ หากอยู่ในบริเวณที่คนหนาแน่นไม่ควรเข้าไป และต้องให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องป้องกันตนเองในเรื่องอาการของโรค เช่น ไอแห้ง เจ็บคอ มีน้ำมูก ท้องเสีย หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ ๑๔ วันจึงเกิดอาการ การแพร่ระบาดเกิดจากการไอ จามใส่กัน ซึ่งเวลาคนป่วยไอหรือจาม มือที่ปิดปากจะสัมผัสน้ำมูก หรือน้ำลาย และนำไปจับสิ่งของต่างๆ ในที่สาธารณะ อีกทั้งเชื้อโรคอยู่ได้นาน ประชาชนทั่วไปที่นำมือไปสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรคและสัมผัสบริเวณใบหน้า ดวงตาก็สามารถติดเชื้อไวรัสได้

ปลอดภัย แต่ไม่ประมาท

“โคราชมีการเฝ้าระวังประชาชนที่กลับมาจากประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา เมื่อมีไข้ก็จะมาหาหมอ เราเข้มงวด หากตรวจพบก็ให้บุคลากรสวมชุดเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันตนเอง โดยที่ผ่านมา เมื่อทำการตรวจเชื้อแล้ว ยังไม่พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา ที่โคราชยังปลอดภัย แต่เราไม่ประมาท ใครที่มาจากเมืองจีนถ้ามีไข้ เราจะดำเนินการตรวจอย่างเต็มที่ และยืนยันผลกับกรมควบคุมโรค และส่วนกลางตลอด โดยเราจะเก็บเชื้อตัวอย่างไปตรวจ โดยใช้ระยะเวลา ๔-๕ ชั่วโมง ก็ทราบแล้วว่าใช่หรือไม่ใช่ ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลใจ เนื่องจากมีการประกาศจากทางโรงพยาบาลมหาราชฯ เพื่อยืนยัน อีกทั้งสอบถามไปยังอำเภอจักราชแล้ว ยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในขณะนี้” นางยุภาพร กล่าว

รพ.มหาราชฯยืนยันไม่พบผู้ติดเชื้อ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวโคราชคนอีสาน ติดต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชฯ ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา มีเพียงผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เท่านั้น ต่อมา นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แถลงว่า “จากกระแสสังคมและสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่าโรงพยาบาลมหาราชฯ ได้มีผู้ป่วยลักษณะคล้ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ จากไวรัสโคโรนาเข้ารับการตรวจรักษานั้น ทางโรงพยาบาลมหาราชฯ ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ทั้งนี้ หากมีผู้ป่วยที่มีอาการไข้  ไอ  เจ็บคอ น้ำมูกไหล และเหนื่อยหอบ ร่วมกับมีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องสงสัยว่าป่วยจากไวรัสโคโรนาให้นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลฯ เพื่อคัดกรองรักษา โดยเร่งด่วน และขอให้ติดตามข่าวจากการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น”

ป.แพทย์ ให้หยุดแชร์

ด้านโรงพยาบาล ป.แพทย์ นครราชสีมา ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า จากกรณี ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งโพสต์โดยมีข้อความให้เข้าใจได้ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เข้ามาทำการรักษาที่ โรงพยาบาลป.แพทย์ ๑ นั้น “ไม่เป็นความจริง” และยังไม่มีการพบผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาตามกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมทั้งให้ผู้ที่โพสต์ดังกล่าวหยุดแชร์ข่าวดังกล่าว เนื่องจากทำให้ทางโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ขอนแก่นยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

ในขณะที่นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ยังคงยืนยันว่า ในเขตจังหวัดขอนแก่น ยังคงไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในพื้นที่แต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวลหรือตื่นตระหนกกับกระแสข่าวลือในโซเชียลหรือการพูดคุยที่เกิดขึ้นในระยะนี้ และขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนจากหน่วยงานราชการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดและเชื่อถือได้ อีกทั้งควรดูแลและป้องกันตนเองเมื่ออยู่ในพื้นที่ผู้คนพลุกพล่าน

“ผมยืนยันว่าขอนแก่นยังคงไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาในพื้นที่แต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ประสานงานร่วมกับ สสจ. รวมทั้งหน่วยงานทางการแพทย์และกรมควบคุมโรคในการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกหน่วยงานมีแผนดำเนินงานเป็นขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติอยู่แล้ว จึงขอให้ชาวขอนแก่นเชื่อมั่นได้ว่าขณะนี้ยังคงไม่มีสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ และจังหวัดพร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งพร้อมดำเนินการได้ทันที

คัดกรองประชาชนเข้า-ออกประเทศ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า มีการประสานข้อมูลกับสายการบินพาณิชย์ที่มีเส้นทางบินมาที่ขอนแก่น ทั้งจากกรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, อู่ตะเภาและหาดใหญ่ ในการส่งรายชื่อผู้โดยสารหรือบุคคลที่มีการเดินทางแบบเชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อกำหนดแผนป้องกันและการตรวจคัดกรองในเบื้องต้น ขณะเดียวกันยังสั่งการไปยังที่ว่าการอำเภอทั้ง ๒๖ แห่ง เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานให้กับประชาชนที่มีครอบครัวทำงานในต่างประเทศ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน หากต้องการขอรับการช่วยเหลือหรือประสานงานร่วมข้อมูลในด้านใดก็ขอให้ประสานงานกับทางอำเภอ เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือคนขอนแก่นหรือคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยให้ได้รับการช่วยเหลือตามขั้นตอนร่วมระหว่างประเทศของทางรัฐบาลต่อไปอย่างเร่งด่วน

สุรินทร์พบผู้ป่วยเดินทางจากจีน

ที่จังหวัดสุรินทร์ จากที่มีการเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งผู้ป่วยคนสุรินทร์ อายุ ๒๑ ปี เดินทางกลับจากเมือง Hangzhou มณฑล Zhejiang ประเทศจีน มาถึงประเทศไทยวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ เริ่มป่วยวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓ ด้วยอาการมีน้ำมูก ระคายคอ ไม่มีไข้ และวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๓ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ทานยาพาราเซตามอล วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๓ ไม่มีใช้ เจ็บคอไอมากขึ้น วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๓ ไม่มีไข้ ไอมากขึ้น ซึ่งรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งและส่งต่อมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ในช่วงแรกจากการซักประวัติผู้ป่วย มีอาการไข้หวัดและเดินทางมาจากประเทศจีน ซึ่งชื่อเมืองคล้ายกับ ๕ เมืองที่กรมควบคุมโรคแจ้งเตือนว่า เป็นพื้นที่ที่มีการระบาด โรงพยาบาลสุรินทร์ จึงดำเนินการเฝ้าระวังและคัดกรองตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้ป่วยไม่มีไข้ แพทย์ตรวจร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ผลเอกซเรย์ปอดปกติ ออกซิเจนในร่างกายปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย จึงได้แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยกโรคของโรงพยาบาล และสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดจากผู้ป่วย และญาติ จากนั้นประสานข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ ๙ นครราชสีมา พบว่า พื้นที่ที่ผู้ป่วยเดินทางมาจากประเทศจีนอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีการระบาด และไม่ได้เดินทางไปเมืองที่เกิดการระบาดตามที่กรมควบคุมโรคประกาศพื้นที่ควบคุมการเดินทางเข้าออก

ผู้ป่วยไม่เข้าเกณฑ์‘โคโรนา’

“โรงพยาบาลสุรินทร์ จึงขอแจ้งว่า ผู้ป่วยรายนี้ ไม่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคปอดอักสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ โดยยืนยันว่า โรงพยาบาลสุรินทร์และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ได้ดำเนินการตามมาตรการฝ้าระวังอย่างเข้มเข็ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้รับบริการและผู้ให้บริการ และมีระบบในการติดตามและเฝ้าระวังอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างทางห้องปฏิบัติการ รักษาตามอาการ ผลการวินิจฉัย สุดท้ายเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน จำหน่ายออกจากห้องแยกโรคและกลับบ้าน ทั้งนี้ ได้ให้คำแนะนำให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และติดตามอาการผู้ป่วยเป็นเวลา ๑๔ วัน”

เฝ้าระวังผู้ติดเชื้อ ๘ ราย

ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓ ระหว่างเดินทางมาเปิดอาคารอำนวยการป้องกันควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๘ อำเภอเมืองอุดรธานีว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อในไทย ๘ ราย เป็นคนจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทย เรามีระบบเฝ้าระวังดูแลที่ดี ซึ่งโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ หลายท่านทราบว่า มาจากประเทศจีน สิ่งที่ต้องการสื่อไปคือ ไม่ต้องการให้ตื่นตระหนกกับข่าวนี้มากนัก ปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งหมดเกือบประมาณ ๒,๐๐๐ ราย เสียชีวิตประมาณ ๕๐ กว่ารายด้วยกัน ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ทยอยเพิ่มขึ้นแน่นอน ๒๐ ประเทศโดยประมาณ สิ่งที่สำคัญคือ ต้องรู้ว่าโรคนี้ติดต่ออย่างไร ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งโรคนี้จะติดต่อผ่านฝอยละออง จากการไอหรือจาม และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ 

อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม

นพ.อัษฎางค์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่จะมีโอกาสได้รับเชื้อ หากมีกำหนดเดินทางท่องเที่ยวหรือจองทัวร์เมืองจีนไว้ ในพื้นที่เสี่ยง ควรเลื่อนกำหนดไปก่อนจะดีเป็นอย่างยิ่ง และประชาชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพื้นที่ที่เสี่ยง หากสามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้ได้ ก็ควรจะเลื่อนไปก่อน ขณะเดียวกันในพื้นที่ที่มีชุมชนแออัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีทัวร์ประเทศจีนลงจำนวนมาก ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะดี และถ้าสามารถใช้ผ้าปิดจมูก (Mask) ได้ก็จะเป็นการป้องกันในเบื้องต้น ควรล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนกลาง ดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ และหมั่นออกกำลังกาย ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่รับเชื้อเข้ามา 

“สำหรับผู้ที่ติดเชื้อในไทย ๘ รายนั้น เป็นชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยว ผมคิดว่าประเทศไทยมีระบบของการเฝ้าระวังและคัดกรองที่ดี ซึ่งขณะนี้ทราบว่า เมืองที่มีความเสี่ยงของประเทศจีนมีหลายเมือง เพราะฉะนั้นในการเฝ้าระวังไม่เพียงเฉพาะคนที่เดินทางจากอู่ฮั่นเท่านั้น แต่หากเป็นคนจีนก็จะเฝ้าระวังทั้งหมด ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้ารับฟังข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข เพราะขณะนี้มีโอกาสที่จะเป็นข่าวลวง ข่าวปลอม เขียนขึ้นเอง เกิดขึ้นเยอะ ควรฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเพียงแห่งเดียว” นพ.อัษฎางค์ กล่าว

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๓ วันพุธที่ ๒๙ มกราคม - วันอังคารที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓

 

 


788 1498