จากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 3 และจังหวัดอุบลราชธานี จัดอยู่ในพื้นที่สีแดง ส่งผลให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ต้องปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ทำให้นักนักดนตรี พนักงานเสริฟ พนักงานเชียร์อาหาร (PR) ตกงานไม่มีรายได้ แต่ผู้ประกอบการหลายแห่ง ยังต้องดูแลช่วยเหลือพนักงาน ให้มีแรงงานทันที เมื่อเปิดให้บริการใหม่

โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน จังหวัดออกประกาศขยายเวลาปิดสถานบันเทิงเหล่านี้ต่อไป อย่างไม่มีกำหนด นายวัชระ สีหะนันท์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน 20+ (ยี่สิบบวก) จึงหาทางเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและลูกน้องที่ไม่มีงานทำร่วม 30 ชีวิต โดยสั่งทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดจันทบุรี มาขายที่หน้าร้าน โดยให้พนักงาน PR สาวสวยผันตัวเองมาเป็นแม่ค้า ขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ โดยนอกจากความสดใหม่ของทุเรียน ยังเน้นความเซ็กซี่ของแม่ค้ามาเป็นจุดขาย

ทำให้มีเสียงตอบรับจากลูกค้าที่เป็นชายหนุ่ม และคนวัยหนุ่มสาว โดยราคาทุเรียนหมอนทองจันทบุรี เกรดคัดกิโลกรัมละ 160 บาท หรือเป็นแพ็คๆ ละ 260 บาท สามารถทำยอดขายได้วันละกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งกำไรแบ่งให้พนักงานที่มาช่วยกันขาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือในช่วงที่ร้านยังไม่ได้เปิดทำการ

นายวัชระ กล่าวว่า หลังร้านถูกสั่งปิด เลยสั่งทุเรียนมาขายหารายได้ให้กับลูกน้องที่อยู่กับร้านกว่า 30 ชีวิต โดยขายทั้งหน้าร้าน ขายออนไลน์ มีม้าเร็วนำทุเรียนส่งให้กับลูกค้าถึงบ้าน ช่วงนี้ ทำยอดขายเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 200 กิโลกรัม และก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับ เพื่อให้ลูกน้องมีรายได้เป็นค่าน้ำค่าไฟ

พร้อมฝากถึงผู้ประกอบสถานบันเทิงให้มีกำลังใจสู้ต่อไป หาทางช่วยเหลือกันไปก่อน ช่วงที่ยังไม่ได้เปิดร้าน

ด้านนางสาวเกสรา โพษาจาร อายุ 27 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดการระบาดมีรายได้จากเป็นนางแบบ รับรีวิวสินค้า และขายน้ำมะพร้าว วันละกว่าหนึ่งพันบาท แต่ช่วงนี้ ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ก็มาขายทุเรียนหารายได้ พร้อมปรับตัวใช้จ่ายให้น้อยลง หยุดช็อปปิ้ง และฝากถึงเพื่อนๆที่มีอาชีพพีอาร์ ช่วงนี้ให้สู้และหาอะไรทำไปก่อน

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 13 คน รวมเป็นผู้ป่วยรอบใหม่จำนวน 302 คน รักษาหาย 180 คน อยู่ระหว่างรักษา 120 คน เสียชีวิต 2 คน