May 14,2021
“พาณิชย์”จับมือ“แม็คโคร” จัดสินค้าจำเป็นราคาเยา ขายผ่านร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน
กระทรวงพาณิชย์ จับมือ “แม็คโคร” และกองทุนหมู่บ้านฯ จัดชุดสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มูลค่ารวมกว่า ๑๒ ล้านบาท ขายให้ประชาชนราคาประหยัด ผ่านร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ๓,๕๐๐ แห่งทั่วประเทศ บรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนถึงระดับท้องถิ่น “ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” หวังเกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินในชุมชน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ได้วางนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนลงลึกถึงระดับตำบลทั่วประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง บรรเทาภาระค่าครองชีพ และช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋า ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดกิจกรรม ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน จัดชุดสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน จำนวน ๒๓ รายการ มูลค่ากว่า ๓,๕๐๐ บาท เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ฯลฯ จำหน่ายถึงมือประชาชนในราคาพิเศษ ผ่านเครือข่ายร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ๓,๕๐๐ แห่งทั่วประเทศ (มูลค่าสินค้ารวมกว่า ๑๒,๒๕๐,๐๐๐ บาท) เพื่อให้ร้านค้านำสินค้าราคาประหยัดไปจำหน่ายแก่ประชาชนในชุมชน ซึ่งร้านค้ากองทุนหมู่บ้านมีแนวคิดพื้นฐานในการจัดตั้ง คือ ร้านค้าของคนในชุมชน เพื่อคนในชุมชนดังนั้น การจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษจึงทำให้สมาชิกของร้านค้า (คนในชุมชน) ได้เลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด ขณะเดียวกัน ร้านค้าจะมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น โดยกำไรที่ได้รับจะถูกจัดสรรกันในชุมชน ผ่านกลไกสมาชิกร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ส่งผลให้เกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เป็นการช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคร้านค้าโชห่วยในท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนไปพร้อมกัน
ร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ทั้ง ๓,๕๐๐ แห่ง จะได้รับหนังสือจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้ไปรับชุดสินค้า ณ ห้างแม็คโคร ภายในจังหวัดที่ร้านค้าตั้งอยู่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่าชุดสินค้าแต่ประการใด กำหนดรับชุดสินค้าตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ หลังจากนั้น กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรจะทำการประเมินจุดเด่น จุดด้อย ปัญหา และอุปสรรคที่ได้รับจากกิจกรรม ก่อนนำมาปรับปรุงและพัฒนาเพื่อกำหนดแนวนโยบายในการช่วยเหลือประชาชน และร้านค้าโชห่วยต่อไป กิจกรรม ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและร้านค้าโชห่วยมากที่สุด เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด ช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งในระยะยาว
นายสินิตย์ เลิศไกร กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยเป็นหน่วยเศรษฐกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และเป็นที่พึ่งของประชาชนทั้งช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ และช่วงระยะการฟื้นฟู โดยเป็นทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมัน น้ำตาลทราย และของใช้ประจำวันอื่นๆ สำหรับประชาชนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทาง และไม่ประสงค์ที่จะจับจ่ายใช้สอยในสถานที่แออัดหรืออากาศไม่ถ่ายเท เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของโรคระบาด ขณะเดียวกัน ร้านค้าโชห่วยยังเป็นช่องทางสำคัญของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เช่น เราชนะ คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ม.๓๓ เรารักกัน รวมถึง เป็นแหล่งจ้างงานในชุมชนและช่องทางการกระจายสินค้าที่สำคัญในระดับท้องถิ่น ซึ่งในปี ๒๕๖๓ ร้านค้าโชห่วยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันกว่า ๑.๐๓ ล้านล้านบาท และมีปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาซื้อสินค้าใกล้บ้านแทนการไปซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกสมัยใหม่
ทางด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโคร ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง กว่า ๑๑ ปีในการยกระดับศักยภาพร้านค้าปลีกท้องถิ่นภายใต้ “โครงการแม็คโครมิตรแท้โชห่วย” ซึ่งปัจจุบัน ได้ยกระดับการสนับสนุน ให้ร้านค้าปลีกสามารถพัฒนาสู่ สมาร์ทโชห่วย โดยนำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจากโครงการแม็คโครมิตรแท้โชห่วย มาเป็นต้นแบบที่สำคัญ ล่าสุดได้ร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดกิจกรรม “ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” จัดชุดสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จำนวน ๒๓ รายการ รวมมูลค่ากว่า ๓.๗ ล้านบาท สมทบให้ฟรี กับร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ๓,๕๐๐ แห่ง ระหว่างวันที่ ๑-๓๑ พฤษภาคมนี้ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้ร้านโชห่วยสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และเป็นแหล่งกระจายสินค้าราคาประหยัดสู่ท้องถิ่น ช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
“กิจกรรมความร่วมมือที่เราทำผ่านร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ร้านค้าในชุมชนสามารถเข้าถึงสินค้าราคาประหยัด ทำให้สมาชิกของร้านค้า (คนในชุมชน) ได้เลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด ส่วนร้านค้าก็จะมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะถูกจัดสรรคืนสู่ชุมชนผ่านสมาชิกร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ซึ่ง ร้านโชห่วย หรือร้านค้าปลีกรายย่อย เป็นทางเลือกที่สำคัญในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพใกล้บ้าน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ที่เราอยากให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงเช่นนี้”
ไม่เพียงเท่านั้น แม็คโคร ยังเป็นพี่เลี้ยงในการแบ่งปันความรู้ และถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ในการพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย ภายใต้ ‘โครงการพัฒนาร้านค้าปลีกยุคใหม่สู่สมาร์ท โชห่วย’ อาทิ การถ่ายทอดแนวคิด ‘ตู้ครัวชุมชน’ เพิ่มโอกาสร้านโชห่วยสร้างรายได้และกำไรเพิ่มจากอาหารแช่แข็ง, เสริมองค์ความรู้ใหม่ด้วยเทคโนโลยีผ่าน e-Learning, อำนวยความสะดวกร้านค้าผ่านบริการรับสั่งซื้อและจัดส่งจากช่องทางออนไลน์ อาทิ MakroClick, Application, การนำระบบ Smart POS ที่แม็คโครได้พัฒนามาใช้ในการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า รวมถึง ยังร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ผลักดันโครงการ “Makro U Project” ด้วย
“แม็คโครและกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะร่วมมือกันดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาโชห่วยและปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรายึดมั่นในหลักการที่ว่าแม็คโครจะเคียงข้าง และเป็นคู่คิดธุรกิจให้กับร้านค้ารายย่อยเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ใด” นางศิริพร กล่าว
ทั้งนี้ ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านจะได้รับหนังสือแจ้งจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยทั้ง ๓,๕๐๐ แห่ง สามารถนำหลักฐานมารับชุดสินค้า ณ สาขาของแม็คโคร ภายในจังหวัดที่ร้านค้าตั้งอยู่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรับคูปองส่วนลดพิเศษมูลค่า ๕๗๗ บาท เมื่อซื้อสินค้าอื่นๆ นอกรายการได้อีกด้วย ระหว่างวันที่ ๑–๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นอกจากนี้ แม็คโครยังเปิดโอกาสร้านค้าโชห่วยที่สนใจปรับปรุงร้านค้า เรียนรู้ระบบการจัดการร้านที่ก้าวทันยุคสมัย หรืออยากมีอาชีพเปิดร้านค้าเล็กๆ สามารถรับคำปรึกษาได้ที่ “ศูนย์มิตรแท้โชห่วย” ในทุกช่องทาง อาทิ https://www.siammakro.co.th/mra.php หรือ Line@makro-mra
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๗๘ วันพุธที่ ๑๒ - วันอังคารที่ ๑๘ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
708 1345