July 16,2021
เศรษฐกิจขอนแก่นต้องรอด หอการค้าฉีด‘ซิโนฟาร์ม’แล้ว
หอการค้าขอนแก่น ประกาศชัดเศรษฐกิจขอนแก่นต้องรอด นำบุคลากรด่านหน้าเศรษฐกิจตบเท้าเข้าฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มคึกคัก “ประธานชาญณรงค์” กำชับผู้ประกอบการทุกแห่งปฏิบัติตามคำสั่งเข้มงวด ทุกคนต้องช่วยกันจึงจะก้าวผ่านวิกฤตไปได้
เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ห้องประชุมชั้น ๑๓ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการฉีดวัคซีนทางเลือกสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในเขตขอนแก่น ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนที่ได้รับการยืนยันรับวัคซีนทางเลือกจากหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ทยอยมารายงานตัวและเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม วัคซีนทางเลือกที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทำการจัดสรรให้กับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น จำนวน ๒,๔๐๐ โดส โดยมีกำหนดฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔)
นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า หอการค้าขอนแก่นจัดอยู่ในกลุ่มองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งในระดับจังหวัดยอมรับว่า องค์กรภาคธุรกิจเอกชนนั้นมีจำนวนมาก ดังนั้นการได้รับการจัดสรรวัคซีนจากหน่วยงานภาครัฐอาจจะไม่ทั่วถึง เนื่องจากจะต้องใช้กับบุคลากรด่านหน้า แต่ตามการจัดสรรวัคซีนของทางจังหวัดและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และทันทีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ให้องค์กรเอกชนดำเนินการตามนโยบายและระเบียบที่กำหนด หอการค้าขอนแก่นจึงขอรับการจัดสรรวัคซีนทางเลือกในชุดแรก ซึ่งได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น ๒,๔๐๐ โดส สำหรับฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ๑,๒๐๐ คน
“วัคซีนจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะช่วยเราได้อย่างมาก เนื่องจากเป็นการจัดสรรให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่ต้องออกเดินทางติดต่อหรือต้อนรับลูกค้า ต้องติดต่อส่วนราชการ หรือเดินทางไปต่างประเทศ กลุ่มนี้จึงมีความอ่อนไหวและมีความเสี่ยง หอการค้าฯ จึงติดต่อและขอรับวัคซีนซิโนฟาร์ม ด้วยการดำเนินการในส่วนของทุนภาคเอกชน ในลักษณะการบริจาคให้กับทางสถาบัน และนำมาจัดสรรให้กับองค์กรสมาชิกของหอการค้า เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามสนับสนุนให้ประชาชนคนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศได้รับเร็วขึ้น เพราะเราต้องต่อสู้กับโควิดไปอีกนาน” นายชาญณรงค์ กล่าว
ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า เมื่อคนจำนวนมากได้รับวัคซีนมากขึ้นแล้ว ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจที่เข้มข้น แต่โจทย์สำคัญคือเมื่อมีคนเดินทางเยอะขึ้น จังหวัดจะต้องรับแขกหรือรับการประชุมสัมมนา หรือจัดงานขนาดใหญ่ เช่นที่ขอนแก่น ซึ่งเราเป็นจังหวัดแห่งการประชุมสัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการ (Mice city) ประกอบกับการที่ขอนแก่นเป็นเมืองแห่งการแพทย์ หรือ Medical Hub ที่ชัดเจน การที่ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนทางการแพทย์ซึ่งแสดงให้เห็นแล้ววันนี้ จะเป็นภาพแห่งความเข้มแข็ง ที่เราทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤตเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน
“เมื่อถึงวันที่เรามีภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งอาจจะสร้างขึ้นในกลุ่มก้อนขนาดเล็กและสะสมจนครบทั้ง ๗๐% ของประชากรชาวขอนแก่น หรือประมาณ ๑.๒ ล้านคน จากทั้งหมด ๑.๘ ล้านคน หากเราพูดถึงเฉพาะในพื้นที่เมืองหรือเฉพาะย่านการค้าและย่านที่มีการจัดประชุมสัมมนา ขณะนี้กลุ่มนี้ได้รับวัคซีนที่อยู่ในระดับปลอดภัยและตัดการแพร่กระจายได้ ซึ่งทำให้คนที่จะเดินทางเข้ามาติดต่อมั่นใจว่า ขอนแก่นปลอดภัย คนที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัด ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม วัคซีนซิโนฟาร์มชุดแรก ๒,๔๐๐ โดส จะฉีดให้กับ ๑,๒๐๐ คน ส่วนในชุดที่ ๒ เราจะสำรวจว่าต้องการวัคซีนเท่าไหร่ เน้นหนักไปในกลุ่มเอสเอ็มอี โดยเฉพาะพ่อค้ารายเล็ก ที่รัฐอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง เราก็จะพยายามดูแลเข้าไปจนถึงจุดนี้ เพราะจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในด่านหน้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการในระยะนี้มีภาวะเสี่ยง มีการเคลื่อนย้ายแรงงานแล้วก็รับเชื้อที่เร็วกว่าเดิม ดูได้จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในเขตขอนแก่น ที่มีมากขึ้น ทำให้ต้องรณรงค์ให้ทุกคนระมัดระวังและป้องกัน รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มงวด เป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกัน เพราะเราอาจจะเลี่ยงไม่ได้และอาจจะเป็นเรื่องที่หนีไม่ได้ เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต่อไป ทุกคนต้องปลอดภัย เข้มแข็ง และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด” นายชาญณรงค์ กล่าวท้ายสุด
ทางด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดได้ออกประกาศมาตรการจังหวัด สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม รวมไปถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดง ที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการรายงานผ่านระบบที่จังหวัดกำหนด รวมทั้งผู้นำชุมชนและระบบสาธารณสุขที่กำหนดไว้ และการกักตัว ๑๔ วัน แต่ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ไม่ต้องกักตัว ๑๔ วันจะต้องมีเอกสารมาแสดงหรือยืนยันให้กับเจ้าพนักงานได้รับทราบคือ จะได้รับวัคซีนโควิด-๑๙ ครบแล้ว ๒ เข็ม หรือได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ ๑ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๒๘ วัน และมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-๑๙ เป็นลบมาแล้วไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมง
“เจ้าหน้าที่จะตรวจเข้มเอกสารดังกล่าว ทั้งที่สถานีขนส่ง, สถานีรถไฟ, สนามบิน รวมถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ ซึ่งขอให้ทุกคนเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อเข้ารับการตรวจด้วย ส่วนในระดับพื้นที่คือฝ่ายปกครองและฝ่ายสาธารณสุขจะตรวจคัดกรองและรีเอกซเรย์ซ้ำอีกครั้งอย่างเข้มงวดตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งมั่นใจว่าชาวขอนแก่นทุกคนจะปฏิบัติตามและให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี และก้าวผ่านวิกฤตเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน” ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๘๖ วันพุธที่ ๑๔ - วันอังคารที่ ๒๐ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
735 1,434