29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

September 04,2021

‘สุวัจน์’ยืนยันวัคซีนคือคำตอบที่ดีที่สุด รัฐบาลต้องจัดวัคซีน-ATK ทั่วถึง

“สุวัจน์” ยืนยันวัคซีนคือคำตอบที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิด-๑๙ และช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ ย้ำรัฐบาลต้องจัดหาวัคซีนและชุดตรวจ ATK ให้ทั่วถึงและทันสถานการณ์ อย่าให้ภาระตกที่ประชาชน ชี้ “ชาติพัฒนา” ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล แต่พร้อมยืนเคียงข้างประชาชน


เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ที่โคราชฮอลล์ ชั้น ๔ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยภายหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” เข็ม ๒ โดยเข็มแรกฉีดเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ภาพรวมของประเทศขณะนี้ยังอยู่ในวิกฤตโควิด ตัวเลขอยู่ในเกณฑ์สูง ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ถ้าดูสถิติแนวโน้มช่วง ๑ สัปดาห์มีทิศทางดีขึ้นตัวเลขลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนเช่นการกักตัว การตรวจ ATK (Antigen Test Kit) การฉีดวัคซีน ดูแลตัวเอง ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วัคซีนคือคำตอบ เราต้องเร่งรัดจัดหาวัคซีนให้มากและรวดเร็วให้ทันต่อสถานการณ์ จะเป็นแก้ไขปัญหาต้นเหตุโควิดดีที่สุด ส่วนอื่นๆ พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว FDA สำนักงานอาหารและยา (อย.) สหรัฐอเมริกา ได้รับรองไฟเซอร์เป็นวัคซีนเต็มรูปแบบ ต่อไปภาคเอกชนหรือใครก็สามารถดำเนินจัดหาได้ ถ้าเราส่งเสริม สนับสนุนจะทำให้ได้วัคซีนสะดวก ได้วัคซีนมากและเร็วขึ้น รวมทั้งการตรวจ ATK ก็มีความสำคัญสามารถแก้ไขปัญหาต้นเหตุที่ดีอีกทางหนึ่ง ทำอย่างไรให้มีราคาถูกและทั่วถึงทำคู่ขนานกับการจัดหาวัคซีน ดูแลเรื่องสาธารณสุขให้เพียงพอ โดยบริหารเศรษฐกิจ โควิดให้อยู่ด้วยกันได้และปลดล็อคให้กิจกรรมต่างๆ กลับมาได้ เตรียมเงิน ๑ ล้านล้านบาทมาใช้เยียวยา ฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินต่อได้ ถ้าโควิดเป็นเช่นนี้ อย่างน้อย ๓ ปี เศรษฐกิจจะกลับมาอยู่ในพื้นฐานเดิมก่อนเกิดโควิด หลังจากนั้นต้องบริหารจัดการเศรษฐกิจกันใหม่ ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแรงเดินต่อได้

“ทั้งนี้ งบประมาณ ๓.๑ ล้านล้านบาท สภาผู้แทนราษฎรเพิ่งให้ความเห็นชอบ ขั้นตอนต่อไปเป็นการเร่งรัดในการใช้ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาทั่วไป ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะมาตรการการปลดล็อกของภาคเอกชน บรรดาผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ภาครัฐต้องสนับสนุนอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อและจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่มารองรับภาคเอกชนที่เปิดให้บริการแบบ new normal อย่างครอบคลุมมากขึ้น” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ เปิดเผยต่อไปว่า “โควิดต้องอยู่กับคนไทยอีกนาน โดยใช้ระยะเวลายาวฟื้นฟูไม่ต่ำกว่า ๓ ปี หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ระบบเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงเป็นยุคหลังโควิด ทั้งด้านสุขอนามัย เทคโนโลยี วิถีชีวิต ถึงเวลาที่จำเป็นต้องคิดถึงแผนพิมพ์เขียวปรับโครงสร้างเศรษฐกิจหลังสถานการณ์ เพื่อรักษาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความสามารถแข่งขันในเวทีภูมิภาคเอเชียและเวทีโลก ซึ่งในรัฐธรรมนูญมีการกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ชาตินำไปใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจไทยให้คืนกลับมาอยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจโลกแบบใหม่หลังโควิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวันข้างหน้า ส่วนสถานการณ์การฉีดวัคซีนเข็ม ๓ รัฐบาลได้จัดเตรียมแผนการจัดสรรและฉีดวัคซีนให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์โรคที่กำลังแพร่ระบาดรวมทั้งมีการกลายพันธุ์ในขณะนี้ เพียงแต่ต้องวางแผนเลือกวัคซีนมาฉีดเข็มที่ ๓ ให้ประชาชนอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพมากที่สุด ซึ่งแผนการฉีดวัคซีนเข็ม ๓ จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการจัดเตรียมเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องจัดเตรียมให้พร้อมเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน”

“สำหรับจังหวัดนครราชสีมา สถานการณ์มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันภาครัฐต้องเร่งรัดจัดหาอุปกรณ์พร้อมดำเนินการตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกให้ครอบคลุมและทั่วถึง หรือควบคุมราคาขายของอุปกรณ์ตรวจเชื้อต่างๆ ให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ไม่สร้างภาระ หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันจะสามารถสกัดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้ตั้งแต่ต้น ไม่เกิดการแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้าง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทีมแพทย์สาธารณสุขปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ในพื้นที่มีการตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้ง CI  (community isolation) หรือศูนย์กักกันตัวครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้ง ๓๒ อำเภอ อย่างไรก็ตาม วัคซีนคือคำตอบของปัญหาของเชื้อโควิด รัฐบาลต้องเร่งรัดจัดสรรวัคซีนจำนวนมาก เพื่อกระจายสู่ประชาชนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หากสามารถแก้ไขปัญหาโรคโควิดได้ปัญหาเศรษฐกิจและอื่นๆ ก็จะเบาบางลง” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าว

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นสิ่งที่คู่กับการเมืองในสภา เมื่อมีฝ่ายค้าน ก็มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองประสบวิกฤตปัญหาโรคระบาด ดังนั้นพี่น้องประชาชนมีความต้องการที่จะรับทราบการดำเนินการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล รัฐบาลต้องใช้เวทีนี้ชี้แจงการทำงาน การใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ การจัดหาวัคซีนให้ประชาชนรับทราบและเกิดความเข้าใจ หากมองในแนวทางสร้างสรรค์ถือเป็นเวทีที่ดีที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตการณ์ของบ้านเมือง ดังนั้นขอให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านดำเนินการด้วยเหตุและผล รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์นำไปสู่นโยบายที่ดี เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตต่างๆ ในประเทศ รัฐสภาจะเป็นหลักในการหาทางออกของปัญหา ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ต้องการให้เกิดทางออกของประเทศ ปรับปรุงการดำเนินการของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพแล้วตรงเป้าหมายมากที่สุด ส่วนฝ่ายใดแพ้หรือชนะ เป็นเรื่องของระบบรัฐสภา ปัจจุบันรัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่แล้วดังนั้นจำเป็นต้องรับฟังเหตุผล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้ให้การบริหารประเทศเดินไปข้างหน้า

นายสุวัจน์ เปิดเผยว่า “ผมเชื่อว่าปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นจากวิกฤตโควิด-๑๙ หากรัฐบาลสามารถเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้จบได้โดยเร็ว ด้วยมาตรการที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ จะสามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ ได้ ในยามบ้านเมืองเกิดวิกฤต เป็นหน้าที่ของทุกพรรคการเมือง ต้องเข้ามาช่วยกัน จะมีให้กับนักการเมืองในพรรคชาติพัฒนาตำแหน่งหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงาน ในปัจจุบันพรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญแต่อย่างใด แต่พร้อมให้การสนับสนุน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหา โดยจัดการต่างๆ ทั้งจัดตั้งศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เพื่อช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขให้กับประชาชน พรรคชาติพัฒนาจะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่นั้นเป็นวิถีของการเมือง หน้าที่หลักของเราคือดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน”

“นอกจากนี้ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมมีโรงงานหลายแห่งได้รับความเสียหายถือเป็นภัยธรรมชาติ และเข้ามาซ้ำเติมความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ขณะนี้ต้องยอมรับความจริงว่าโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคการเกษตร ประสบปัญหาเหลือเพียงภาคการส่งออกสินค้า ยังเป็นจุดแข็งของระบบเศรษฐกิจ ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตส่งออกสินค้า ภาครัฐจำเป็นต้องรีบเข้าไปแก้ไขช่วยเยียวยาทันที ปัญหาทุเลาลงเร็วที่สุด” นายสุวัจน์ กล่าวในท้ายสุด


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๔ วันพุธที่ ๑ - วันอังคารที่ ๗ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔

 


1005 1605