19thApril

19thApril

19thApril

 

September 27,2021

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลง 2 คดีสำคัญ ยงยุทธมนุษย์ร้อยเสียง+หนุ่มคลั่งรักแทงสาวร้านพิซซ่า

วันที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 เป็นประธานการแถลงข่าวคดีจับกุม 2 คดีสำคัญ

ทั้งนี้ ตามนโนบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ห้วงวันที่ 23-30 กันยายน 2564 โดยให้นำนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ภาณุ  บูรณศิริ รอง ผบช.ภ.3  ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดระดมกวาดล้างอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การระดมกวาดล้างอาชญากรรมมีเป้าหมายการจับกุมคดีอาชญากรรมทุกประเภท มีผลการจับกุมคดีที่สำคัญ

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ครีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.๓ , พล.ต.ต.ภาณุ บูรณศิริ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.๓, พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช รอง ผบก.สส.ภ.3,พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง รอง ผบก.สส.ภ.3,พ.ต.อ.สิทธิชัย ธัญญาบาล ผกก.สืบสวน ๒ บก.สส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในคดีสำคัญจำนวน 2 คดี

โดยใน "คดียงยุทธมนุษย์ร้อยเสียง" นั้น เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 15.30 น. จับกุมผู้ต้องหา นายยงยุทธ แก้วนวลจริง อายุ 46 ปี ที่อยู่ 78/195 ซอยเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น” ที่พักหน้าเทศบาลตำบลเวียงคำ อ.กุมภวาปี จว.อุดรธานี

ทั้งนี้ มีผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ว่า มีผู้ใช้โทรศัพท์หมายเลข 094-4609647 โทรศัพท์มาหาผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเพื่อนของผู้เสียหายและขอยืมเงินโดยอ้างว่ามีความเดือดร้อนและจะคืนเงินให้จนผู้เสียหายหลงเชื่อเนื่องจากมีการดัดเสียงคล้ายกับเพื่อนของผู้เสียหายจึงได้โอนเงินให้ จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 290,000 บาท ภายหลังจากได้โอนเงินไปแล้วผู้เสียหายได้ทวงถามเงินที่ให้ยืมไปแต่ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงทราบว่าถูกหลอกลวงและได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานกับฝ่ายสืบสวนเพื่อทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายยงยุทธ แก้วนวลจริง จึงได้ร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมาที่ 247/2564 ลงวันที่ 23 กันยายน 2564 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”

กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายยงยุทธ แก้วนวลจริง ซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี จึงลงพื้นที่ทำการตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวนายนายยงยุทธ แก้วนวลจริง ได้ซึ่งในชั้นจับกุมนายยงยุทธฯ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้ใช้วิธีสุ่มกดหมายเลขโทรศัพท์แล้วโทรออก มีผู้เสียหายรับสายและเข้าใจผิดว่าเป็นเพื่อนของผู้สียหาย เนื่องจากมีการดัดเสียงตัวเองทำให้ผู้เสียหายหลงเข้าใจว่าเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย จากนั้นนายยงยุทธฯ ได้สวมรอยเป็นเพื่อนของผู้เสียหายและหลอกลวงโดยแจ้งว่ามีความเดือดร้อนเรื่องเงิน ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายหลงกลเชื่อนายยงยุทธฯ และยอมโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในชื่อบุคคลอื่นที่นายยงยุทธฯ ได้จัดเตรียมเอาไว้แล้วส่งหมายเลขบัญชีธนาคารให้ผู้เสียหายทาง SMS จำนวนหลายครั้งรวมเป็นจำนวนเงินที่โอนทั้งสิ้น 290,000 บาท

หลังจากนั้นผู้เสียหายได้ติดตามทวงเงินที่ให้ยืมไปแต่ไม่สามาถติดต่อนายยงยุทธฯ ได้ จึงทราบว่า ถูกหลอกและได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา โดย กก.สืบสวน 2ฯ ได้ทำการสืบสวนกระทั่งทราบแหล่งกบดานของนายยงยุทธฯ และสามารถทำการจับกุมตัวนายยงยุทธได้นำส่ง สภ.เมืองนครราชสีมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจากการตรวจสอบประวัติของนายยงยุทธ แก้วนวลจริง พบว่า มีประวัติเคยกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำนวนหลายครั้งหลายท้องที่มูลค่าความเสียหายรวมเป็นเงินหลายล้านบาท

นอกจากนี้ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ยังจับกุมผู้อต้องหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น เหตุเกิดท้องที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี หนุ่มคลั่งรักแทงสาวร้านพิซซ่า โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. จับกุมผู้ต้องหา นายสรายุ หรือแม๊ก วงค์ดี อายุ 31 ปี ที่อยู่ 38 หมู่ 4 ต.กุดสระ อ.เมือง จว.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.301/64 ลง 23 ก.ย.64 โดยกล่าวหาว่า “พยายามฆ่าผู้อื่น” สถานที่จับกุมห้องพักหมายเลข 26 พักดีรีสอร์ท ต.ในเมือง  อ.เมืองหนองคาย จว.หนองคาย

สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมนั้น ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน กรณีหนุ่มคลั่งรักแทงสาวร้านพิซซ่า เหตุเกิดที่ ร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 22 ก.ย.64 เวาประมาณ 19.30 น. ได้มีเหตุชายไทยใช้อาวุธมีดแทง น.ส.สวย(นามสมมติ) พนักงานร้านพิซซ่าคอมปะนี สาขาอุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5371 กรุงเทพฯ หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสรายุ หรือแม๊ก วงค์ดี หลังก่อเหตุนายแม๊ก ได้หลบหนีไป กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า นายแม็ก ได้หลบหนีไปที่จังหวัดหนองคาย และได้ไปเช่าห้องพักอยู่ที่ พักดีรีสอร์ท  ต.ในเมือง  อ.เมืองหนองคาย  จว.หนองคาย  จึงได้ประสานกำลังกับชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี และ กก.สส.ภ.จว.หนองคาย เพื่อทำการสนธิกำลังกันเข้าจับกุมตัวนายสรายุ(แม็ก)  วงค์ดี ได้ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.301 / 2564  ลง 23 ก.ย. 2564  นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี  ดำเนินคดีตามกฎหมาย  

โดยในชั้นจับกุม นายสรายุฯ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุแทง น.ส.สวย(นามสมมติ) พนักงานสาว ร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี สาขาอุบลราชธานี จริง สาเหตุที่ก่อเหตุเกิดจากความหึงหวง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวนายสรายุ หรือแม๊ก  วงค์ดี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 3 จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ความระมัดระวังในการรับสายโทรศัพท์โดยเฉพาะหมายเลขที่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อน ที่อาจเป็นบุคคลที่แฝงตัวมาหลอกลวงและก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวท่านเองได้


1034 1397