27thApril

27thApril

27thApril

 

September 11,2014

มทส.ร่วมมือวิจัยกับ‘สทน.’ เสริมเข้มแข็งนิวเคลียร์ ประยุกต์รักษาโรคมะเร็ง

 

 

  มทส.-สทน.ประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ พัฒนาขีดความสามารถเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของประเทศ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ทางการแพทย์ โดยเฉพาะรักษาโรคมะเร็งที่มีความซับซ้อนสูง

    ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ร่วมกับ ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองสถาบัน ณ ห้องสารนิเทศ อาคารบริหาร เมื่อวันที่ ๕ กันยายนที่ผ่านมา เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัยและพัฒนาในสาขาที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนให้นักวิจัย และนักวิชาการ ตลอดจนนักศึกษามีเครื่องมือและอุปกรณ์วิจัยที่เป็นมาตรฐานสากลในการดำเนินการวิจัย และกิจกรรมทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่าย ตลอดทั้งการพัฒนาและผลิตบุคลากร สนับสนุนและส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานนิวเคลียร์ และการบริหารจัดการความปลอดภัยในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศ 

 

 ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า 


    ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มทส. เปิดเผยว่า “จากการที่ มทส. เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความพร้อมทางด้านวิชาการและกำลังคนคุณภาพในหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาวิชาฟิสิกส์ ที่มีความโดดเด่นและเข้มแข็งมาก ได้รับการประเมินคุณภาพงานวิจัยระดับดีเยี่ยม จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ติดต่อกัน ๓ ปีซ้อน ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการจับมือกับองค์กรระดับชาติในการที่จะร่วมกันใช้งาน สร้างสรรค์ ทรัพยากร เทคโนโลยี และองค์ความรู้ที่มีอยู่ภายในสถาบันทั้งสองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อภารกิจการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มจากการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การผลิตบุคลากรระดับอุดมศึกษา และบัณฑิตศึกษา เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้ การสนับสนุน ช่วยเหลือพัฒนาทางการศึกษา การแลกเปลี่ยนบุคลากร การวิจัยและพัฒนาร่วมใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด และสารสนเทศ การแสวงหาแหล่งทุนเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานวิจัย และพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาความร่วมมือ ๕ ปี
    นอกจากนี้ ผลจากความร่วมมือดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเสริมความเข้มแข็งให้กับทั้ง มทส. และ สทน.แล้ว ยังจะเป็นประโยชน์สำหรับวงการวิทยาศาสตร์สุขภาพด้วย เนื่องจากในอนาคตอันใกล้นี้มหาวิทยาลัยยังมุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวในการประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในการรักษาโรคมะเร็งที่มีความซับซ้อนสูง เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งลำคอ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ส่วนหนึ่ง และจะเป็นศูนย์กลางในการรักษาผู้ป่วยที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป”

  ดร.สมพร จองคำ

 

    ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการ สทน. กล่าวว่า สนท. เป็นศูนย์กลางของการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งมีการประยุกต์ใช้หลากหลายที่ประชาชนต้องพบเจออยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม พลังงาน และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพทั้งการวินิจฉัยโรค การผลิตนวัตกรรมการรักษาโรค และการผลิตยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งที่ผ่านมา สนท. สามารถผลิตยารักษาโรคมะเร็งได้ไม่น้อยกว่า ๓๐ ชนิด นำไปใช้ในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า ๒๕ แห่งทั่วประเทศ สามารถช่วยผู้ป่วยได้ไม่ต่ำกว่า ๓ หมื่นราย การลงนามความร่วมมือดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะมุ่งมั่นร่วมกันพัฒนาบุคลากร การวิจัยและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป


686 1343