27thApril

27thApril

27thApril

 

September 13,2014

‘กสิกรไทย’แนะเทคนิคลงทุน ออมสดใสหลังวัยเกษีย

     ธ.กสิกรไทย เผยมนุษย์เงินเดือนไทยเกษียณปีละกว่า ๔ แสนคน ส่วนหนึ่งไร้ทิศทางการออมและลงทุนให้เงินงอกเงย หลังเกษียณต้องใช้ ๒๔,๐๐๐ บาทต่อเดือน แนะเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อย วัย ๓๐ ต้องให้ได้ ๒๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน แนะเทคนิคเพื่อชีวิตที่มีความสุขหลังเกษียณ เน้นลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ และไม่มองข้ามเรื่องการดูแลสุขภาพ

นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

     นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ ทั้งที่เป็นข้าราชการและลูกจ้างเอกชนที่จะเกษียณอายุการทำงานในสิ้นเดือนกันยายนนี้ มีจำนวนประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีทำให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยมีแนวโน้มอายุยืนยาวมากขึ้น ดังนั้น ผู้เกษียณต้องมีเงินออมเพื่อรองรับชีวิตหลังการเกษียณมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน โดยฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย (K-Expert) ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิตของผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ โดยหากผู้เกษียณใช้ชีวิตแบบ “เกษียณสุขใจ” คือ ชีวิตหลังเกษียณแบบพอเพียง พออยู่พอกิน จะต้องเตรียมเงินใช้จ่ายประมาณ ๒๙๔,๔๐๐ บาทต่อปี หรือคิดเป็น ๒๔,๕๓๓ต่อเดือน หรือหากอยากมีชีวิตหลังเกษียณแบบ “เกษียณสุขเกษม” คือ ใช้ชีวิตแบบสมบูรณ์พูนสุข จะต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประมาณ ๖๒๕,๓๐๐ บาทต่อปี หรือคิดเป็น ๕๒,๑๐๘ บาทต่อเดือน
     นายทวี กล่าวต่อไปว่า ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตหลังเกษียณจะมี ๕ ส่วน โดยมีสัดส่วนดังนี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำรงชีพ อาทิ ค่าอาหาร ของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย คิดประมาณร้อยละ ๒๗-๒๙ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อาทิ ค่าน้ำไฟ อินเทอร์เน็ต ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน ประมาณร้อยละ ๒๐-๒๒ ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ อาทิ ประกันรถยนต์ น้ำมันและทางด่วน ซ่อมรถ ประมาณร้อยละ ๒๐-๒๓, ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ อาทิ ประกันสุขภาพ อาหารเสริม ค่ารักษาพยาบาล ประมาณร้อยละ ๑๑-๑๓ และค่าใช้จ่ายเพื่อนันทนาการ อาทิ ท่องเที่ยว ทานอาหารนอกบ้าน กีฬา ประมาณร้อยละ ๑๗-๑๘ 


    นายทวี กล่าวอีกว่า มนุษย์เงินเดือนควรตระหนักเรื่องการออมเงินสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากแนวโน้มค่าครองชีพในอนาคตนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงวันที่ต้องเกษียณจริง ค่าครองชีพก็จะสูงจนไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยสำหรับผู้ที่จะเริ่มเก็บออม หากเริ่มออมเมื่ออายุ ๓๐ ปี ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุนในกองทุน หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ การทำประกันชีวิต ฯลฯ ควรจะออมให้ได้อย่างน้อยเดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาทอย่างต่อเนื่อง หากเริ่มเมื่ออายุ ๓๕ ปี ก็ควรออมให้ได้เดือนละ ๓๐,๐๐๐ บาท และหากเริ่มออมเมื่ออายุ ๔๐ ปี ก็ต้องออมให้ได้ถึง ๓๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน ดังนั้น จึงควรจะเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อย เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระหนักเกินไปเมื่ออายุมากขึ้น
    “สำหรับเทคนิคการลงทุนของคนวัยหลังเกษียณ ควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ควรเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องประกันชีวิตและสุขภาพที่ต้องประกันตั้งแต่ยังมีสุขภาพดีอยู่ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินออมยามเกษียณ อีกทั้งควรลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและยืนยาว” รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในท้ายสุด

 


691 1344