27thApril

27thApril

27thApril

 

September 22,2014

เมียผู้ว่าฯจี้‘บ้านแถมเมีย’ รุมจวกรสนิยมต่ำสุด หยามสตรีทำลายวัฒนธรรม

 

    ร้องเรียนผ่านนายกเหล่ากาชาดฯ และ ‘โคราชคนอีสาน’ หมู่บ้าน ‘ดิ ไอคอน’ โฆษณาเกินจริง ‘ซื้อบ้านแถมเมีย’ ติดป้ายโฆษณาทั่วเมือง สคบ.แจ้งเตือนให้ถอดป้ายและแก้ไขข้อความ เข้าข่ายเหยียดหยามสิทธิสตรี นำไปสู่ความเสื่อมเสียวัฒนธรรมของชาติ 

    ตามที่ “โคราชคนอีสาน” ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้พบเห็นการโฆษณาโครงการหมู่บ้าน ดิ ไอคอน ซึ่งระดมโฆษณาด้วยป้ายขนาด ๑๒๐ ซม. x ๘๐ ซม. ตามเสาไฟฟ้าทั่วไป เพื่อโฆษณาประกาศขายบ้าน โดยมีข้อความว่า “บ้านแถมเมีย” ซึ่งเห็นว่า ข้อความที่ใช้ในการโฆษณาไม่เหมาะสม แล้วเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค อีกทั้งประชาชนในจังหวัดอื่นก็ส่งภาพผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กตำหนิการโฆษณานี้ว่า นักธุรกิจโคราชมีสมองที่ตาตุ่มหรือ?
    “โคราชคนอีสาน” จึงโทรศัพท์สอบ ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของหมู่บ้าน ดิ ไอคอน ได้รับการเปิดเผยว่า “ทางโครงการไม่ได้แถมเมีย แต่เป็นการซื้อบ้านแล้วแถมเงินให้ไปแต่งเมีย โดยสามารถกู้ได้ ๑๐% และนำเงินที่ได้ไปใช้ในการสมรส เป็นโปรโมชั่นของหมู่บ้าน ที่ออกแบบมาเชิญชวนลูกค้าสำหรับเดือนกันยายนนี้ ซึ่งมีจำกัดเพียง ๙ หลังเท่านั้น” และเมื่อขอเอกสารก็แจ้งว่า จะส่งให้ภายหลัง

ป้ายโฆษณาบ้านแถมเมียของหมู่บ้านดิ ไอคอน


    ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๗ “โคราชคนอีสาน” ติดตามสอบถามกรณีการโฆษณาของโครงการบ้านจัดสรรนี้จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดครราชสีมา (สคบ.นครราชสีมา) ได้รับการชี้แจงจากนายปริญญา แจ้งหมื่นไวย เจ้าหน้าที่สืบสวน สคบ.นครราชสีมา ว่า การโฆษณาโครงการหมู่บ้านจัดสรร ‘ดิ ไอคอน’ มีประชาชนผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เขียนจดหมายส่งผ่านมาถึงนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา (นางกรคณา ลืออดุลย์ ภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา) เมื่อประมาณ ๒-๓ สัปดาห์แล้ว จากนั้นท่านนายกเหล่ากาชาดฯ ก็นำเรื่องดังกล่าวมาให้สคบ.นครราชสีมา ทำการตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สคบ.ได้ประสานไปยังโครงการบ้านจัดสรรนี้ เพื่อสอบถามเหตุผลในการโฆษณาลักษณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่โครงการบ้านจัดสรรชี้แจงว่า กำลังจะมีการเปลี่ยนข้อความ และโดยเจตนาอ้างว่า ซื้อบ้านในราคาถูก มีเงินเหลือสามารถนำไปแต่งเมียได้ แต่โดยอำนาจของสคบ.จังหวัดฯ จะมีอำนาจในการเรียกเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สคบ.ก็แจ้งให้ทางโครงการฯ ถอดป้ายโฆษณา และปรับแก้ไขข้อความที่ใช้ในการโฆษณา อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาแล้วการโฆษณาของหมู่บ้านนี้นับว่าเป็นการโฆษณาเกินความจริง ขัดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๒๒” 
    นายปริญญา แจ้งหมื่นไวย กล่าวอีกว่า “สำหรับอำนาจหน้าที่ของสคบ.จังหวัดฯ ในการแก้ไขปัญหานี้คือ หากมีเจ้าทุกข์เข้ามาร้องเรียนโดยตรง ทางจังหวัดก็จะส่งเรื่องไปยังสคบ.ส่วนกลาง ซึ่งจะมีคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาทำหน้าที่พิจารณาและตรวจสอบอีกครั้ง แต่ในกรณีนี้เป็นการส่งหนังสือร้องเรียนโดยใช้นามสมมติ ทางสคบ.จังหวัดฯ จึงมีหน้าที่แค่ตรวจสอบในเบื้องต้นและแจ้งให้ทางโครงการทราบเพื่อถอดป้ายและปรับแก้ข้อความ ส่วนในกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการใช้ภาพที่ไม่เหมาะสม คือ ทั้งข้อความและภาพของผู้ชายต่างชาติอุ้มผู้หญิง หากจะพูดตามความเป็นจริงเป็นการสื่อสารที่กำกวมในเรื่องภาษา ส่วนภาพก็อาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดว่าชาวต่างชาติมาซื้อบ้านแล้วก็ได้รับการแถมเมียด้วย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่า ทางโครงการหมู่บ้านต้องจัดหาเมียให้แก่ผู้ซื้อบ้านด้วย และอาจจะกลายเป็นเรื่องของการเหยียดหยามสิทธิสตรี” 


    ต่อมา “โคราชคนอีสาน” ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้ชายรายหนึ่ง ซึ่งเห็นการโฆษณาของหมู่บ้านนี้ก็ยอมรับว่า มีความสนใจ จึงเข้าไปสอบถามรายละเอียดโครงการฯ ที่สำนักงานงานบริเวณถนนสุรนารายณ์ ตำบลจอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ได้รับการชี้แจงจากพนักงานขายในโครงการคนหนึ่งว่า “เป็นโปรโมชั่นของเดือนกันยายนนี้ ที่บอกว่าซื้อบ้านแถมเงินแต่งเมียคือ ซื้อบ้านภายในเดือนนี้ สามารถกู้ซื้อบ้านได้ ๑๑๐% โดยผู้ซื้อจะได้เงินสด ๑๐% จากการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งจะเอาเงินไปแต่งเมียหรือเอาเงินไปทำอะไรก็ได้ ขณะนี้บ้านมีเหลืออยู่ทั้งหมด ๑๒ หลังเท่านั้น”  แต่เมื่อขอเอกสารเพื่อเป็นหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธว่าไม่มี 
    อย่างไรก็ตาม จากการติดตามป้ายโฆษณาของโครงการบ้านจัดสรรนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนจาก “บ้านแถมเมีย” เป็น “บ้านแถมเงินแต่งเมีย” ในบางพื้นที่ แต่ในบางพื้นที่ป้าย “บ้านแถมเมีย” ก็ยังมีการติดตั้งกระจายอยู่ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และการโฆษณาดังกล่าวนี้ตามที่สคบ.จังหวัดนครราชสีมาชี้แจงว่า เป็นการเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค มาตรา ๒๒ ระบุว่า 
    “การโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อความดังกล่าวนั้นจะเป็นข้อความที่เกี่ยวกับแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าหรือบริการ ตลอดจนการส่งมอบ การจัดหา หรือการใช้สินค้าหรือบริการ   
    ข้อความดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม (๑) ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกิน (๒) ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะกระทำโดยใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริง หรือไม่ก็ตาม (๓) ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ (๔) ข้อความที่จะทำให้เกิดความแตกแยกหรือเสื่อมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน (๕) ข้อความอย่างอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ข้อความที่ใช้ในการโฆษณาที่บุคคลทั่วไปสามารถรู้ได้ว่าเป็นข้อความที่ไม่อาจเป็นความจริงได้โดยแน่แท้ ไม่เป็นข้อความที่ต้องห้ามในการโฆษณา ตาม (๑) 


    ทั้งนี้ โครงการหมู่บ้าน ‘ดิ ไอคอน’ เป็นธุรกิจในเครือของบริษัท สตาร์เวลล์ บิซิเนส(๑๙๙๘) จำกัด ซึ่งมีนายบุญมา อิ่มวิเศษ นั่งในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร รวมทั้งยังมีกิจการในเครือจำนวนมาก ได้แก่ ๑. บริษัท สตาร์เวลล์ จำกัด ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเพื่อสุขภาพ ในรูปแบบธุรกิจขายตรง ๒. บริษัท สตาร์เวลล์ลิสซิ่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านสินเชื่อ บ้าน, ที่ดิน, รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีทั้งหมด ๔ สาขา ในจังหวัดนครราชสีมา ๓. บริษัท สตาร์เวลล์เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจค้าส่งสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องใช้ในครัวเรือนและสินค้าเพื่อสุขภาพ ให้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ๔. บริษัท สตาร์เวลล์การ์เด้นท์โฮม รีสอร์ท จำกัด บริการห้องพัก ตั้งอยู่ที่อ.วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา ๕. บริษัท สตาร์เวลล์ซัมมิท (ไทยแลนด์) จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเพื่อสุขภาพในห้างสรรพสินค้า (Modern Trade) 
    ๖. บริษัท สตาร์เวลล์บาหลี รีสอร์ท จำกัด บริการบ้านพัก ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา ห้องคาราโอเกะ และงานจัดเลี้ยงสัมมนาเป็นหมู่คณะ ตั้งอยู่ถนนบายพาส จังหวัดนครราชสีมา โดยมีสำนักงานใหญ่ บริษัท สตาร์เวลล์ บิซิเนส(๑๙๙๘) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่  ๘๕๗/๑ ถ.สุรนารายณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และสำนักงานกรุงเทพฯ ตั้งอยู่เลขที่ ๗๕/๘๒ ถ.ร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 


    สำหรับประวัติของนายบุญมา อิ่มวิเศษ มีน้อยมาก เขามักจะเปิดเผยกับสื่อมวลชนต่างๆ เพียงว่า เป็นลูกชาวนาในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งใช้ความบากบั่นกระทั่งประสบความสำเร็จในธุรกิจ และการศึกษาระดับปริญญาเอก นอกจากนี้ยังเคยปรากฏชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ ๗ ของพรรคชาติพัฒนา เมื่อคราวการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

 


692 1344