ผอ.โรงเรียนนำสื่อมวลชนตรวจสนามฟุตซอล พบชำรุดหลายแห่งที่ขอนแก่น ป.ป.ท.เตรียมสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ผู้นำชุมชน และคณะครู ยันเป็นงบจัดสรรจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ซึ่งได้แจ้งเรื่องการชำรุดเสียหายไปนานแล้วแต่เรื่องเงียบหาย

ตรวจสนามฟุตซอล

    ตามที่เมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ นายเพียรธนา พระเรียง อายุ ๕๗ ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ พร้อมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเหล่าหลวง ม.๔ ต.แคนเหนือ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในความรับผิดชอบของสำนักงานพื้นที่ประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๒ นำคณะสื่อมวลชนตรวจสนามฟุตซอลที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของโรงเรียน สภาพที่เห็นคือพื้นด้านล่างเป็นพื้นคอนกรีต ด้านบนปูทับด้วยแผ่นพื้นพลาสติก ซึ่งแผ่นพลาสติกหลุดร่อนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปลิวว่อนไปทั่วบริเวณใกล้เคียง ชำรุดอย่างหนัก ไม่สามารถใช้สนามได้
    นายเพียรธนา พระเรียง ผู้อำนวยการโรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ กล่าวว่า โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้น ม.๓ มีนักเรียนทั้งหมด ๒๔๐ คน ครูและบุคลากรต่างๆ รวม ๒๒ คน มีลูกหลานจากบ้านเหล่าหลวง ม.๔  บ้านหนองคูน ม.๓ บ้านห้วยชัน ม.๕ บ้านหนองเจ้าเมือง ม.๖ มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยมีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ ทั้งนี้การจัดสร้างสนามฟุตซอลนั้นจำขนาดไม่ได้ว่า กว้างและยาวเท่าใด จำได้เพียงว่า โรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ และทาง สพป.ขอนแก่น เขต ๒ จะเป็นผู้คัดเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมในการที่จะก่อสร้างสนามฟุตซอล เพื่อให้คุ้มค่ากับการให้บริการนักเรียน นักกีฬาและชุมชน ซึ่งในพื้นที่ตำบลแคนเหนือ โรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ได้รับเลือกว่าเหมาะสมในการที่จะมีสนามฟุตซอล เพราะมีนักเรียนในหลายหมู่บ้านมาเรียน จึงมีประกาศของโรงเรียนไตรคามประชาสรรค์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ตามคำสั่งคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ ๒๒/๒๕๔๖ มอบอำนาจเกี่ยวกับการพัสดุมีความประสงค์สอบราคาจ้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งพร้อมอุปกรณ์จำนวน ๑ สนาม ราคากลาง ๑,๙๘๙,๙๐๐ บาท “หลังจากมีการประกาศดังกล่าว ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการขายแบบและยื่นซองสอบราคาที่โรงเรียนระหว่างวันที่ ๒๕ มิถุนายน ถึงวันที่ ๕ กรกฏาคม ๒๕๕๕ มีบริษัทเข้าซื้อเอกสารและยื่นซองสอบราคา ๒ ราย คือ บริษัท เลกา ฟุตซอล จำกัดและบริษัท อิน แทรค แอนด์ โค จำกัด โดยบริษัท เลกา ฟุตซอล จำกัด เป็นผู้ประมูลได้ในราคาต่ำสุดคือ ๑.๘ ล้านกว่าบาท และได้งานสร้างสนามฟุตซอลไป ใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ ๒ สัปดาห์ เนื่องจากไม่ได้เทพื้นคอนกรีต เพราะพื้นคอนกรีตนั้น เป็นพื้นที่เดิมที่ทางโรงเรียนมีและใช้เป็นสนามบาสเกตบอล สนามตะกร้อและสนามกลางในกิจกรรมของโรงเรียนมาหลายปีแล้ว ซึ่งเมื่อการก่อสร้างสนามเสร็จเรียบร้อย ก็มีการทำสัญญาประกันระหว่างบริษัทที่รับจ้างกับทางโรงเรียนเป็นระยะเวลา ๒ ปี ซึ่งได้สิ้นสุดไปเมือเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗” ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กล่าว

    นายเพียรธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า นักกีฬา นักเรียน และชาวชุมชนที่ร่วมกันใช้สนามฝึกซ้อมฟุตซอล ได้แจ้งกับทางโรงเรียนและแจ้งกับทางคณะกรรมการสถานศึกษาว่า สนามฟุตซอลชำรุด น่าจะเกิดอันตรายต่อนักกีฬา นักเรียน ทางโรงเรียนก็ได้ทำการตรวจสอบพบว่าชำรุดเสียหายจริง จึงทำเรื่องแจ้งไปยังบริษัทผู้รับจ้างให้ทราบ ตามหนังสือลงวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ แต่ก็เงียบหาย ไม่มีตัวแทนบริษัทฯ ลงมาตรวจสอบหรือซ่อมแซม ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงประกันงานตามสัญญาจนสิ้นสุดสัญญา แต่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ได้รับการติดต่อจากทางบริษัทฯ ว่า จะขอเงินค้ำประกันและหนังสือสัญญาค้ำประกันคืน แต่ทางโรงเรียนยังไม่คืนให้ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้มีการทำรายงานเกี่ยวกับสนามฟุตซอลไปให้ทาง สพป.ขอนแก่น เขต ๒ ทราบแล้ว โดยมีรายงาน ป.ป.ท.เขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้า
    ล่าสุดเมื่อเวลา ๑๕.๓๐ น. วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ เวชพันธุ์ ผู้อำนวย การสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต ๔ พร้อมทีมพนักงานสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ภาค ๔ ร่วมกันตรวจสอบสนามฟุตซอลใน ๔ โรงเรียน ในเขตพื้นที่สำนักงานพื้นที่ประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๑ ในอำเภอเมืองขอนแก่น ตามคำสั่งของเลขาธิการป.ป.ท. ที่โรงเรียนบ้านหนองกอยสิทธิราษฎร์บำรุง, โรงเรียนท่าบึงประชาสงเคราะห์, โรงเรียนบ้านหนองขามประชาบำรุง และโรงเรียนบ้านคำไฮหัวทุ่งประชาบำรุง
    พ.ต.อ.พิเชษฐ์ เวชพันธุ์ ผอ.ป.ป.ท.เขต ๔ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบการสร้างสนามฟุตซอลนั้น มุ่งตรวจสอบสเปกของสนามฟุตซอล ที่วางแบบก่อสร้างทั่วประเทศ ด้วยงบประมาณก่อสร้าง ใน ๓ รุ่น ๓ ขนาด และ ๓ ราคา คือ ขนาดใหญ่ ราคาการก่อสร้างประมาณ  ๒,๔๙๘,๕๐๐ บาท พื้นสนามจะต้องมีขนาด ๒๒x๒๓ เมตร หนา ๑๐ เซนติเมตร พื้นยางสังเคราะห์มีขนาด ๗๒๖ ตารางเมตร โดยแผ่นยางต้องมี ๒ ชั้น ชั้นล่างมีสีเทา ส่วนชั้นบนทำด้วยยางสังเคราะห์ (EVA) ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ พื้นผิวมีลวดลาย และขอบยางทุกด้านมีลักษณะคล้ายตัวต่อจิ๊กซอว์ ที่สามารถประกอบเข้าด้วยกันได้สนิท มีเสาประตูฟุตซอลพร้อมตาข่าย ๑ คู่ ลูกฟุตซอล ๑๖ ลูก หนังสือกีฬาชุด ๒๕ เล่ม และ DVD สอนกีฬา ๘ ประเภทกีฬา จำนวน ๑๐ แผ่น

    การตรวจสอบในพื้นที่ภาค ๔ โรงเรียนแรก คือ โรงเรียนบ้านหนองกอยสิทธิราษฎร์บำรุง ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นโรงเรียนแรก อยู่ในงบประมาณของปี ๒๕๕๕ วงเงิน ๒,๔๙๘,๕๐๐ บาท คือสนามฟุตซอลขนาดใหญ่ แต่การตรวจสอบไม่มีแผ่นยางสังเคราะห์ EVA หรือแผ่นกันกระแทกในสนาม ทำให้สนามดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้ จากการสอบถามคณะครู และผู้ที่ทำการตรวจรับทราบว่า แผ่นยางถูกนำไปเก็บไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์ของโรงเรียน โดยเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอ้างว่า แผ่นยางถูกน้ำท่วม ทำให้แผ่นยางพอง จึงรื้อออกไปเก็บไว้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า แผ่นยางไม่ได้มาตรฐาน ชำรุดเร็วกว่ากำหนด รวมถึงหนังสือกีฬาชุด มีราคาสูงมากเล่มละ ๑,๒๐๐ บาท และ DVD สอนกีฬาราคาแผ่นละ ๖๐๐ บาท
    “ส่วนสัญญาจัดซื้อจัดจ้างยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบริษัทใดเป็นผู้รับจ้างอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล สำหรับในพื้นที่ที่จะต้อง ตรวจสอบเร่งด่วนในภาค ๔ มี ๒ จังหวัด คือ ขอนแก่น และอุดรธานี รวม ๑๐๙ โรงเรียน เพื่อส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญสอบข้อเท็จจริงต่อไป” พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าว
    พ.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าวในท้ายสุดว่า คณะผู้บริหารโรงเรียนบ้านหนองกอยสิทธิราษฎร์บำรุงเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ ก็พบว่าแผ่นยาง EVA ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์แล้ว ไม่มีส่วนรู้เห็นในการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลที่มีปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบทาง ป.ป.ท.จะมีการรวบรวมข้อมูลส่งไปให้ส่วนกลางให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายพิจารณา ทั้งนี้คณะทำงานจะลงพื้นที่ อ.พล และอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นต่อไป