20thApril

20thApril

20thApril

 

November 04,2014

เทคโนโลยีสร้างบ้านในเยอรมนี

   ในอนาคตการก่อสร้างแบบ Precast จะแทนที่การก่อสร้างก่ออิฐฉาบปูนและจะลดต้นทุนค่าก่อสร้างได้จริง เหมาะกับอุตสาหกรรมก่อสร้างในอนาคต


    เมื่อเร็วๆ นี้ ผมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้พาคณะดูงานอสังหาริมทรัพย์จำนวน ๔๕ ท่านไปประเทศเยอรมนี โดยเป้าหมายหลักก็คือเทคโนโลยีการสร้างบ้านแบบพรีคาสท์ (Precast) ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันโดยได้ไปชมโรงงานประเภทนี้ถึง ๒ แห่ง เพื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้ในไทย เพื่อให้การก่อสร้างบ้านในไทยมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีก
    การก่อสร้างแนวใหม่นี้เป็นระบบการก่อสร้าง (กึ่ง) อัตโนมัติ ใช้ระบบพรีคาสท์ (precast) ที่มักหล่อหรือการเทในแบบ โดยนำชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปมาประกอบหรือติดตั้งเป็นชิ้นงานเป็นบ้าน แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปยังสามารถผลิตหรือหล่อสำเร็จได้ ทั้งที่ๆ ตั้งโครงการ ซึ่งเรียกว่าแบบหล่อกับที่ (Site Cast) กับแบบหล่อจากโรงงาน (Plant Cast) ทั้งนี้หลักการสำคัญของบ้านพรีคาสท์คือไม่มีคานและเสา แต่เป็นระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนักสำเร็จรูปเป็นแผ่นธรรมดา หรือเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปแบบแซนด์วิช เว้นช่องไว้สำหรับเทคอนกรีตเชื่อมซึ่งมักใช้ในประเทศที่มีอากาศหนาว เป็นต้น
    บริษัทแรกที่ไปดูคือ บริษัท Weckenmann Anlagentechnik GmbH  บริษัทแห่งนี้ทำมา ๒ ชั่วรุ่นแล้ว มีพนักงานอยู่ราว ๑๕๐ คน มีรายได้ประมาณ ๑,๒๐๐ ล้านบาทต่อปี (ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ ๔๐ บาทต่อยูโร) สามารถสร้างแบบชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปในการก่อสร้างอาคารประเภทต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มีลูกค้าอยู่ทั่วไปทั้งในยุโรป รวมถึงรัสเซียอีกด้วย  จุดขายสำคัญของบริษัทนี้ก็คือการมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีคุณภาพของแผ่นชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ดี และมีหลักประกันสำหรับสินค้าของบริษัท


    สำหรับสินค้าและบริการของบริษัทนี้เริ่มตั้งแต่การช่วยวางแผนและออกแบบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปที่จะเหมาะกับงานในบริษัทพัฒนาที่ดินหนึ่ง ซึ่งงานส่วนนี้ถือเป็นงานหลักของบริษัท นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการศึกษาวิจัย การก่อสร้างและประกอบอาคารในภาคสนาม  ตลอดจนการบริการและการสนับสนุนหลังการขาย เพื่อให้การก่อสร้างอาคารของบริษัทพัฒนาที่ดินแต่ละแห่งมี Service and Support
    โรงงานที่สองที่ไปชมคือโรงงาน EBAWE Anlagentechnik GmbH โดยโรงงานนี้ก่อตั้งในปี ๒๕๑๖ มีรายได้ถึง ๖,๘๐๐ ล้านบาท มีพนักงาน ๔๐๐ คน มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปอยู่ถึง ๓๐ โรงงานทั่วเยอรมนี และให้บริการขนส่งชิ้นส่วนไปก่อสร้างในระยะทางไม่เกิน ๒๐๐ กิโลเมตรจากโรงงานแต่ละแห่ง ในแต่ละวันใช้ปูนถึง ๑๒๐ ลูกบาศก์เมตร ผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปได้ถึง ๑,๖๐๐ ตารางเมตร ในการตั้งโรงงานผลิต ณ ที่แห่งหนึ่ง มีค่าก่อสร้างอาคารประมาณ ๘๐ ล้านบาท และค่าเครื่องจักรประมาณ ๓๒๐ ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ ๙ เดือนโดยประมาณ
    สำหรับราคาขายชิ้นส่วนสำเร็จรูปนั้น ในกรณีกำแพง คิดเป็นเงินตารางเมตรละ ๑,๔๐๐ บาท ส่วนพื้นมีราคาตารางเมตรละ ๖๐๐ บาท  หากบิรษัทใดสนใจซื้อเทคโนโลยีควรจะมีผู้ไปฝึกงานที่บริษัทประมาณ ๑๐ คนๆ ละประมาณ ๒-๓ เดือน ในกรณีที่นำมาผลิตในประเทศไทย จะผลิตบ้านได้ประมาณ ๑๕๐ หลังต่อเดือน และใช้ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ ๗ ปี
    การใช้ระบบ Precast นี้ สำหรับประเทศ ไทยอาจจะไม่ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แต่ช่วยร่นระยะเวลา ซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุนทางการเงิน แต่ในอนาคตอาจลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย เพราะค่าแรงในประเทศไทยจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ในกรณีประเทศเยอรมนี การใช้ระบบ Precast ช่วยลดต้นทุนค่าก่อสร้าง ๒๐% จากระบบการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป และใช้ระยะเวลาสั้นกว่า จาก ๘ เดือน เหลือเพียง ๔ เดือน


    สำหรับในประเทศไทย บมจ.พฤกษา เรียล เอสเตท เป็นบริษัทแรกๆ ที่นำระบบ Precast มาใช้จนประสบความสำเร็จเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินที่มียอดขายสูงสุด โดยข้อดีของเทคโนโลยีนี้ก็คือ คุณภาพในการก่อสร้างที่แทบไม่ผิดเพี้ยน มีความแข็งแรงทนทาน แลดูเรียบสวย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพราะไม่มีเสา และยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ไปรบกวนผู้อยู่อาศัยโดยรอบอีกด้วย
    ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ มีโรงงาน Precast เป็นของตนเอง  แต่ในอนาคต การก่อสร้างของบริษัทเล็กๆ จะมีบริษัทรับสร้างบ้านด้วยระบบ Precast มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า การก่อสร้างบ้านจะเป็นในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น และควรที่ไทยจะส่งออกเทคโนโลยีการก่อสร้างนี้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน นำไทยเป็น “พี่ใหญ่” ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในอาเซียน

ดร.โสภณ  พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส


687 1347