29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

November 27,2014

สมาชิกออมทรัพย์ตร.ทุกข์หนัก หวั่นทุจริตเบี้ยวจ่ายปันผล กก.ยันหายไม่เกิน ๑๐๐ ล.

   สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ทุกข์หนัก เดินหน้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ให้ตรวจสอบการดำเนินงานหวั่นมีการทุจริต เพราะยังไม่มีการเรียกประชุมใหญ่ และยังไม่ได้รับเงินปันผล กรรมการสหกรณ์ฯ ยืนยันใครทุจริตพร้อมจัดการเด็ดขาด เงินหายก็ต้องได้คืน หายไม่เกินร้อยล้านแน่ รอสำนักตรวจบัญชีสหกรณ์ตรวจสอบรายละเอียด


สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์

 

    ตามที่เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๑.๐๐ น. ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ ชั้นล่างศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ มีข้าราชการตำรวจ และข้าราชการบำนาญ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กว่า ๕๐ คน นำโดย พ.ต.ท.วิโรจน์ มาลีแก้ว ข้าราชการบำนาญ พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จากทุกๆ สภ.ทั้ง ๑๗ อำเภอ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ร้องทุกข์ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ไม่มีการประชุมใหญ่จ่ายเงินปันผลประจำปี ซึ่งเชื่อว่าจะมีการทุจริตภายในสหกรณ์ฯ และยังไม่มีการดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำความผิด รวมทั้งไม่มีการชี้แจงให้สมาชิกกว่า ๒,๕๐๐ คนทราบ นอกจากนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนถ้วนหน้า
    พ.ต.ท.วิโรจน์ มาลีแก้ว แกนนำ กล่าวว่า สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ เพื่อต้องการความช่วยเหลือ กรณีสหกรณ์ฯ มีแนวโน้มไปในทางทุจริต เพื่อให้ผู้มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้มีการประชุมใหญ่ และมีการจ่ายเงินให้สมาชิกสหกรณ์ฯ ที่มีกว่า ๒,๕๐๐ คน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการกู้หนี้ยืมสิน ตนและเพื่อนตำรวจมีความหวังว่า ศูนย์ดำรงธรรมจะเป็นที่พึ่งในการแก้ปัญหา สามารถดำเนินการได้ หากไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ จะยกระดับการเรียกร้องที่สูงขึ้นไปกว่านี้ รวมทั้งขอวอนผ่านสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำการตรวจสอบสหกรณ์ฯ แห่งนี้ด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะทุจริตหรือไม่


    พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ รอง ผบก. ภ.จว.สุรินทร์ กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีผู้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ เข้าทำการตรวจสอบ และเข้าควบคุมการทำงานของสหกรณ์ฯ ตรวจพบว่า มีเงินขาดบัญชี ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปตัวเลขที่ชัดเจน เป็นสาเหตุที่ไม่สามารถกำหนดจ่ายเงินปันผล หรือประชุมสามัญประจำปีได้ เนื่องจากผู้ตรวจเงินบัญชีสหกรณ์ยังสรุปยอดไม่ได้ชัดเจน ๑๐๐% ซึ่งผู้ตรวจบัญชีแจ้งว่าใกล้จะเสร็จแล้ว การทุจริตไม่ได้มาจากกระบวนการบริหารจัดการ แต่พบว่าบางเรื่องเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ภายในสหกรณ์ฯ ซึ่งมีการดำเนินคดีไปแล้ว ๑ คนทั้งทางแพ่งและอาญา ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เพราะเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ฯ ส่วนที่ตรวจพบว่ามีการทุจริตก็จะดำเนินคดีไปเรื่อยๆ
    “สำหรับการจ่ายเงินปันผล และประชุมสามัญประจำปี ซึ่งเป็นเรื่องของสมาชิกจำนวนมาก และเป็นเงินจำนวนมาก ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานก็ต้องรอบคอบด้วย ยอดเงินบริหารจัดการสหกรณ์ฯ มีประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ส่วนระยะเวลาในการจ่ายเงินปันผลและประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตนตอบไม่ได้ ต้องรอผลการตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ชัดเจนก่อน ขณะนี้คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ ทุกคนก็พยายามเร่งรัดในทุกๆ เรื่องเพื่อให้เสร็จสิ้นโดยรวดเร็วที่สุด” พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ กล่าว


    พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ กล่าวอีกว่า ปัญหาทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เป็นเรื่องที่เป็นมานานหลายปี มีลักษณะคล้ายดินพอกหางหมูไปเรื่อยๆ ตนถือว่าเป็นความโชคดีของสมาชิกด้วยซ้ำที่ตรวจเจอ ขณะที่มีสหกรณ์มากมายหลายแห่งที่ตรวจเจอหลังจากมีความเสียหายเกิดขึ้นมากมายแล้ว ซึ่งเป็นความโชคดีในความโชคร้ายที่สหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ตรวจพบก่อนว่า มีการทุจริต พบการดำเนินงานที่บกพร่อง และสามารถดำเนินการได้ในทันที กรณีที่ตำรวจทุก สภ.จากทั้ง ๑๗ อำเภอเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ ตนมองว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่สามารถตอบคำถามได้ในทุกๆ เรื่อง เพราะว่าการตอบคำถามต้องตอบได้ในรายละเอียด ๑๐๐%  ไม่ใช่คาดว่า น่าจะ เพราะไม่ใช่การตอบคำถามแค่ในเรื่องของเงิน แต่ต้องตอบรายละเอียด ออกมาว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้                      ได้พยายามชี้แจงไปยังหัวหน้าหน่วยในทุกๆ สภ.ทั้งจังหวัดสุรินทร์แล้วว่า เงินปันผล และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ เพราะอยู่ในช่วงกระบวนการของผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์ที่กำลังตรวจสอบอยู่ เหตุที่ล่าช้าเพราะเงิน และสมาชิกมีมากกว่า ๒,๐๐๐ ราย เงินกว่าสองพันล้านบาท จึงต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด ๑๐๐%
    “ตนขอยืนยันว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ไม่เจอทางตันแน่นอน เพราะเงินที่หายไปต้องมีคนรับผิดชอบ ใครที่ทุจริตไปก็เรียกกลับมา เงินหายไประบบไหนก็เรียกกลับมา ยืนยันว่าเงินที่หายไปไม่ถึงร้อยล้าน ซึ่งผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์แจ้งว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ต้องจบให้ได้ เพราะเขาต้องไปทำงานอื่นต่อไป” พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ กล่าวในท้ายสุด


ฉบับที่ ๒๒๖๐ วันพุธที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๗


683 1342