28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

November 27,2014

บุกทลายแก๊งหลอกเช่ารถไปจำนำ เตรียมออกหมายจับตำรวจพัวพัน

 

คนซ้าย :  น.ส.มณีวรรณ ขันคำ  คนขวา :  พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา


    เมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น.วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.๔ และพล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น บุกเข้าทำการตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย ๘ จุดในเขต จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภายในเรือนพระยาพาเลซ ร้านนวดแผนโบราณ ริมบึงแก่นนคร เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังสืบทราบว่าเป็นสถานที่ที่ขบวนการแก๊งรถเช่ารายใหญ่ของภาคอีสานใช้เป็นพื้นที่ของการติดต่อเรียกค่าไถ่ผู้เสียหายรวมไปถึงเป็นสถานที่สำหรับการเก็บกักรถที่ร่วมขบวนการเช่ารถเถื่อนทั้งหมด
    พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการ จับกุมตัว น.ส.มณีวรรณ ขันคำ หรือหลุน อายุ ๔๒ ปี ฐานรับของโจร ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ โดยระบุว่าไม่ได้รับจำนำหรือร่วมขบวนการแก๊งรถเช่าดังกล่าวแต่อย่างใด  เพียงแต่ช่วยหารถเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนขยายผลตรวจค้นไปยังอู่ซ่อมรถกิตติชัย บ.คำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า สีขาว สวมทะเบียนปลอม พร้อมควบคุมตัวนายกิตติชัย เพิ่มวิไล อายุ ๔๑ ปี เจ้าของอู่ดำเนินคดี เบื้องต้นให้การปฏิเสธเช่นกันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยรถเก๋งฟอร์ดคันดังกล่าว มีนายอดุลย์ พิมพ์ทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง เป็นคนนำมาซ่อม ซึ่งเป็นคนหนึ่งในขบวนการที่ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับแล้ว     


    “แนวทางการสืบสวนสอบสวนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อสืบหาข้อมูลของขบวนการดังกล่าว ก่อนนำไปสู่การจับกุม น.ส.สุรีย์นิภา ภูริภัทรวัฒนกุล ฐานฉ้อโกงประชาชน ภายในหมู่บ้านสบเป็ด ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ออกอุบายขอเช่ารถจากผู้เสียหายหลายคนในหลายจังหวัดของภาคอีสาน แต่กลับเอาไปจำนำบ่อนการพนัน เจ้าของรถอยากได้คืน ต้องเสียเงินค่าไถ่คันละหลายหมื่นบาท บางคันมากกว่า ๑ แสนบาท นอกจากนี้ยังคงขยายผลจับกุม จ.ส.ต.สวัสดิ์ ทุมสิทธิ์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่นที่ร่วมขบวนการดังกล่าวด้วย” 
    พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวต่ออีกว่า จากผลการตรวจค้นทั้ง ๘ จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ๖ คน รถยนต์ ๖ คัน ผู้ต้องหาบางรายไม่ยินยอมให้แถลงข่าว ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนรับจำนำรถให้กับเจ้าของ เรือนพระยาพาเลซ จริง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ ๑๐ ค่าจอดรถเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท หาก ๔ เดือนไม่จ่ายดอกเบี้ย ก็จะนำไปจำหน่ายต่อทันที อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลยังคงพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ ซึ่ง รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเน้นหนักในการสอดส่องและกวาดบ้านของตนเองอย่างมาก ซึ่งการตรวจค้นจับกมดังกล่าวนี้ขอใช้ตำแหน่งเป็นเดิมพันว่า และจะสืบสวนสอบสวนคดีความทำอย่างตรงไปตรงมา แม้จะมีตำรวจเข้ามาพัวพัน หากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะจับกุมโดยไม่ไว้หน้า อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ยืนยันชัดเจนว่ามีตำรวจชั้นประทวน ๒ นาย คาดว่าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการขออนุมัติศาลจังหวัดขอนแก่นออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  


ฉบับที่ ๒๒๖๐ วันพุธที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๗


700 1351