20thApril

20thApril

20thApril

 

December 18,2014

ตลท.ประกาศกลยุทธ์ปี’๕๘ มุ่งสู่ตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัล รองรับฐานธุรกิจลุ่มน้ำโขง

   ก้าวสู่ปีที่ ๔๐ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์หลักในปี ๒๕๕๘ มุ่งขยายสินค้าและบริการด้วยคุณภาพระดับสากลรองรับฐานธุรกิจใหม่ พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำการพัฒนาร่วมกับตลาดทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง คาดจะเพิ่มมูลค่าตลาดรวมจากหุ้น IPO อีก ๒.๕ แสนล้าน และคุณภาพในทุกมิติให้กับตลาดทุนไทย

ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์

 

    ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นโจทย์สำคัญสำหรับ ตลท. ที่จะก้าวสู่ปีที่ ๔๐ ซึ่งในอนาคตสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปมีความผันผวนและไม่แน่นอนมากขึ้น ดังนั้น ตลท. จึงวางทิศทางองค์กรโดยมุ่งเน้นแนวคิด “Diversified-Digital-Sustainable-Internationalized (D-D-S-I)” ได้แก่ การเพิ่มความหลากหลายของตลาดและประเภทสินทรัพย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าเดิมและขยายฐานผู้ลงทุน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงานในทุกมิติ เพื่อตอบสนองทุกภาคส่วนในตลาดทุน ซึ่งสอดรับกับทิศทางของธุรกิจในระดับโลก รวมถึงการพัฒนาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุนให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ให้มากขึ้น นอกเหนือจากการมุ่งเน้นการส่งเสริมบรรษัทภิบาลที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
    “ขณะเดียวกัน ตลท. ได้ประสบความสำเร็จจากการร่วมทำงานกับบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทไทยได้รับการคัดเลือกเข้าไปอยู่ใน DJSI จำนวน ๑๐ แห่ง รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ออกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งด้านการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป สำหรับการพัฒนากิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตลท. เดินหน้าสนับสนุนการดำเนินวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) เพื่อให้ SE เหล่านี้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ขณะที่ ตลท. ยังมุ่งพัฒนางานไปสู่ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นที่กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) และระดับสากล (Internationalized) เพื่อวางรากฐานไปสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในปี ๒๕๖๓” ดร.สถิตย์ กล่าว


    ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวถึงการดำเนินงานในปี ๒๕๕๘ ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะฟื้นขึ้นและเติบโตสูงกว่าปี ๒๕๕๗ รองรับการขยายตัวของธุรกิจในภูมิภาค GMS และการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปีหน้า ตลท. จึงวางกลยุทธ์หลักในปีหน้า ๔ ด้าน ได้แก่ ๑. เพิ่มจำนวนและคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยจะเน้นเพิ่มบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ที่เป็นผู้นำในระดับอุตสาหกรรมจาก ๔ อุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและสุขภาพ พลังงานทางเลือก และเกษตรและอาหาร รวมถึงการรับบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศในกลุ่ม GMS อีกด้วย โดยตลท. ตั้งเป้าในปี ๒๕๕๘ เพิ่มมูลค่าตลาดรวมจากหลักทรัพย์เข้าใหม่ (IPO) รวม ๒๕๐,๐๐๐ ล้านบาท และมูลค่าระดมทุนเพิ่มใน ตลท. อีก ๑๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒. เพิ่มสภาพคล่องในตลาด เพื่อให้ ตลท. มีสัดส่วนผู้ลงทุนที่สมดุลมากขึ้น จึงต้องการเพิ่มการลงทุนโดยเฉพาะหุ้นในกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้มีผู้ถือหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุนและยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพเพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง สำหรับการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะมุ่งส่งเสริมความเข้าใจของผู้ลงทุน ทำให้เกิดผู้ลงทุนมืออาชีพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาบุคลากรบริษัทสมาชิก และสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลสภาพคล่องให้เหมาะสม โดยในปี ๒๕๕๘ มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหุ้นอยู่ที่ ๕๒,๐๐๐ ล้านบาท และในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณซื้อขายอยู่ที่ ๑๙๐,๐๐๐ สัญญาต่อวัน
    ๓. ขยายสินค้าให้มีความหลากหลายและเป็นสากล เช่น ผลักดันให้มีการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งในตลาดหุ้นและ TFEX ขณะเดียวกันยังเชื่อมโอกาสการลงทุนใน GMS ด้วยการจัดทำและเผยแพร่รายชื่อหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค GMS รวมถึงเดินหน้าสร้างความร่วมมือในการพัฒนาความรู้ตลาดทุนภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลท. มีแผนร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในต่างประเทศเพื่อขยายการเติบโตในระดับโลกอีกด้วย และ ๔. พัฒนาระบบงานเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดย ตลท. จะเริ่มใช้ระบบชำระราคาใหม่ของตลาดหุ้นในปี ๒๕๕๘ และเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนหลักทรัพย์ทุกประเภทผ่านระบบออนไลน์ การรับและเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนระบบออนไลน์ เช่น Corporate Action ขณะเดียวกันมีแผนศึกษาเตรียมพร้อมเพื่อลดระยะเวลาในการชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์ให้สามารถดำเนินการได้ภายใน ๒ วันทำการ (T+2) จากปัจจุบันอยู่ที่ ๓ วันทำการ (T+3)


    สำหรับการพัฒนาตลาดทุนระยะยาวในปี ๒๕๕๘ นางเกศรา ตั้งเป้าหมายว่า “มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และมีบรรษัทภิบาลที่ดี (ESG) โดยจัดทำและเผยแพร่บัญชีรายชื่อบริษัทดังกล่าว รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกิดความตระหนักให้ทั่วถึงในตลาดทุน และส่งเสริมบริษัทที่มีศักยภาพให้ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ DJSI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมุ่งส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องให้แก่ผู้ลงทุนผ่านโครงการต่างๆ เช่น ห้องเรียนนักลงทุน เงินทองต้องวางแผน เป็นต้น”
    “อย่างไรก็ดี ปี ๒๕๕๘ จะเป็นก้าวที่สำคัญของ ตลท. เพราะนอกจากจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ ๕ แล้ว ตลท. ยังเตรียมที่จะย้ายไปอาคารใหม่ในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบรองรับความเป็น Digital Exchange (การเป็นตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัล) และเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ตลาดทุนไทย เพื่อส่งเสริมความรู้การลงทุนให้กับผู้ลงทุนและสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นวางแผนการเงินการลงทุน และพร้อมขยายพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการขยายตัวของธุรกิจตลาดทุนได้มากขึ้น” นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวในท้ายสุด


ฉบับที่ ๒๒๖๔ วันอังคารที่ ๑๖ - วันเสาร์ที่ ๒๐ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗


683 1343