อีสานโพลเผยผลสำรวจ “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ๒๕๕๗” เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวอีสานเกี่ยวกับบุคคล องค์กร และผลงานที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งปี ในสาขาต่างๆ ๑๕ รางวัล “ประยุทธ์” สุดยอดผู้นำชายแห่งปี ฝ่ายหญิงยังเป็น “ยิ่งลักษณ์”

    เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำการสำรวจเรื่อง “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ๒๕๕๗” เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานเกี่ยวกับบุคคล องค์กร และผลงานที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งปี ในสาขาต่างๆ ๑๕ รางวัล โดยดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า  จากการลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของคนอีสานในหัวข้อ รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ๒๕๕๗ เกี่ยวกับบุคคล องค์กร และผลงานที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งปี ในสาขาต่างๆ ๑๕ รางวัล โดยทำการสำรวจ ๒ ช่วง ระหว่างเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และในครึ่งปีหลัง ตลอดทั้งเดือนธันวาคม จากกลุ่มตัวอย่าง ๒,๒๒๙ ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ๒๐ จังหวัด ผลปรากฏว่า สุดยอดนักการเมืองและผู้บริหารภาครัฐฝ่ายชายแห่งปี ร้อยละ ๓๖.๑ เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนร้อยละ ๓๔.๙ รองลงมาคือ ทักษิณ ชินวัตร ด้วยคะแนนร้อยละ ๑๗.๑ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ ๔.๕ ขณะที่ผลการสำรวจนักการเมืองและผู้บริหารภาครัฐฝ่ายหญิงแห่งปี ผลปรากฏว่า *ร้อยละ ๕๘ เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง ๖๓.๓) ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้คะแนนร้อยละ ๓๖.๓ รองลงมาคือ นางปวีณา หงสกุล ร้อยละ ๓.๕ สำหรับสุดยอดนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมแห่งปี อันดับ ๑ ยังคงเป็นของนางปวีณ หงสกุล ร้อยละ ๗.๔ รองลงมาคือ พระสุเทพ  ปภากโร ร้อยละ ๕.๗ และนายบิณฑ์  บันลือฤทธิ์ ร้อยละ ๔.๙ และอีกร้อยละ ๕๕.๙ ยังคงเห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสมเช่นกัน
    “การสำรวจนี้ จะให้ชาวอีสานเสนอชื่อ บุคคลหรือองค์กรหรือผลงานที่สมควรได้รับรางวัลแห่งปีในสาขาต่างๆ ๑๕ รางวัล แบบไม่มีตัวเลือกให้แม้จะเป็นรางวัลประจำปี ๒๕๕๗ แต่ประชาชนมักจะเสนอชื่อบุคคลหรือองค์กรโดยใช้ผลงานในปัจจุบันและในอดีตประกอบการพิจารณา ซึ่งจากการประมวลผล พบว่า คะแนนสูงสุด ๓ อันดับแรกแต่ละรางวัล นั่นจะได้คะแนนที่ลดหลั่นกันไปและเมื่อเทียบกับการให้คะแนนจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมาคะแนนยังคงสูสี โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมือง,ดารานักแสดง,สื่อมวลชน รวมไปถึงละครจอแก้วที่คนอีสานให้ความสนใจและเทคะแนนนิยมได้ครบทุกองค์กรและหน่วยงานที่อีสานโพลได้ทำการสำรวจ ทั้งนี้สำหรับสถานีโทรทัศน์แห่งปีนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ ยังคงครองใจคนอีสานที่คะแนนร้อยละ ๕๔.๐ รองลงมาคือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๗ ด้วยคะแนน ร้อยละ ๒๙.๗ หนังสือพิมพ์แห่งปี ยังคงเป็นของไทยรัฐ ด้วยคะแนน ๕๐.๕ ตามด้วยเดลินิวส์ ร้อยละ ๑๖.๕ และ ข่าวสด ร้อยละ ๔.๕”

    ดร.สุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจยังคงครอบคลุมไปถึงสำนักโพลแห่งปี ที่คนอีสานยังคงยกให้สวนดุสิตโพล เป็นอันดับที่ ๑ ด้วยคะแนน ร้อยละ ๑๘.๖ รองลงมาคือ เอแบคโพลร้อยละ ๑๑.๘ และนิด้าโพล ร้อยละ ๓.๕ และยังคงพบว่ายังคงมีอีกร้อยละ ๕๒.๔ ที่ยังคงเห็นว่าไม่เหมาะสมซึ่งการสำรวจสำนักโพลนั้นมีการห้ามโหวตให้อีสานโพลอย่างเด็ดขาดเพื่อความเป็นกลางในการดำเนินงานทั้งหมด สำหรับละครจอแก้วแห่งปี อันดับ ๑ ละครเรื่องพราว ช่อง ๗ คะแนนร้อยละ ๑๙.๕ ตามด้วย สามีตรีตรา ช่อง ๓ ร้อยละ ๑๐.๘ และทรายสีเพลิง ช่อง ๓ ร้อยละ ๕.๑ พระเอกแห่งปีอันดับ ๑ เป็นของ เวียร์  ศุกลวัฒน์ คะแนนร้อยละ ๙.๘ รองลงมาคือ โป๊บ  ธนวรรธน์ ร้อยละ ๙.๑ ส่วน ณเดชน์  คูกิมิยะ ที่รั้งอันดับที่ ๑ มาตลอดตกมาอยู่อันดับ ๓ ด้วยคะแนน ร้อยละ ๖.๒ โดยในจำนวนนี้ร้อยละ ๓๑.๗ คนอีสานยังคงเห็นว่าไม่มีผู้เหมาะสม สำหรับนางเอกแห่งปีเป็นของ อั้ม-พัชราภา ร้อยละ ๑๔.๘ รองลงมาคือ พลอย เฌอมาลย์ ร้อยละ ๗.๗ ส่วนญาญ่า-อุรัสยา ได้อันดับ ๓ จากที่รั้งอันดับ ๑ มาตลอด ได้คะแนนร้อยละ ๖.๙ นักร้องชาย ไผ่ พงศธร ยังคงครองใจคนอีสานด้วยคะแนนอันดับ ๑ ต่อเนื่องที่ร้อยละ ๑๐.๓ รองลงมา คือ ศร สินชัย คะแนนร้อยละ ๗.๓ และมนต์แคน แก่นคูณ ร้อยละ ๕.๖ นักร้องหญิงแห่งปี  อันดับ ๑ เป็นของหญิงลี  ศรีจุมพล ร้อยละ ๒๓.๒ รองลงมาคือ ต่าย อรทัย ร้อยละ ๙.๒ เพลงดังแห่งปี ที่ ๑ ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ร้อยละ ๑๕.๑ และผัวเก่า ร้อยละ ๔.๑ ผู้ประกาศข่าวชายแห่งปี เป็นของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ร้อยละ ๕๐.๕ รองลงมาคือ นายกิตติ สิงหาปัด ร้อยละ ๙.๐ ผู้ประกาศข่าวหญิงแห่งปี ได้แก่ น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ร้อยละ ๒๒.๕ รองลงมาคือ น.ส.เปรมสุดา สันติวัฒนา ร้อยละ ๙.๘ และพิธีกรข่าวเศรษฐกิจแห่งปี เป็นของนายบัญชา ชุมชัยเวทย์ ร้อยละ ๑๘.๙ รองลงมาคือ นายภัทร จึงกานต์กุล ร้อยละ ๖.๔ และในจำนวนนี้อีกร้อยละ ๖๒.๗ ยังคงเห็นว่าไม่มีผู้ที่เหมาะสม

ฉบับที่ ๒๒๖๕ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗