กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกกำลัง ๑๐ หน่วยงานพันธมิตร กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี จัดมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ผ่านทาง www.thailandmegasale.com เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ คาดหลังจบงานมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจกว่า ๕๐๐ ล้าน พร้อมเดินหน้าธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ขยายตลาดสินค้าชุมชน

    นายวิชัย โภชนกิจ 

    นายวิชัย โภชนกิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยมของผู้บริโภค และวงการการค้าโลกมีอัตราการขยายตัวและการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ธุรกิจ e-Commerce ของไทยมีมูลค่ากว่า ๗๔๔,๔๑๙ ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม B2B ถึงร้อยละ ๗๙.๘ และเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (๑-๕ คน) ถึงร้อยละ ๖๖.๘ กระทรวงพาณิชย์จึงได้นำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยในการเพิ่มศักยภาพ ด้านการตลาดและส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยให้เป็นที่รู้จักและรับรู้ทั้งในระดับประเทศและบนเวทีการค้าโลก โดยเฉพาะการทำการตลาดผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปแบบการค้าที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ/สังคมและพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วสามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา
    นายวิชัย กล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงจัดทำ ThaiCommerceStore.com ตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ สินค้า OTOP, Organic, Halal, GI (สินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) และ Fairtrade (การค้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย) ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์แล้ว ๕๔๗ ร้านค้า และคาดว่าจะมีร้านค้าออนไลน์ ๑,๐๐๐ ร้านค้า ภายในเดือนมกราม ๒๕๕๘ พร้อมร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร Shop Online ชั้นนำ เช่น เว็บไซต์ tarad.com,lnwshop.com,pantavanich.com, weloveshopping.com,quinl.com, goodchoiz.com และ b2bthai.com เพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์นอกเหนือจากการจัดทำ Catalog สินค้า และ Application ThaiCommerceStore ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายช่องทาง ผ่าน Computer, Tablet และ SmartPhone ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

    “การสร้างตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ ThaiCommerceStore นี้ ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ประกอบการหรือธุรกิจ SMEs ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการนำ e-Commerce ไปใช้เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี ๒๕๕๘ ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยในระยะยาวเพราะนั่นคือ การนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชนส่งผลต่อความอยู่ดีกินดี เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่น และเศรษฐกิจของประเทศ” นายวิชัย กล่าว
    นายวิชัย เปิดเผยอีกว่า กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งส่งเสริมและผลักดันให้ธุรกิจไทยเพิ่มช่องทางการค้าทางออนไลน์ และกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการตื่นตัวและหันมาซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นการลดต้นทุนของภาคธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ผนึกกำลังกับ ๑๐ หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสถาบันการเงิน ๕ แห่ง ได้แก่ กรุงไทย กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา ไทยพาณิชย์ บัตรกรุงไทย และช้อปออนไลน์ชั้นนำของประเทศ ร่วมกันจัดงาน “Thailand Online Mega Sale 2015” มหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ระหว่างวันที่ ๑๕-๓๐ ธันวาคมนี้ รวม ๑๖ วัน ผ่านทาง www.thailandmegasale.com 

    นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้มีการลดราคาสินค้าและบริการ ตั้งแต่ร้อยละ ๒๐-๘๐ โดยมีเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง DBD Registered ช้อปออนไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยม ภายใต้กลุ่ม OnlinesaleTH.com และช้อปออนไลน์ชั้นนำของประเทศ เข้าร่วมมหกรรมลดราคาฯ กว่า ๒,๐๐๐ เว็บไซต์ โดยมีสินค้าและบริการนับพันรายการเข้าร่วมลดราคา เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สินค้าตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง น้ำหอม เพลงและสื่อบันเทิง อาหารและบริการเพื่อสุขภาพ รวมถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากไปรษณีย์ไทยและสถาบันการเงินต่างๆ ร่วมกันลดค่าบริการในการจัดส่งและการชำระค่าสินค้าเป็นพิเศษ สำหรับผู้ซื้อสินค้าและบริการผ่านทางเว็บไซต์ www.thailandmegasale.com
    นายวิชัย ชี้ให้เห็นว่า การจัดงาน Thailand Online Mega Sale 2015 นอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ประชาชนและผู้บริโภคเกิดการตื่นตัว และหันมาซื้อขายสินค้าและบริการทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้ได้รับความเชื่อถือ มีผู้เข้ามาซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันและพัฒนาส่งเสริมระบบ Digital Commerce ของไทย หรือการค้าบนระบบดิจิทัลของไทยให้มีความแข็งแกร่ง ตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล และที่สำคัญเป็นการให้ของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนทั่วประเทศด้วย 
    “ทั้งนี้ คาดว่าหลังจบงานมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ Thailand Online Mega Sale 2015 จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจของไทยกว่า ๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีอีกด้วย โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมซื้อสินค้าและบริการราคาสุดพิเศษ ได้ที่ www.thailandmegasale.com” รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวทิ้งท้าย

ฉบับที่ ๒๒๖๕ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗