January 31,2015
๒๕ ปี ที่มทส.พลิกป่าเสื่อมโทรม สู่มหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับต้น
ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย (Universitas Indonesia, UI) ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวระดับโลก หรือ GreenMetric Ranking of World Universities 2014 เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคมที่ผ่านมา ผ่านทางเว็บไซต์http://greenmetric.ui.ac.id/ranking/year/2014 โดยการจัดอันดับครั้งนี้ถือเป็นปีที่ ๕ เพื่อเปรียบเทียบและแสดงให้เห็นถึงความพยายามของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก ในการสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีความยั่งยืน (Sustainability) มีการจัดการมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environment Friendly University)
ทั้งนี้ ผลของการจัดลำดับนี้ได้มาจากการคำนวณจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ส่งมาทาง online โดยข้อมูลแบ่งออกเป็น ๖ ประเภทหลัก และมีการให้ค่าน้ำหนักด้านต่างๆ ดังนี้ สภาพแวดล้อม สถานที่ตั้ง และระบบสาธารณูปโภค (Setting and Infrastructure) ๑๕% การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Energy and Climate Change) ๒๑% การจัดการขยะ (Waste Management) ๑๘% การใช้น้ำ (Water Usage) ๑๐% การจัดการระบบขนส่ง (Transportation) ๑๘% และการจัดการศึกษา (Education) ๑๘% ผลปรากฏว่า ในปีนี้มีมหาวิทยาลัยจำนวน ๓๖๐ แห่งจาก ๖๐ ประเทศ ทั้งในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย และทวีปแอฟริกา เข้าร่วมจัดอันดับ ซึ่งมากกว่าปี ๒๐๑๓ ที่มีจำนวนเพียง ๓๐๑ แห่ง โดยผลมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ ๑ ของโลกได้แก่ University of Nottingham
สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย พบว่า การจัดอันดับในครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลกอยู่จำนวน ๑๑ แห่ง โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ ๔ ของประเทศ ดีขึ้นจากเดิมซึ่งอยู่ในอันดับที่ ๘ ของประเทศ ส่วนอันดับโลกถูกจัดอยู่ในอันดับที่ ๗๖ ของโลก
อธิการบดี มทส. กล่าวด้วยว่า การประกาศผลการจัดอันดับในครั้งนี้ พบว่า ปีนี้มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ให้ความสำคัญและตื่นตัวในการพัฒนาการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวสูงมาก และคาดว่าจะมีมหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้ามารับการจัดอันดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถือเป็นข่าวดีสำหรับมหาวิทยาลัยที่กำลังย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ ๒๕ แห่งการสถาปนา หรือ “ปีรัชดา มทส.” จากป่าเสื่อมโทรมสู่มหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับต้นๆ ของประเทศ และ ๑ ใน ๑๐๐ ของโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยมีแนวคิดมหาวิทยาลัยสีเขียวมาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยการประกาศนโยบาย “มหาวิทยาลัยเขียว-สะอาด (Green and Clean University)” จากเดิมที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกว่า ๗,๐๐๐ ไร่ เป็นป่าเสื่อมโทรม มทส. ใช้เวลา ๒๕ ปี ในการปลูกป่าเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี กระทั่งปัจจุบันกลายเป็น “มหาวิทยาลัยในรีสอร์ต” ที่มีพื้นที่ป่าเขียวชอุ่ม มีการจัดวางผังและกันพื้นที่เป็นป่าอนุรักษ์ภายในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการมหาวิทยาลัยเขียว-สะอาดอย่างจริงจัง มีนวัตกรรมและต้นแบบด้านต่างๆ ที่ใช้ดำเนินงานภายในมหาวิทยาลัยและขยายผลสู่สังคมภายนอกมากมาย อาทิ ทางด้านสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์และการประหยัดพลังงาน มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนรถประจำทางซึ่งวิ่งให้บริการรับส่งนักศึกษาและบุคลากรภายในเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด การนำน้ำเสียผ่านกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ๑๐๐% การมีเทคโนโลยีการกำจัดขยะแบบครบวงจร และเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก ซึ่งสามารถบริหารจัดการกำจัดขยะภายในมหาวิทยาลัยได้แบบยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต่อมาได้ขยายผลไปสู่หน่วยงานองค์กรทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การรณรงค์ส่งเสริมให้บุคลากรและพนักงานของมหาวิทยาลัยลด ละ เลิก การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย การรณรงค์ ส่งเสริม รวมถึงออกมาตรการประหยัดอนุรักษ์น้ำและพลังงาน การจัดตั้งธนาคารวัสดุรีไซเคิล การจัดตั้งร้านศูนย์บาท การรณรงค์ให้ใช้จักรยานเดินทางระหว่างอาคารแทนการใช้รถยนต์ การณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าและภาชนะที่ย่อยสลายได้ภายในมหาวิทยาลัย เป็นต้น เป็นความร่วมมือร่วมใจของนักศึกษาและบุคลากรทุกระดับในการนำนโยบายของมหาวิทยาลัยไปสู่การปฏิบัติโดยมีจุดหมายที่มุ่งจะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เขียว สะอาด และปราศจากมลพิษอย่างแท้จริง
ฉบับที่ ๒๒๗๒ วันจันทร์ที่ ๒๖ - วันเสาร์ที่ ๓๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
682 1342