องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นโคราช ระดมสมาคมชุมชนในเขตเทศบาลฯ และกลุ่มรักษ์ลำตะคอง เร่งรัด ‘พลเอกประยุทธ์’ และ ‘ผู้ว่าฯเบิร์ด’ บังคับใช้กฎหมาย ให้ผู้บุกรุก ‘มอปลาย่าง’ ออกจากริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หลังเปิดร้านอาหารสร้างผลกระทบต่อภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมมานานกว่า ๒๐ ปี ชี้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องร่วมสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้สังคม ล่าสุดศาลปกครองไต่สวนผู้ประกอบการ ๒๙ รายแล้ว หลังยื่นฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราว

    เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เภสัชกรจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพันเอกเสมอ คงมา นายกสมาคมชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา, นายวิชชุ ชุปวา ประธานกลุ่มรักษ์ลำตะคอง และเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา จำนวนกว่า ๓๐ คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกทำร้านอาหารบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง เป็นเวลานานกว่า ๒๐ ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการสำรวจพบว่า มีผู้บุกรุกเพื่อประกอบกิจการร้านอาหาร ตั้งแต่กม.ที่ ๗๙-๘๐ และช่วงกม.ที่ ๘๒-๘๔ เนื้อที่ประมาณ ๓๐ ไร่ จำนวน ๕๑ ราย แต่ไม่ได้รวมร้านอาหารด้านฝั่งซ้ายขาลงกรุงเทพฯ พร้อมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

คำสั่งเฉียบขาดให้รื้อถอน
    สำหรับการยื่นหนังสือครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ที่ห้องประชุมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สถาบันวิจัยลำตะคอง นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด โดยมีคำสั่งให้ผลักดันผู้ประกอบกิจการร้านอาหารออกจากพื้นที่บุกรุกบริเวณมอปลาย่าง โดยไม่ให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่ พร้อมทั้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น อบต.หนองสาหร่าย  สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา แขวงการทางนครราชสีมาที่ ๒  และสำนักชลประทานที่ ๘ (นครราชสีมา) บังคับใช้กฎหมายตามระยะเวลาที่กำหนดของแต่ละหน่วยงานภายในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการออกจากพื้นที่เอง หากส่วนราชการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้แจ้งความกล่าวหา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา 
    ทั้งนี้ หากไม่สำเร็จจะดำเนินการตามกฎหมาย ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั้ง ๕๑ ราย ปิดกิจการภายในวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ โดยทำการรื้อถอนออกจากพื้นที่ทั้งหมดภายในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ และในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ให้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และมอบหมายให้อำเภอปากช่องติดตามดูท่าทีและการเคลื่อนไหวของผู้ประกอบกิจการทั้ง ๕๑ ราย พร้อมทั้งให้กองทัพภาคที่ ๒ เชิญผู้ประกอบการที่ไม่ยอมรื้อถอนร้านอาหาร มาปรับทัศนคติในฐานะผู้บังคับใช้กฎอัยการศึก 

ผู้ประกอบการโร่ฟ้องศาล
    ต่อมาผู้ประกอบการจึงยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่ออบต.หนองสาหร่าย โดยผู้ว่าราช การจังหวัดนครราชสีมาปฏิเสธคำอุทธรณ์ เพราะผู้ประกอบการบุกรุกพื้นที่หน่วยงานราชการจริง และยืนยันคำสั่งเดิมคือทุกร้านอาหาร ต้องรื้อออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ผู้ประกอบการร้านอาหารมอปลาย่าง นำโดยนายสมหวัง ดินขุนทด ยังดึงดันดำเนินการต่อ โดยอ้างว่าจังหวัดยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสถานที่ใหม่เพื่อรองรับ อีกทั้งที่ผ่านมาเคยตกลงกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาว่าจะให้เช่าที่อยู่ต่อได้ ผู้ประกอบการจำนวน ๖ ราย จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๘ เพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวก่อน กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามีคำสั่งให้อบต.หนองสาหร่าย นำหนังสือประกาศคำสั่งรื้อถอนไปติดตั้งไว้ตามร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างหลายจุด โดยมีกำหนดให้รื้อถอนภายในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างมีปฏิกิริยาไม่พอใจต่อคำสั่งนี้เป็นอย่างมาก 

‘หมอโจ้’ปลุกทวงคืนลำตะคอง
    เภสัชกรจักริน เชิดฉาย หรือหมอโจ้ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมา ริมเขื่อนลำตะคอง บริเวณมอปลาย่าง ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกบุกรุกเพื่อประกอบกิจการร้านอาหารเป็นจำนวนมาก แม้จะมีคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้วว่า ผู้บุกรุกทำผิดกฎหมายและมีคำสั่งให้รื้อถอนออกไปทั้งหมด แต่ก็ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทำให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง มีผลกระทบต่อภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และมีการปล่อยของเสียลงอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เพื่อเป็นการรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ สร้างบรรทัดฐานที่ดีให้สังคม รักษาสิทธิของผู้บริโภคน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง คืนพื้นที่สาธารณะให้แก่สังคม โดยปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม และนโยบายของรัฐบาลที่จะปฏิรูปประเทศให้โปร่งใส ต่อต้านการทุจริต หรือคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา สมาคมชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และกลุ่มรักษ์ลำตะคอง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจงหวัดนครราช สีมาได้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็วในกรณีนี้   
หวั่น!กระทบน้ำอุปโภค-บริโภค
    ด้านนายวิชชุ ชุปวา ประธานกลุ่มรักษ์ลำตะคอง กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคองเป็นแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ มีวัตถุประสงค์สำคัญในการก่อสร้าง ๔ ประการ คือ ๑. เพื่อช่วยด้านการเกษตรบริเวณรอบเขื่อนลำตะคอง จำนวน ๒๓๘,๐๐๐ ไร่ ๒. เพื่อบรรเทาอุทกภัย ๒ ฝั่ง ๓. เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการประปา และ ๔. เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด นอกจากปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ยังเกิดปัญหาการแย่งทรัพยากรน้ำจากความเจริญเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาจะเกิดผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเขตเทศบาลนครนครราชสีมา การออกมาร่วมเคลื่อนไหวให้ผู้ว่าฯ เร่งบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เพื่อประกอบกิจการร้านอาหาร เพราะหวั่นเกรงว่าหากไม่รีบดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จะทำให้เกิดการบุกรุกอย่างไม่สิ้นสุด และส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำเพื่อนำมาอุปโภค-บริโภค อีกทั้งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา

‘ผู้ว่าฯเบิร์ด’ยึดทำถูกกฎหมาย
    ภายหลังรับหนังสือ นายธงชัย (เบิร์ด) ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกบริเวณมอปลาย่างว่า ขณะนี้ผ่านพ้นขั้นตอนการประกาศของเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ออกจากบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองแล้ว แต่มีแกนนำบางคนไปปรึกษากับนักกฎหมาย และร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอเรียนว่าถ้าเป็นนักกฎหมายที่ดีต้องแนะนำให้ผู้ประกอบการทำให้ถูกกฎหมาย นี่คือ ในแง่ของนิตินัย แต่ถ้ามองในแง่สิทธิมนุษยชน คนอีกหลายล้านคนกลับมาถูกคนส่วนหนึ่งนำสมบัติของคนทั้งชาติไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ทำไมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไม่พิจารณาสิทธิของคนส่วนใหญ่ด้วย เพื่อช่วยกันทำตามสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะมีคนอื่นๆ อ้างสิทธิที่ไม่ถูกต้อง แล้วบ้านเมืองจะเอาอะไรเป็นหลักเกณฑ์ 
    นายธงชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไม่ได้ผลักดันผู้ประกอบการออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ให้ผู้ประกอบการที่บุกรุกรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ออกเพราะผิดกฎหมาย ส่วนจะออกได้หรือไม่ได้นั้น ก็ให้เขาใช้สิทธิตามข้อกฎหมายให้ครบถ้วนก่อน โดยเฉพาะผู้ประกอบการประมาณ ๗ รายที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมา ขณะนี้ศาลยังไม่ได้นัดไต่สวน แต่ขอดูเอกสารเพิ่มเติมอยู่ และทางจังหวัดก็พร้อมจัดหาพื้นที่ใหม่มารองรับ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ผู้ประกอบการจะมาต่อรองว่าเลือกที่ดินแปลงไหนไม่ได้ และไม่ใช่หน้าที่ของผู้บังคับใช้กฎหมายจะหาทางออกให้ด้วย ผมยินดีพบกันครึ่งทางถ้าคุยกันรู้เรื่อง แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งผมพร้อมจะรับผิดชอบ ถ้าผมผิดกฎหมายข้อไหน หรือละเมิดสิทธิมนุษยชนข้อไหน การปฏิบัติหน้าที่ขณะนี้ผมไม่ได้กังวลอะไร และไม่อยากให้ประชาชนมาให้กำลังใจ เพราะว่ากำลังใจมีอยู่แล้วในการทำหน้าที่  
 

จี้‘พลเอกประยุทธ์’จริงจัง
    จากนั้นเภสัชกรจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพันเอกเสมอ คงมา นายกสมาคมชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา, นายวิชชุ ชุปวา ประธานกลุ่มรักษ์ลำตะคอง และเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปที่กองทัพภาคที่ ๒ ค่ายสุรนารี เพื่อยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็ว กรณีผู้บุกรุกอ่างเก็บน้ำลำตะคองประกอบกิจการร้านอาหาร
 

ท้วงกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ต้องรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์
    ‘โคราชคนอีสาน’ ได้รับรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เภสัชกรจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา และพันเอกเสมอ คงมา นายกสมาคมชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมกันลงนามในหนังสือถึงประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่บุกรุกริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง ภายหลังกลุ่มผู้บุกรุกได้ขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ นายจริยะ สัตยารักษ์ เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ชำนาญการ รักษาราชการแทนธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา พร้อมด้วยนางชลธิชา รุโจประการ เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ปฏิบัติการ และนายเอกชัย กิตติภูมิ นายช่างสำรวจชำนาญงาน ร่วมประชุมให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 
    ต่อมาประธานอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มีหนังสือที่ สม ๐๐๐๗/๒๒๑ ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ แจ้งให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุ ชะลอการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างออกไปก่อน ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา และสมาคมชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งถูกละเมิดสิทธิโดยผู้บุกรุกบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองมากว่า ๒๐ ปี จึงมีความเห็นว่า ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรเคารพสิทธิแก่ประชาชนทั่วไป ที่จะได้ใช้ลำตะคองเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการใช้น้ำอุปโภค-บริโภค ตลอดทั้งเป็นการรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ สร้างบรรทัดฐานที่ดีให้สังคม โดยปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคองให้สวยงาม และนโยบายของรัฐบาลที่จะปฏิรูปประเทศให้โปร่งใส ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ ดังนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรสนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็วในกรณีดังกล่าว

๒๙ รายร้องศาลชะลอรื้อถอน 
    ล่าสุดการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมาของผู้ประกอบกิจการร้านอาหารที่บุกรุกริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง ‘โคราชคนอีสาน’ ได้รับรายงานว่า ขณะนี้แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม โดยกลุ่มแรกยื่นฟ้องจำนวน ๖ ราย และกลุ่มที่สองมายื่นฟ้องเพิ่มอีก ๒๓ ราย รวมทั้งสิ้น ๒๙ ราย โดยผู้ประกอบการทั้งหมดได้ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อชะลอการรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างไปก่อน ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ซึ่งเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลปกครองนครราชสีมาได้นัดไต่สวนคำขอคุ้มครองชั่วคราวผู้ประกอบการ ๑ ราย จากนั้นวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ นัดไต่สวนผู้ประกอบการ ๑๖ ราย และวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ศาลปกครองนครราชสีมานัดไต่สวนผู้ประกอบการที่เหลืออีก ๑๒ ราย เพื่อพิจารณามีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ตามที่ผู้ประกอบการทั้ง ๒๙ รายยื่นขอในท้ายคำฟ้อง  
    หากมีความคืบหน้า ‘โคราชคนอีสาน’ จะนำมาเสนอข่าวต่อไป

ฉบับที่ ๒๒๗๖ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๘