29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

February 25,2015

ภัยจากโทรศัพท์มือถือ

 

ภัยจากเนื้อหมูปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง
    คุณทราบหรือไม่ว่าเนื้อหมูที่กินกันอยู่ทุกวันนี้ อาจมีอันตรายแฝงอยู่ โดยเฉพาะเนื้อแดงที่ดูสวยน่ากินนั้น อาจมี “สารเร่งเนื้อแดง” แฝงอยู่ เพราะผู้เลี้ยงหมูเขาใช้สารนี้ผสมในอาหารเลี้ยงหมู เพื่อให้เนื้อหมูมีปริมาณเนื้อแดงเพิ่มขึ้น เพราะดูน่ากินและขายได้ราคาดีกว่าเนื้อหมูที่มีชั้นไขมันหนาๆ  เมื่อเรากินเนื้อหมูแดงสวยงามแล้ว มันจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย  เหตุผลคือ มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างในปริมาณสูงโดยเราไม่รู้ตัว แต่ผลที่เกิดกับร่างกายเราสามารถสังเกตได้ คือ อาจจะมีอาการใจสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นอันตรายมากสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ  โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราจะหลีกเลี่ยงได้ยังไง? ถ้าเลิกกินเนื้อหมูได้ก็นับว่าดี แต่ถ้าเลิกไม่ได้จะทำยังไง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเนื้อหมูที่แม่ค้าในตลาดวางขายอันไหนปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดง ข้อแนะนำในการเลือกซื้อเนื้อหมู เพื่อให้ปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดงมีดังนี้
    ๑) เลือกเนื้อหมูที่มีมันแทรกระหว่างกล้ามเนื้อเห็นได้ชัด
    ๒) เนื้อหมูต้องไม่มีสีแดงผิดปกติ
    ๓) ส่วนที่เป็นหมูสามชั้น สัดส่วนของมันหมูต้อง ๑ ส่วน ต่อเนื้อแดง ๒ ส่วน หากพบว่ามีส่วนเนื้อมากผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงไม่ควรซื้อ
    ๔) เมื่อกดดู เนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง 
    หากท่านยอมเสียเวลาสังเกตตรวจสอบสักเล็กน้อยท่านย่อมปลอดภัย (อย.Report ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๖๓)

ภัยจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” หรือ “อาหารเสริม” มีการโฆษณาอย่างครึกโครมในแทบทุกสื่อรวมทั้งสื่อออนไลน์  ทำให้คนที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพและความงามหลงเชื่อ คิดว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก โดยมองข้ามความปลอดภัยและวิธีการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง ความจริงเรากินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ ออกกำลัง ทำจิตใจให้เบิกบาน เราก็สุขภาพดีแล้ว ไม่เห็นต้องกินอะไรเสริมอีก แต่ด้วยศิลปะในการจูงใจของผู้ขาย ประกอบกับคำโฆษณาสรรพคุณเกินจริง  ผู้บริโภคจึงหลงเชื่อ คิดว่าอาจได้ผลเลยตกเป็นเหยื่อกันทั้งแผ่นดิน ขอเตือนผู้บริโภคให้รู้ความจริงว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่ยา ไม่มีสรรพคุณในการป้องกัน บำบัด บรรเทา รักษาโรคใดๆ ทั้งสิ้น” แต่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่กินนอกเหนือจากการกินอาหารตามปกติเท่านั้น การที่เขาโฆษณาสรรพคุณต่างๆ นั้น ท่านอย่าหลงเชื่อเพราะจะเสียเงินเปล่า แถมไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย
    เมื่อไม่นานมานี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ “อย.” ร่วมกับตำรวจได้จับผู้ผลิตและยึดของกลางผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า ๕๐ ล้านบาท ที่จังหวัดพิษณุโลก ยี่ห้อ “โอ้โห บาย ปูนิ่ม”  ที่โฆษณาทางเฟซบุ๊ค  สร้างเครือข่ายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายกว่า ๔,๐๐๐ คนทั่วประเทศ จากผลการทดสอบพบว่าตัวผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างว่าช่วยลดน้ำหนัก มีการใส่สาร “ไซบูทรามีน” ซึ่งเป็นสารต้องห้าม เพราะมีอันตรายร้ายแรงต่อผู้บริโภค ทำให้หัวใจขาดเลือด เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ (อย.Report ปีที่ ๕  ฉบับที่ ๖๐,  ฉลาดซื้อ ปีที่ ๒๑  ฉบับที่ ๑๖๖)

คิดให้ดีก่อนซื้อบริการเสริมความงาม
    ทุกคนเป็นห่วงเรื่องความสวยความงาม แต่โปรดระวังกันหน่อยนะครับ ทุกวันนี้มีสถานบริการเสริมความงามเต็มเมือง บางแห่งใช้คำว่า “คลินิก” ทั้งๆ ที่ไม่มีหมอดูแล หากมีพนักงานขายจากคลินิกเสริมความงาม มาชวนให้ตอบแบบสอบถาม ทดสอบสภาพผิวฟรี ด้วยเครื่องมือที่ดูไฮเทคน่าเชื่อถือ แล้วก็โน้มน้าวให้ซื้อคอร์สบำรุงผิว รักษาผิว ฟังดูแล้วก็เคลิ้มยอมตกลงใจง่ายๆ
    ความจริงที่เกิดขึ้นจนเกิดเป็นเรื่องร้องเรียนถึง “สคบ.” หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คือ บริการไม่เป็นไปตามที่โฆษณา ตามที่พนักงานขายเคยบอกกับผู้บริโภค เช่น บอกว่าเข้าใช้บริการได้ทุกสาขาก็ไม่จริง ไม่มีหมอประจำ จำนวนครั้งบริการที่ตกลงไว้ก็หดหายไปไม่ตรงตามที่ตกลง เมื่อผู้บริโภครู้ทันเห็นว่าถูกเอาเปรียบ ต้องการยกเลิกและขอเงินคืนก็ไม่ได้ เพื่อป้องกันปัญหาไม่ถูกหลอก จึงขอเตือนผู้บริโภคว่า ก่อนตกลงใจซื้อบริการจากคลินิกเสริมความงาม ควรรอบคอบ ศึกษารายละเอียดให้รู้จักและมั่นใจก่อน อย่าคิดถึงแต่โปรโมชั่น เห็นว่าราคาถูก  ถ้ายังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จักสถานบริการนั้นดีพอ ก็ตอบปฏิเสธไปก่อน เพราะเป็นสิทธิของเรา จะได้ไม่เสียใจภายหลัง (สคบ.สาร ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๓๐๙) 

ภัยจากโทรศัพท์มือถือ
    เคยเตือนเรื่องแอร์โฮสเตสสาวชาวจีนเสียชีวิตเนื่องจากพูดโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ที่ขอนแก่น มีหนุ่มเสียชีวิตจากการใช้โทรศัพท์มือถือขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี่ ตามข่าวว่าผู้ตายเพิ่งอาบน้ำเสร็จเนื้อตัวยังไม่แห้ง จึงขอเตือนผู้บริโภคว่าพึงระวังเรื่องการใช้โทรมือถือ เพื่อความปลอดภัย ควรงดใช้ในขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ หากจำเป็นมากก็ควรถอดปลั๊กออกก่อนจึงพูด
    ขอฝากเตือนท่านที่ใช้โทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน ใครที่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนซิม โปรดรีบไปติดต่อกับศูนย์บริการโทรศัพท์เครือข่ายที่ท่านใช้บริการอยู่โดยด่วน เพื่อลงทะเบียนซิมให้เรียบร้อย หากพ้นกำหนดวันที่ ๓๑  กรกฎาคม ๒๕๕๘ จะมีปัญหา คือ ซิมของท่านจะถูกระงับการใช้งาน โทรเข้า–โทรออก ไม่ได้ เรื่องนี้ทาง “กสทช” ประกาศมานานแล้ว เพื่อผลในเรื่องความปลอดภัยและเป็นผลดีในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ช่วยให้สะดวกเวลาใช้สิทธิหรือร้องเรียนปัญหาต่างๆ (ฉลาดซื้อปีที่ ๒๑ ฉบับที่ ๑๖๗)

บุญเลิศ  สดสุชาติ
ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค มหาสารคาม


ฉบับที่ ๒๒๗๖ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๘


683 1333