27thApril

27thApril

27thApril

 

March 21,2015

ปลื้มผลสัมฤทธิ์ ๒๕ ปี‘มทส.’ โตตามแผนเป็นที่พึ่งสังคม

   อธิการบดี มทส. ปลื้มใจครบรอบ ๒๕ ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย มีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์ ทั้งโตตามแผนและโตเต็มแผน ได้รับการประเมินให้อยู่ในกลุ่ม “ดีเลิศด้านการวิจัย” และ “ดีเยี่ยมด้านการเรียนการสอน” พร้อมทั้งผลิตบัณฑิตได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า 
อธิการบดี มทส.

    ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า มทส. กำลังเข้าสู่ “ปีรัชดา มทส.” หรือ “ครบ ๒๕ ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย” ในวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ แม้มหาวิทยาลัยจะเปิดดำเนินการเพียง ๒๕ ปี แต่จากการประเมินผลตามแผนแม่บท ทั้งแผนวิชาการและแผนกายภาพ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา นับว่า มทส.มีสัมฤทธิผลเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า มทส.โตตามแผนและโตเต็มแผน ทั้งด้านการมีปณิธานตั้งแต่แรกตั้งว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยขนาดกลาง การจัดการเรียนการสอน การเปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เป็นไปตามแผนและได้รับความสำเร็จ ทั้งจากการถูกประเมินให้อยู่ในกลุ่ม “ดีเลิศด้านการวิจัย” และ “ดีเยี่ยมด้านการเรียนการสอน” จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย การได้รับการประเมินในระดับระดับดีมาก อันดับ ๑ ของมหาวิทยาลัยของรัฐ และอันดับ ๒ ของประเทศ กลุ่มมหาวิทยาลัยที่เน้นการผลิตบัณฑิตและวิจัย จากการประเมินคุณภาพภายนอกสถาบันอุดมศึกษา รอบสอง เป็นต้น ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนทางด้านกลุ่มสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีการจัดการ วิทยาศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ ซึ่งกำลังเตรียมการเปิดรับนักศึกษาในอนาคตอันใกล้นี้ รวมแล้วปริญญาตรี ๓๕ หลักสูตร ปริญญาโท ๓๘ หลักสูตร และปริญญาเอก ๓๕ หลักสูตร มีนักศึกษาประมาณ ๑๒,๕๐๐ คน และผลิตบัณฑิตไปแล้ว ๑๘ รุ่น จำนวนกว่า ๒๐,๐๐๐ คน 


    ทางด้านสัมฤทธิผลของการผลิตบัณฑิต พบว่า เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงความสำเร็จที่มหาวิทยาลัยสามารถผลิตกำลังคนที่ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการและตลาดแรงงานอย่างแท้จริง จะเห็นได้จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) ได้รายงานข้อมูลสารสนเทศของ สกอ. ในปี ๒๕๕๓ พบว่า มทส. มีอัตราการได้งานทำถึงร้อยละ ๘๖ ซึ่งถือเป็นอัตราสูงที่สุดของประเทศ และมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การที่บัณฑิตของ มทส. มีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศถึงร้อยละ ๒๕.๘ จากโครงการสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการ ปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘  ต่อสาธารณะ โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  รวมถึงการตรวจประเมินภายใน (Internal Quality Audit: IQA) ที่ได้วัดระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต มทส. อยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งมีความสอดคล้องกับการสำรวจความพึงพอใจของสถานประกอบการต่อนักศึกษาสหกิจศึกษา ก็ยืนยันความพึงพอใจของนักศึกษา มทส. ในระดับที่สูงมากเช่นกัน 
    นอกจากนี้ มทส.ได้พยายามผลักดันยุทธศาสตร์การเสริมสร้างวัฒนธรรมคุณภาพ การวิจัย การเสริมสร้างนวัตกรรมต่างๆ พันธกิจสัมพันธ์ รวมถึงการก้าวไปสู่สากล ด้วยการมีความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรในต่างประเทศ กว่า ๘๐ ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ มทส. เป็นต้นแบบในหลายๆ ด้าน อาทิ การเป็นต้นแบบของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ การเป็นผู้นำด้านระบบสหกิจศึกษาที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน การสนับสนุนให้เกิดผลงานวิจัย นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากความร่วมมือและเกิดผลกระทบต่อสังคม การมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการวิจัยอย่างพอเพียง การมีสัดส่วนคณาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอกสูงสุด สัดส่วนจำนวนผลงานอาจารย์ต่อผลงานวิจัยสูงสุด ส่งผลให้ มทส. มีความเข้มแข็งด้านการวิจัย และได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้เป็น ๑ ใน ๙ มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ 


    “อย่างไรก็ตาม แม้ มทส.จะเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ แต่มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันถาวรของสังคมที่ไม่มีวันสร้างเสร็จสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นพลวัต ไม่สามารหยุดนิ่งได้ ขณะนี้เรากำลังดำเนินการจัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ระยะที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐–๒๕๖๔) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อธำรงไว้ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเป็นที่พึ่งของสังคม ที่พร้อมจะนำปัญหาของสังคมมาเป็นโจทย์วิจัยของมหาวิทยาลัย การนำผลงานวิจัยไปต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรมหรือสร้างประโยชน์สู่เกษตรกร มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนได้จริง เพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืนตามปณิธานที่ตั้งไว้สืบไป” อธิการบดี มทส. กล่าวในที่สุด


ฉบับที่ ๒๒๘๑ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


682 1344