19thApril

19thApril

19thApril

 

March 21,2015

ปปช.เตรียมฟันทุจริตโซล่าเซลล์ หากพบมีมูลเอาผิดทั้งวินัยอาญา


    ป.ป.ช.บุรีรัมย์ เร่งตรวจสอบรวบรวมข้อมูลหลักฐานการจัดซื้อเสาไฟโซล่าเซลล์ ๓๑ โครงการ หลังพบจัดซื้อราคาสูงกว่าท้องตลาด ชี้หากพบมีมูลจัดซื้อไม่โปร่งใสทุจริตต่อหน้าที่ เตรียมสรุปสำนวนชี้มูลความผิดทั้งวินัยและอาญา เผยหลังจัดตั้งมา ๒ ปี มีเรื่องร้องเรียนแล้ว ๑๓๖ เรื่อง ส่วนใหญ่อปท.ถูกร้องเรียนกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่  

นายสุธรรม คุ้มทรัพย์


    เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘ นายสุธรรม คุ้มทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างโครงการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ก่อสร้างระบบส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือเสาไฟโซล่าเซลล์ตามหมู่บ้านตำบล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จ.บุรีรัมย์จำนวน ๓๑ โครงการว่า ในส่วนของ ป.ป.ช.จังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปขอข้อมูลหลักฐานกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการจัดซื้อเสาไฟโซล่าเซลล์  พร้อมทั้งสุ่มตรวจคุณภาพ และราคาเสาไฟที่จัดซื้อและติดตั้งไว้ตามหมู่บ้าน ตำบล ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเสาไฟโซล่าเซลล์ที่ทางท้องถิ่นได้รับงบประมาณจัดซื้อ และติดตั้งไว้ในบางพื้นที่ ติดตั้งได้ไม่กี่วันก็ชำรุดใช้การไม่ได้ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดกับประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณของรัฐโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งยังพบว่าหลายแห่งมีการจัดซื้อในราคาสูงกว่าท้องตลาด เฉลี่ยชุดละ ๑๑๔,๐๐๐ บาท ขณะที่บางแห่งซื้อในราคาเพียงชุดละ ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาที่แตกต่างกัน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถชี้มูลความผิดได้ว่า การจัดซื้อในราคาสูงผิดปกตินั้น มีการทุจริตหรือไม่อย่างไร ต้องรอผลการตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน และสอบพยานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควรเนื่องจากได้รับงบมาจัดซื้อถึง ๓๑ โครงการ  


    ผู้อำนวยการ สำนักงานป.ป.ช.บุรีรัมย์ กล่าวอีกว่า หากตรวจสอบแล้วเสร็จพบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด มีการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ก็จะสรุปเสนอต่อคณะกรรมการฯ ว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ทาง ป.ป.ช.ก็จะไม่รับไว้ไต่สวน  แต่หากผลการตรวจสอบพบว่ามีมูลและมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า ท้องถิ่นใดจัดซื้อจัดจ้างในโครงการดังกล่าวมีการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ ก็จะสรุปสำนวนเสนอคณะกรรมการฯ ให้รับไว้ไต่สวน และจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งหากผู้ถูกกล่าวหาไม่มีหลักฐานมายืนยันหรือแก้ข้อกล่าวหาได้ ก็จะถูกชี้มูลความผิดและดำเนินการตามกฎหมายทั้งวินัยและอาญาต่อไป
    ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า ภายหลังมีการจัดตั้ง ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์มาเป็นเวลา ๒ ปี มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำทุจริตรวมจำนวน ๑๓๖ เรื่อง ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกร้องเรียนกล่าวหามากที่สุดจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยในจำนวนนี้เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ ๘๖ เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้าง ๔๖ เรื่อง ร่ำรวยผิดปกติ ๔ เรื่อง


ฉบับที่ ๒๒๘๑ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


686 1344