นายชูเกียรติ โพธิโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศเขตพัฒนาการท่องเที่ยว โดยในพื้นที่ของอีสานใต้ ๕ จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อยู่ในกลุ่มเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ จึงมีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและตรวจสอบร่างแผนพัฒนาการท่องเที่ยวหลักฯ ของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งภาครัฐในการที่จะมาช่วยกันนำเสนอข้อมูล และระดมความคิดเห็นกันในการที่จะหาแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในพื้นที่ของอีสานใต้ ๕ จังหวัด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสานใต้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำให้เกิดศักยภาพในการที่จะนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในอีสานใต้ให้มีความเข้มแข็งและเสนอขายให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาการเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านแหล่งท่องเที่ยว บุคลากรทางการท่องเที่ยว ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว โดยให้มีการสอดรับกับปี ๒๕๕๘ จะมีการเปิดเศรษฐกิจพิเศษ เขตเศรษฐกิจอาเซียน AEC ทำให้มีความพร้อม สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้

    ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า รูปแบบการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอีสานใต้ ควรมีอัตลักษณ์และมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวในจังหวัดของตนเอง และนำอัตลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดมาร้อยเรียงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว ที่จะนำเสนอขายแก่นักท่องเที่ยวได้ โดยทุกจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว เช่น สุรินทร์ถิ่นเมืองช้าง เป็นต้น การท่องเที่ยวของอีสานใต้นั้น มีเส้นทางท่องเที่ยว มีจุดเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เช่น ประเทศกัมพูชา เข้าออกด่านถาวร อ.ช่องจอม ด่านชายแดนถาวร อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ช่องสะงำ และช่องเม็กที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งทั้งหมดเป็นศักยภาพที่เด่นในเรื่องของกายภาพ จะทำให้เกิดการท่องเที่ยว เชื่อมโยงได้เป็นอย่างดี โดยในปีนี้ทางรัฐบาลกำหนดให้เป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบวิถีไทย ดังนั้น จะต้องร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ของความเป็นไทย วิถีชีวิต ประเพณีต่างๆ รวมทั้งศิลปะและวัฒนธรรม ให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพ ในการพร้อมขาย ให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งตลาดเอเชีย และยุโรปด้วย ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมท่องเที่ยววิถีไทย ไทยเที่ยวไทย และเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่อไป

ฉบับที่ ๒๒๘๑ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘