วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยพล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และพลตรีมนัส หนูวัฒนา ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ร่วมกันแถลงจับกุมนางลำไพ หรือ เจ๊หมู  มีศรี อายุ ๔๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๒/๖ หมู่ ๓ ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และนายธรรมรัตน์ หรือ หมาน้อย หาญยิ่ง อายุ ๓๘ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๘ หมู่ ๑๒ ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ พร้อมยาบ้าจำนวน ๕,๑๘๕ เม็ด, ยาไอซ์จำนวน ๒๗.๑๔  กรัม, อาวุธปืนขนาด ๙ มม. ๒ กระบอก พร้อมลูกกระสุนขนาด ๙ มม.จำนวน ๒๓ นัด, กระสุนปืนคาร์บินจำนวน ๒๖ นัด และลูกระเบิดชนิด เอ็ม ๗๙ จำนวน ๓ ลูก, โทรศัพท์มือถือ ๕ เครื่อง สร้อยคำทองคำและเลทข้อมือรวมน้ำหนัก ๖ บาท เงินสดจำนวน ๙๒,๑๐๐ บาท รถจักรยานยนต์  ๑ คัน
    พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมผู้เสพยาบ้าได้ ๒ ราย ได้แก่ นายแจ๊ก จันดาวงศ์ อายุ ๓๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๓๒ ซ.เพชรดี ถนนเมืองใหม่ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และนายสุทธิชัย ธนูศิลป์ อายุ ๓๘ ปี บ้านเลขที่ ๘๘๙/๓ ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุม กระทั่งวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนทราบว่า นางลำไพ หรือ เจ้หมู เป็นผู้นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าและซุกซ่อนยาบ้าไว้ที่บ้านเลขที่ ๓/๒ บ้านนางเภา ตำบลดอนแรด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน ๕,๑๘๕ เม็ด และยาไอซ์จำนวน ๒๗.๑๔ กรัม ซุกซ่อนไว้ภายในบ้าน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดอาวุธปืนขนาด ๙ มม. ๒ กระบอก พร้อมลูกกระสุนขนาด ๙ มม.จำนวน ๒๓ นัด, กระสุนปืนคาร์บินจำนวน ๒๖ นัด และลูกระเบิดชนิด เอ็ม ๗๙ จำนวน ๓ ลูก อยู่ภายในบ้าน, โทรศัพท์มือถือ ๕ เครื่อง สร้อยคำทองคำและเลทข้อมือรวมน้ำหนัก ๖ บาท เงินสดจำนวน ๙๒,๑๐๐ บาท รถจักรยานยนต์ ๑ คัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมนายสุทธิชัย ธนูศิลป์ อายุ ๓๘ ปี บ้านเลขที่ ๘๘๙/๓ ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาของเจ้หมู ได้อีก ๑ ราย พร้อมนำตัวมาสอบสวนขยายผลและส่งดำเนินคดี

    จากการสอบสวน นางรำไพ หรือ เจ๊หมู ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนรับยามาจำหน่ายในพื้นที่จริง โดยรับมาจากพ่อค้ายาชาวลาว จะมีคนนำมาวางไว้ให้ตามเส้นทาง จากนั้นจะไปรับมาแล้วจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ โดยตนเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาก่อน และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนมีนาคม ปี ๒๕๕๗ และเสพยาบ้ามาต่อเนื่อง กระทั่งมารู้จักกับเครือข่ายยาบ้าของพ่อค้าชาวลาว และติดต่อกันมาตลอด และได้มาเป็นเอเย่นต์จำหน่ายยาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ ซึ่งตนเป็นคนอำเภอรัตนบุรี แต่ย้ายไปอยู่ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จะใช้โอกาสมาเยี่ยมญาติที่บ้านเกิดที่อำเภอรัตนบุรี รับยามาจำหน่าย ทำมาแล้ว ๔ ครั้ง ในแต่ละครั้งจะรับมาจำนวนมากครั้งละ ๕ มัด ประมาณ ๑ หมื่นเม็ด โดยจะซื้อในราคาเม็ดละ ๖๐ บาท และมาจำหน่ายในราคาเม็ดละ ๑๒๐-๓๐๐ บาท  โดยส่วนมากจะกระจายของให้กับเครือข่ายไปขาย และเครือข่ายก็ถูกจับจนเกือบหมด ครั้งล่าสุดได้สั่งของมาจำนวน ๒ มัดครึ่ง เป็นยาบ้าจำนวน ๕ พันกว่าเม็ด ยังไม่ทันจะกระจายของก็มาโดนจับเสียก่อน ส่วนเงินค่ายาบ้าก็จะส่งผ่านบัญชีเข้าไปครั้ง ๔-๕ หมื่นบาทต่อครั้ง ส่วนยาไอซ์ที่จับกุมได้ตนไม่ทราบจริงๆ และไม่เคยจำหน่ายยาไอซ์ เป็นครั้งแรกที่มีมากับมัดยาบ้า ส่วนอาวุธปืนมีคนนำมาจำนำไว้ในราคากระบอกละ ๓ หมื่น ในขณะที่ลูกกระสุนปืน เอ็ม ๗๙ ไม่ทราบจริงๆ  

    ด้านพลตำรวจตรีกาญจน์พศ์ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและชุดปราบปรามยาเสพติดภุธรจังหวัดสุรินทร์ออกสืบสวนจับกุมอย่างเร่งด่วน ในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบ และติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนางลำไพ หรือ เจ๊หมู จะใช้เงินอย่างฟุ่งเฟือยจนผิดสังเกต จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ ในส่วนลูกกระสุนปืน หรือลูกระเบิด เอ็ม ๗๙ ที่ตรวจยึดได้ ได้สั่งการให้มีการสืบสวนขยายผลในเชิงลึก เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปและเกี่ยวโยงอย่างไร

ฉบับที่ ๒๒๘๑ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘