28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

March 24,2015

บีโอไอเล็งเจาะตลาดอาเซียน คลอดหลักสูตรสร้างนักลงทุน

   บีโอไอเตรียมเปิดหลักสูตร “สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ” รุ่นที่ ๘ และ ๙ ต่อเนื่อง เน้นเจาะตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนรองรับการเปิดประชาคม ทั้งสปป.ลาว เมียนมาร์ และอินโดนีเซีย รวมถึงตลาดใหม่ ทั้งคาซัคสถานและแอฟริกาใต้ พร้อมเชิญนักวิชาการและภาคเอกชนชั้นนำให้ความรู้และแนะเคล็ดลับการลงทุน ก่อนพาไปดูลู่ทางลงทุนในต่างประเทศ

    นางสาวชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้บีโอไอได้เปิดอบรมหลักสูตร “สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ” รุ่น ๘ และรุ่น ๙ ขึ้นอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศมาแล้วถึง ๗ รุ่น มีผู้ผ่านการอบรมแล้วทั้งสิ้น ๒๖๓ ราย และกว่าร้อยละ ๒๐ ของผู้ผ่านการอบรมได้ออกไปขยายการลงทุนในต่างประเทศแล้ว สำหรับเป้าหมายของการอบรมหลักสูตรสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ คือการเพิ่มความรู้และทักษะให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ภาพรวมการทําธุรกิจของแต่ละประเทศที่สนใจจะไปลงทุน รู้รายละเอียด กฎเกณฑ์ ขั้นตอนการทำธุรกิจของประเทศนั้นๆ โดยการอบรมครั้งนี้ได้กำหนดประเทศ เป้าหมาย ได้แก่ สปป.ลาว เมียนมาร์ อินโดนีเซีย คาซัคสถาน และแอฟริกา ใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต ต้องการการลงทุนหลายสาขาจากนักลงทุนต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปสร้างธุรกิจและขยายการลงทุนเพิ่มเติม
     นางสาวชลลดา กล่าวต่อว่า แนวโน้มการขยายการลงทุนในต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญและกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นผลจากปัจจัยด้านต้นทุนการผลิต ปัญหาการขาดแรงงาน และความเสียเปรียบด้านต้นทุนการขนส่งบีโอไอเห็นว่า ควรสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาดังกล่าว ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในเร็วๆ นี้ ยิ่งเป็นแรงผลักสำคัญ อีกทั้งนักลงทุนไทยควรออกไปแสวงหาตลาดใหม่เพิ่มเติม แทนการพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลัก 


    นางสาวชลลดา กล่าวถึงโครงสร้างหลัก สูตรการอบรมว่า แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนการอบรมภาคทฤษฎีรวมจำนวน  ๖๐ ชั่วโมง จะมีเนื้อหาครอบคลุมทุกเรื่องด้านการลงทุนจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ อาทิ นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ บริษัท เหมราชพฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน), นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน), นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เป็นต้น รวมถึงนักธุรกิจที่ได้เข้าไปลงทุนจริง และจะมีหัวข้อการบรรยายเสริมความรู้ที่มีประโยชน์ อาทิ กฎหมายที่เกี่ยวของกับการลงทุนในต่างประเทศ การวางแผนภาษีเพื่อตัดสินใจลงทุนในต่างประเทศ กลยุทธ์การเจรจาต่อรองทางการค้า เคล็ดลับการประเมินลู่ทางการลงทุนจากนักธุรกิจชั้นนำ ส่วนที่สองคือภาคปฏิบัติ ซึ่งบีโอไอจะพาผู้เข้าร่วมอบรมเดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสำรวจพื้นที่การลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่มประเทศตลาดใหม่ให้นักลงทุนได้เห็นพื้นที่การลงทุนจริง เห็นโอกาสและปัญหาที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
    นางสาวชลลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม จะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทายาทเจ้าของธุรกิจที่สนใจจะไปลงทุนต่างประเทศ และมีอายุ ๓๐ ปีขึ้นไป สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และสามารถเดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างน้อย ๒ ครั้ง โดยจะเริ่มอบรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ๒๕๕๘ รุ่นละ ๓๕ คน ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้ารับการอบรมหลักสูตร “สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ” รุ่นที่ ๘ และรุ่นที่ ๙ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โทร ๐๒-๕๕๓-๘๓๗๒, ๐๒-๕๕๓-๘๑๘๔ หรืออีเมล์ toi@boi.go.th ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


ฉบับที่ ๒๒๘๑ วันเสาร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


684 1335