27thApril

27thApril

27thApril

 

March 26,2015

สหกรณ์ครูไม่สงบ สมาชิกขอวิสามัญฟอก หนี้ธรรมกาย-บ้าน ๔๐ บ.

    กลุ่มปฏิรูปสหกรณ์เข้าชื่อเร่งเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิก ‘สหกรณ์ออมทรัพย์ครูโคราช’ ให้กรรมการแสดงความรับผิดชอบ กรณีนำเงินฝากสหกรณ์ฯ คลองจั่น ๕๔๓ ล้านเศษ หวั่น! สูญเพราะแผนฟื้นฟูเป็นไปได้ยาก แต่กลับส่อวุ่น กรรมการบริหารชิงแก้ข้อบังคับ เพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่ ๑๗ พฤษภาคมนี้ ด้าน ‘ปธ.ทอง’ แจงสถานการณ์เบิกถอนเงินปกติ เล็งให้สิทธิ์สมาชิกครูกู้ซื้อ ‘บ้านออม วันละ ๔๐ บาท’ หวังได้เงินฝากที่เหลือ ๓๔ ล้านกลับคืน

กลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ ยื่นหนังสือต่อนายประสาทศิลป์ ฉิมนอก (ที่ ๒ จากขวา) รองประธานกรรมการ คนที่ ๑ เพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิกฯ

    ภายหลังศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ให้ “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด” เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับสมาชิกกว่า ๕๖,๐๐๐ ราย และสหกรณ์อีก ๗๖ แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับตั้งให้คณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดปัจจุบัน ที่มีนายเผด็จ มุ่งธัญญา เป็นประธานกรรมการดำเนินการ ทำแผนฟื้นฟูกิจการในกรอบระยะเวลา ๓ เดือน แต่สามารถขยายเวลาได้ ๒ ครั้งๆ ละ ๑ เดือน และต้องฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์ฯ ให้เสร็จตามกฎหมาย ภายในระยะเวลา ๕ ปี อีกทั้งยังสามารถขยายเวลาได้อีก ๒ ครั้งๆ ละ ๑ ปี หลังจากยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ เป็นคดีหมายเลขดำ ฟ.๒๐/๒๕๕๗ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่มีหนี้สินจำนวนทั้งสิ้น ๒๑,๙๓๔,๓๗๔,๖๕๗.๓๙ บาท พร้อมแต่งตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟู โดยสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด 


เปิดประชุมวิสามัญแก้เลือกตั้ง
    เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๘ ‘โคราชคนอีสาน’ ได้รับรายงานว่า นายประสาทศิลป์ ฉิมนอก รองประธานกรรมการ คนที่ ๑ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายทอง วิริยะจารุ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ซึ่งมีปัญหาสุขภาพ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ชุดที่ ๕๗ ได้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ ณ ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ถนนราชสีมา-ปักธงชัย ต.ปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยมีสมาชิกสามัญ ซึ่งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๖๑๘ คน ที่มาลงชื่อเข้าร่วมประชุม ในวาระสำคัญการแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ และการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารคนใหม่ หลังจากคณะกรรมการฯ ชุดที่ ๕๗ จำนวน ๘ คน จะหมดวาระลงในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ซึ่งได้กำหนดวันเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ ๑๗ พฤษภาคมนี้   

    ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมที่ ๔.๑ เรื่องพิจารณาแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ คณะกรรมการฯ เสนอต่อที่ประชุมให้แก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ หมวด ๖ ข้อ ๕๔ โดยการเปิดประชุมสมาชิก เพื่อเลือกตั้ง กกต. จากเดิมเลือกตั้งโดยผู้แทนสมาชิก ต้องการให้สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง กกต. โดยที่ประชุมมีมติ ๒ ใน ๓ เห็นชอบ ๔๖๑ เสียง ไม่เห็นชอบ ๐ เสียง พร้อมกันนี้ คณะกรรมการฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมให้แก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ หมวด ๗ ข้อ ๖๑ ว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด โดยให้จัดการเลือกตั้งภายในก่อนหรือหลัง ๑๕ วัน หลังจากคณะกรรมการหมดวาระลง เพื่อให้สมาชิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก และตรงกับวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ซึ่งไม่กระทบกับการลาราชการมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยที่ประชุมมีมติ ๒ ใน ๓ เห็นชอบ ๔๐๐ เสียง และไม่เห็นชอบ ๒๘ 
    ต่อมาระเบียบวาระการประชุมที่ ๔.๒ เรื่องการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วยการสรรหาคณะกรรมการดำเนินการ พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๐ (๑) ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า ๙ คน แต่ไม่เกิน ๑๑ คน จากผู้ซึ่งมิใช่กรรมการดำเนินการ หรือผู้ซึ่งมิใช่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการดำเนินการ เพื่อทำหน้าที่ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการดำเนินการ ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้ง กกต. ในวันนี้ได้ เพราะจากมติที่ประชุมข้างต้นเสียงเป็นเอกฉันท์ ให้ดำเนินการแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ ข้อที่ ๕๔ และ ๖๑ ดังนั้น จำเป็นต้องขอความเห็นชอบต่อรองนายทะเบียนสหกรณ์เพื่อลงนามก่อน จึงจะดำเนินการเลือกตั้ง กกต.ได้ ทำให้สมาชิกต่างสับสนกับการเปิดประชุมใหญ่วิสามัญในครั้งนี้   


กลุ่มปฏิรูปจี้‘ทอง’รับผิดชอบ
    มีรายงานว่า กลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นำโดยนายวิทยา ดวงใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนธารปราสาทเพชรวิทยา, นายสุพนธ์ สินนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงทับปรางค์ และนายสุเทพ สุขปัญญา ข้าราชการครูประจำโรงเรียนบ้านหวายโนนโพร ได้ยื่นหนังสือพร้อมลายมือชื่อสมาชิก จำนวน ๑๘๑ คน ต่อนายประสาทศิลป์ ฉิมนอก รองประธานกรรมการ คนที่ ๑ เพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิก สอบถามการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ชุดที่ ๕๔-๕๕ โดยมีนายทอง วิริยะจารุ เป็นประธานกรรมการขณะนั้น ใช้อำนาจหน้าที่นำเงินของสมาชิกไปฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยไม่ได้รับเห็นชอบจากสมาชิก ส่งผลกระทบต่อวิกฤติศรัทธาความเชื่อมั่น และเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด ที่ต้องรอการฟื้นฟูกิจการฯ ในฐานะเจ้าหนี้เงินฝากรวมดอกเบี้ย จำนวนทั้งสิ้น ๕๔๓,๘๔๕,๖๘๔.๔๙ บาท รวมไปถึงการนำเงินไปลงทุนในสหกรณ์เคหสถานเมืองโคราช จำกัด จำนวน ๓๕ ล้านบาท ระหว่างนั้นได้มีสมาชิกใช้สิทธิ์ยกมือประท้วง ระบุปัญหาเกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า ไม่มีในวาระการประชุม นายประสาทศิลป์ฯ จึงต้องพูดตัดบท ทำให้นายวิทยาฯ ไม่สามารถซักถามได้ครบทุกประเด็น


อ้างเตรียมพบสมาชิก ๓๒ อำเภอ
     จากนั้นนายประสาทศิลป์ ฉิมนอก รองประธานกรรมการ คนที่ ๑ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวสรุปว่า “จากกระแสข่าวในทางลบ เป็นระยะเวลา ๒๒ วันที่ผ่านมา มียอดถอนเงินประมาณ ๕๒๖ ล้านบาท มีเงินฝากเข้า ๑๘ ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมทบ ได้ลาออกจากการซื้อทุนเรือนหุ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ของความตื่นตระหนก ขณะนี้สมาชิกได้เข้าใจเเล้ว ทำให้ยอดการถอนเงินลดลง เรื่องนี้คณะกรรมการฯ เตรียมจัดประชุมเพื่อพบปะสมาชิก ๒๔,๑๕๓ คน ทั้ง ๓๒ อำเภอ ในวันที่ ๑-๑๑ เมษายนนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสถานภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ส่วนการยื่นขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญนั้นทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้ปิดกั้นแต่อย่างใด แต่ขอตรวจสอบเอกสารและรายชื่อสมาชิกที่ยื่นขอเปิดประชุมก่อน หากถูกต้องครบถ้วนตามกระบวนการ จะดำเนินการตามที่สมาชิกร้องขอภายใน ๓๐ วัน”  


สมาชิกหวั่น ๕๔๓ ล.ได้คืนยาก
    ต่อเรื่องนี้เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๘ นายวิทยา ดวงใจ ประธานกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์กับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า “การเปิดประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคมที่ผ่านมา ภายหลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้นั้น เมื่อพิจารณาจากระเบียบวารการประชุม ไม่ปรากฏว่ามีวาระหรือการชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด สมาชิกที่เสียสละเวลาเดินทางมาไกลค่อนข้างเสียความรู้สึก เพราะอยากเห็นการประชุมที่ตรงไปตรงมา สมาชิกทุกคนก็เป็นเจ้าของเงิน อยากมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตสหกรณ์ฯ ด้วย แต่คณะกรรมการฯ ยังไม่สามารถคลายความสงสัยได้ เงินที่ฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด คงได้คืนไม่ง่าย เพราะการฟื้นฟูกิจการไม่ใช่การเอาเงินรัฐมาจ่ายให้ลูกหนี้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ซึ่งขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว คงไม่มีคนที่จะลงทุนด้วย เงินที่ฝากไว้มีแต่บัญชีและตัวเลข ไม่มีเงิน กว่าจะได้คืนใช้เวลา ๕-๑๐ ปี แต่ดอกเบี้ยเงินที่กู้มาจากสถาบันการเงินจะต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ เดือน ตนและเพื่อนข้าราชการครู ๑๘๑  คน ในฐานะสมาชิกมีสิทธิตั้งข้อสงสัยการบริหารงาน จึงอาศัยอำนาจตามข้อ ๕๔ วรรค ๔ แห่งข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิก เพื่อสอบถามข้อสงสัยในทุกขั้นตอน และไม่ทำให้สมาชิกต้องเสียผลประโยชน์”  


รอเปิดประชุมสมาชิก-แผนฟื้นฟู
    ต่อมา ‘โคราชคนอีสาน’ ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๘ คณะกรรมการฯ ชุดที่ ๕๗ ได้ยื่นหนังสือมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เพื่อขอแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ฯ ต่อนายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อพิจารณาแล้ว ส่วนการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น ในฐานะเจ้าหนี้เงินฝากรวมดอกเบี้ย จำนวนทั้งสิ้น ๕๔๓,๘๔๕,๖๘๔.๔๙ บาท ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ต้องรอการประกาศให้เจ้าหนี้ทุกรายทราบก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ จากนั้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด จึงจะสามารถยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป  

 

‘ทอง’เผยเบิกถอนเงินปกติ
    ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๘ นายทอง วิริยะจารุ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า “วันนี้ (๒๕ มี.ค. ๕๘) ได้มอบหมายให้ผู้จัดการสหกรณ์ฯ (นายยงยุทธิ์ บัวทองผุด) ร่วมประชุมกับชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือ และแนวทางตามแผนฟื้นฟู หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งหลังจากข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด นำเงินไปฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ปัจจุบันยอดเงินฝากรวมดอกเบี้ย ๕๔๓ ล้านบาทเศษ จากที่มียอดถอนเงินมากถึง ๕๐๐ กว่าล้านบาท ขณะนี้สถานการณ์เบิกถอนเงินของสมาชิกเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนข้อกังวลของสมาชิกเรื่องเงินปันผลจะมีผลกระทบหรือไม่นั้น นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๗ ยอดเงินปันผลเฉลี่ยร้อยละ ๖ บาท/ปี และทางสหกรณ์ฯ เพิ่งจ่ายเงินปันผลในปีการบัญชี ๒๕๕๗ ให้กับสมาชิก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนในปีการบัญชี ๒๕๕๘ เงินปันผลจะมีอัตราเท่าไหร่นั้น คงต้องรอปิดปีการบัญชีก่อน” 

 

คาดเม.ย.เปิดประชุมสมาชิก
    ต่อคำถามถึงการยื่นหนังสือขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิก ของกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นายทอง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (๒๔ มี.ค. ๕๘) ซึ่งเป็นวันเปิดทำการวันแรกของสัปดาห์ คณะกรรมการฯ ได้ประชุมและมีมติรับหนังสือขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิกมาพิจารณา เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องจากลายมือชื่อและรายชื่อสมาชิก จำนวน ๑๘๑ คน ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับสหกรณ์ สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน สามารถขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญสมาชิกได้ ไม่เกิน ๓๐ วันหลังจากรับหนังสือ ถือเป็นเรื่องดีที่สมาชิกเข้าตามตรอกออกตามประตู โดยมี ๓ เรื่องสำคัญที่สมาชิกขอให้เปิดประชุม แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการฯ คงจะต้องดำเนินการชี้แจงต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประชุมได้ภายในต้นเดือนเมษายนนี้ ส่วนการขอแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ ว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร และการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น มติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้ยื่นหนังสือต่อนายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อพิจารณาแล้ว 
    “ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้กำหนดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร จำนวน ๘ คนที่หมดวาระลง เพื่อเลือกตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามาร่วมบริหารงานให้ครบจำนวน ๑๔ คน สำหรับตนเองนั้นยังปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการฯ และจะสิ้นสุดวาระในปี ๒๕๕๙” นายทอง กล่าว  

 

บ้านออมวันละ ๔๐ บาท
    ส่วนกรณีการสนับสนุนเงินฝากสหกรณ์เคหสถานเมืองโคราช จำกัด จำนวน ๓๕ ล้านบาท ตามวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักออม รวมทั้งจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับสมาชิกที่มีรายได้น้อย ด้วยการออมเงินวันละ ๔๐ บาท ก็สามารถมีบ้านอยู่ได้ การดำเนินงานในระยะแรกไม่มีปัญหา แต่แล้วก็เริ่มขาดสภาพคล่องตั้งแต่ช่วงปลายปี ๒๕๕๖ และมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายประวิง รอดทะเล อดีตกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นผู้ให้แนวคิดดำเนินโครงการ “บ้านออม วันละ ๔๐ บาท” จากการบริหารจัดการสหกรณ์ฯ ทำให้ขาดทุน ๑๐๐ กว่าล้านบาท อีกทั้งที่ผ่านมาได้กู้เงิน ๔๐๐ กว่าล้านบาท และรับเงินฝาก ๑๓๕ ล้านบาท จากสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีเงินหมุนเวียนในลำดับต้นของประเทศนั้น  

 

เล็งให้สิทธิ์‘ครู’กู้ซื้อแก้ปัญหา
    ต่อเรื่องนี้นายทอง ชี้แจงว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด สนับสนุนเงินฝากให้กับสหกรณ์เคหสถานเมืองโคราช จำกัด จำนวน ๓๕ ล้านบาท ซึ่งไม่ผิดระเบียบข้อบังคับสหกรณ์แต่อย่างใด เพราะพิจารณาวัตถุประสงค์ต้องการให้ประชาชนระดับรากหญ้าได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมาได้รับเงินต้นประมาณ ๑ ล้านกว่า และดอกเบี้ยประมาณ ๓ ล้านบาท แต่ขณะนี้สหกรณ์เคหสถานเมืองโคราช จำกัด ยังขาดสภาพคล่องและทุนดำเนินการ แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จากการหารือร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเงินฝากนั้น ในเบื้องต้นจะเปิดให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา มีสิทธิ์จองและกู้ซื้อบ้านหลังละประมาณ ๘ แสนบาท ที่ทางสหกรณ์เคหสถานเมืองโคราชดำเนินการปลูกสร้าง เพื่อให้ทางสหกรณ์เคหสถานเมืองโคราชสามารถนำเงินมาชำระเงินฝากได้ครบตามจำนวนที่เหลือ ๓๔ ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการทำสัญญาระหว่างกันในเรื่องนี้ ต้องรอการแก้ไขปัญหาต่างๆ ภายในสหกรณ์ฯ ก่อน และคาดว่าภายในสิ้นปีการบัญชี ๒๕๕๘ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมาจะได้รับเงินฝากคืนครบถ้วน

 

สหกรณ์ฯคลองจั่นมั่นใจฟื้นฟู
    อย่างไรก็ตาม นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานกรรมการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จ เนื่องจากมีหนังสือของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยืนยันสนับสนุนงบประมาณ วงเงิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให้การสนับสนุน และการฟ้องคดีเรียกทรัพย์สินคืน โดยเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ศาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้มีการเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยระหว่างวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยทางวัดพระธรรมกายได้ตั้งกองทุนเฉพาะกิจรับเงินบริจาค เพื่อนำเงินมาจ่ายคืนให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นจำนวนเงินทั้งหมด ๖๘๔,๗๘๐,๐๐๐ บาท แบ่งการชำระหนี้แบ่งออกเป็น ๖ งวดๆ ละ ๑๐๐ ล้านบาท โดยได้จ่ายเป็นเช็คเงินสด จำนวน ๑๐๐ ล้านบาท เพื่อเยียวยาสหกรณ์ฯ ให้สามารถนำเงินไปใช้ในแผนฟื้นฟูกิจการได้ รวมทั้งการติดตามทวงหนี้สินจากลูกหนี้เก่าของสหกรณ์ฯ กว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งลูกหนี้ได้เริ่มทยอยชำระหนี้คืนแล้วบางส่วน 
    หากมีความคืบหน้า ‘โคราชคนอีสาน’ จะนำมาเสนอข่าวต่อไป


ฉบับที่ ๒๒๘๒ วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ - วันอังคารที่ ๓๑ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


704 1344