แสนสิริ เดินหน้าพัฒนาคอนโดฯ ต่อเนื่องอีก ๘ โครงการใหม่ มูลค่ากว่า ๒๑,๐๐๐ ล้าน พร้อมเปิดตัวแบรนด์ “พลัส คอนเซียร์จ” รองรับกลุ่มลูกค้าแสนสิริและกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนใน ๖ จังหวัด ตั้งเป้ายอดขายรวมคอนโดฯ ปี ๒๕๕๘ ประมาณ ๒๒,๐๐๐ ล้าน จากยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือแล้วถึง ๑๘,๐๐๐ ล้าน

นายอุทัย อุทัยแสงสุข

    เมื่อเร็วๆ นี้ นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แผนการรุกตลาดคอนโดมิเนียมในปี ๒๕๕๘ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการพัฒนาคอนโดมิเนียมทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งแสนสิริเป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน รวมถึงครอบคลุมกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทาง Engineer for Growth อย่างต่อเนื่อง หลังเห็นผลสำเร็จอย่างรวดเร็วและชัดเจนจากอัตรากำไรในปีที่ผ่านมา ที่เพิ่มสูงใกล้เคียงเป้าหมายที่ร้อยละ ๑๒ โดยบริษัทฯ วางแผนการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี ๒๕๕๘ ประมาณ ๘ โครงการ มูลค่ารวมประมาณ ๒๑,๐๐๐ ล้านบาท
     นายอุทัย เผยต่อไปว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้โอนส่งมอบคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองหลักทั่วประเทศได้อย่างน่าพอใจ ส่งผลให้มีรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแนวคิดการใช้ชีวิตแบบ “Urban Slow Living” ในโครงการ “HASU HAUS” ที่เปิดการขายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนที่มีจำนวนยูนิตซื้อสูงที่สุด และชาวรัสเซียที่มีมูลค่าการซื้อสูงที่สุด โดยโครงการที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ อาทิ โครงการบ้านไม้ขาว ภูเก็ต และเดอะ เดค ป่าตอง ภูเก็ต เป็นต้น ขณะที่โครงการเดอะ เบส พาร์ค อีสต์ ในกรุงเทพฯ ก็ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติในการซื้อเพื่อลงทุน ทั้งนี้ ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัว Rental for the Holidays โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่เปิดบริการให้เช่าระยะยาวแก่ชาวต่างชาติในปีที่ผ่านมา เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้าต่างชาติสนใจซื้อคอนโดตากอากาศของแสนสิริมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน Rental for the Holidays ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาพักผ่อนในเมืองไทยและมีลูกค้าใช้บริการแล้วกว่า ๙๐๐ ราย โดยมีกลุ่มชาวต่างชาติที่สนใจเช่าระยะยาวสูงสุด คือ ชาวรัสเซีย นอกจากนี้บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายจากลูกค้าต่างชาติได้ถึงร้อยละ ๖ ของยอดขายรวมในปีที่ผ่านมาและตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๑๐ ในปีนี้    
    สำหรับแผนการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี ๒๕๕๘ นายอุทัย เปิดเผยอีกว่า บริษัทฯ จะตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมอย่างชัดเจนอีกครั้ง โดยเน้นการพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในทำเลซึ่งเป็นที่สุดของคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า ในทำเลย่านธุรกิจและสถานีบีทีเอสที่น่าสนใจในหลายทำเล โดยจะทยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ ๒ นี้เป็นต้นไป เปิดตัวด้วยคอนโดมิเนียมโครงการแรก “The Monument” (เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า) เดินทางด้วยทำเลเพียง ๓๐๐ เมตร จากบีทีเอส สนามเป้า มูลค่าโครงการ ๑,๔๐๐ ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดตัวโครงการ “The Line” เดอะ ไลน์ จตุจักร–หมอชิต ภายใต้แนวคิด Location is Everything เพราะที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องของทำเล ด้วยทำเลที่มีขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT มูลค่าโครงการ ๕,๖๐๐ ล้านบาท โดยจะพัฒนาภายใต้ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SIRI และ BTS มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น ๑๐๐ ล้านบาท ในสัดส่วน ๕๐ : ๕๐ โดยเตรียมเปิดตัวในไตรมาส ๒ นี้ 
    “จากความสำเร็จของการเปิดให้บริการ Rental for the Holiday ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้เตรียมเปิดตัว Plus Concierge (พลัส คอนเซียร์จ) ซึ่งเป็นที่สุดของบริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าแสนสิริและกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบริการหลักเพิ่มเติม ภายใต้การบริหารงานของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยเตรียมเปิดให้บริการใน ๖ จังหวัดทั่วประเทศเร็วๆ นี้” นายอุทัย กล่าว

     นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมเปิดให้บริการ “ฮาบิโตะ” (Habito) คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่ ขนาด ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร บนพื้นที่ ๔ ไร่ของ T77 ซึ่งประกอบด้วยร้านค้าที่หลากหลาย และเหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ เสริมความงาม ร้านขายยา และ co-working space กว่า ๓๐ ร้านค้า ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ ๓๕-๗๐๐ ตารางเมตร เพื่อมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดเย็นแก่คนรุ่นใหม่ รวมทั้งสร้างความแปลกใหม่และแตกต่างจากคอมมูนิตี้ รีเทล มอลล์แห่งอื่นๆ ภายใต้สโลแกน “Habito: The Heart of Good Living” ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจติดต่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของร้านค้าในคอมมูนิตี้ รีเทล ฮาบิโตะ อย่างต่อเนื่อง และยังคงเปิดรับผู้ที่สนใจติดต่อขอเช่าพื้นที่โดยตรง ทั้งนี้ คอมมูนิตี้ รีเทล ฮาบิโตะ มีกำหนดแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายปี ๒๕๕๘ 
     “บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมสำหรับคอนโดมิ เนียมในปี ๒๕๕๘ ไว้ประมาณ ๒๒,๐๐๐ ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายรวมของบริษัทฯ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งตั้งเป้าหมายรายได้คอนโดมิเนียมไว้ที่ ๒๒,๐๐๐ ล้านบาท จากเป้าหมายรายได้รวม ๓๔,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มียอดรอรับรู้รายได้ของคอนโดมิเนียมอยู่ในมือแล้วถึง ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๐ ของเป้ารายได้คอนโดมิเนียม ดังนั้น จึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียงร้อยละ ๒๐ หรือ ๔,๐๐๐ ล้านบาท จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้จากเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ ๓๔,๐๐๐ ล้านบาท ไว้แล้วถึงร้อยละ ๖๕ เช่นกัน” นายอุทัย กล่าวในท้ายสุด
    ทั้งนี้ แผนงานหลังจากนี้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยังได้เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกถึง ๑๗ โครงการ ในปี ๒๕๕๘ ได้แก่ ๑. บ้านเคียงฟ้า หัวหิน ๒. ดีคอนโด นครระยอง ๓. ดีคอนโด ซายน์ เชียงใหม่ ๔. ดีคอนโด ฮาย เชียงใหม่ ๕. เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ ๖. บ้านปลายหาด วงอมาตย์–พัทยา ๗. ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน ๘. เดอะ เบส ไฮท์ ภูเก็ต ๙. เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น ๑๐. นายน์ บาย แสนสิริ ๑๑. เดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท ๗๗ ๑๒.เดอะ เบส พาร์คเวสต์ สุขุมวิท ๗๗ ๑๓. เดอะ เบส ไฮท์ อุดรธานี ๑๔. ดีคอนโด โคโค่ สุราษฏร์ธานี ๑๕. ดีคอนโด กาญจนวณิช หาดใหญ่ ๑๖. เดอะ เดค ป่าตอง-ภูเก็ต และ ๑๗. บ้านไม้ขาว ภูเก็ต

ฉบับที่ ๒๒๘๒ วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ - วันอังคารที่ ๓๑ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘