29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

April 09,2015

เอสพีซีจีดึงแบงก์กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อโซลาร์รูฟ ๑๐๐ ล้าน ๓๐๐ ครัวเรือน

    เอกชนรายใหญ่ผู้ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในภาคอีสาน ‘เอสพีซีจี’ ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ให้สินเชื่อเพื่อการติดตั้งโซลาร์รูฟกว่า ๑๐๐ ล้านบาท รอบแรก ๓๐๐ ในภาคครัวเรือน เพื่อร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ สนับสนุนนโยบายสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของรัฐบาล เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแก่การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยาวนาน ๒๕ ปี

    เมื่อเร็วๆ นี้ นางจิรารักษ์ กุลสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารฝ่ายทีมผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนสินเชื่อกับบ้านอยู่อาศัย ที่ต้องการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ในโครงการโซลาร์รูฟของ บริษัท 
โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ที่มีขนาดไม่เกิน  ๑๐ กิโลวัตต์ เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในราคา ๖.๘๕ บาทต่อหน่วย นาน ๒๕ ปี ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของรัฐบาล โดยในช่วงแรกจะพิจารณาอนุมัติจำนวน ๓๐๐ ครัวเรือน มูลค่า ๑๐๐ ล้านบาท
    นางสาววันดี กุญชรยาคง (จุลเจริญ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวว่า การสนับสนุนโครงการสินเชื่อเพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาประเภทบ้านอยู่อาศัยให้แก่ลูกค้า ของบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด โดยในรอบแรกธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติ ๓๐๐ หลังคาเรือน ในวงเงินประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการช่วยชาติ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการรับซื้อไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มีการติดตั้งไม่เกิน ๑๐ กิโลวัตต์ นับเป็นนวัตกรรมการให้สินเชื่อครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการเงินและการธนาคารในประเทศไทย และประชาคมอาเซียน ที่บริษัทฯ จับมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนนโยบายการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของรัฐบาล ด้วยการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Clean Loan) ให้แก่ผู้สนใจลงทุนซื้อและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ SPR Solar Roof บนหลังคาบ้านพักอาศัยของตนเอง เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแก่การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอัตรา ๖.๘๕ บาทต่อหน่วย ยาวนานถึง ๒๕ ปีเต็ม 


    ด้านนางจิรารักษ์ กุลสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารฝ่ายทีมผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในรอบแรกธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติ ๓๐๐ หลังคาเรือน วงเงินประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท เพื่อการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาประเภทบ้านที่อยู่อาศัย หรือโซลาร์รูฟ โดยผู้สนใจสามารถวางเงินดาวน์ได้ ๒ แบบ คือ วางเงินดาวน์ร้อยละ ๓๐ ได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๘.๘๘ และวางเงินดาวน์ร้อยละ ๒๐ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๙.๙๙ ระยะเวลาผ่อนชำระ ๘ ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอีกด้วย โดยนำรายได้จากการขายไฟฟ้ามาผ่อนชำระแก่ธนาคารกรุงไทยเป็นรายเดือน
    นางสาววันดี กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตั้ง SPR Solar Roof จะมีให้เลือก ๒ แบบ ได้แก่ ขนาดกลาง (Size L) สำหรับพื้นที่หลังคา ๓๖ ตารางเมตร มีขนาดติดตั้ง 4.5 KWp ราคา ๓๗๕,๐๐๐ บาท และขนาดใหญ่ (Size XL) โดยมีพื้นที่หลังคา ๘๐ ตารางเมตร ขนาดติดตั้ง 10 KWp ราคา ๘๒๐,๐๐๐ บาท เริ่มต้นผ่อนเพียง ๓,๘๓๐ บาท โดยจะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ ๙-๑๐ ปี ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงอาทิตย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ “โฮม โปร” ซึ่งได้รับการแต่งให้เป็นเป็นผู้จำหน่ายทั่วประเทศ


    อนึ่ง บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อ SPCG เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้หมวดพลังงาน ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Holding Company กล่าวคือ SPCG เป็นเจ้าของหุ้น/ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในเครือ รวม ๔๓ บริษัท โดยมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ ๙๒๓,๙๙๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ บริษัทในเครือ อาทิ ๑. บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด (SPC) เป็นผู้พัฒนาโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีโซลาร์ฟาร์มรวมทั้งสิ้น ๓๔ โครงการ บนพื้นที่ ๙ จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒. บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ แอสเซ็ท จำกัด (SPA) เป็นผู้พัฒนาโซลาร์ฟาร์มรวม ๒ โครงการ ในจังหวัดลพบุรี ๓. บริษัท โซล่า เพาเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SPE) เป็นผู้นำการให้บริการออกแบบทางวิศวกรรมและก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังให้บริการด้านการปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและการประมวลผลให้แก่โซลาร์ ฟาร์ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 
    ๔. บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) เป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านเรือน อาคารธุรกิจขนาดเล็ก และธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่โรงงานอุตสาหกรรม และอื่นๆ แห่งแรกในประเทศไทยและในประชาคมอาเซียน ๕. บริษัท เอสพีซีจี แคปปิตอล จำกัด (SPCGC) ประกอบธุรกิจการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ๖. บริษัท เอ็นเนเกท (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน), ENEGATE Co., Ltd. (บริษัทในเครือของ Kansai Electric Power Co., Inc. (KANSAI)) และ Thai Aichi Denki Co., Ltd. เพื่อประกอบธุรกิจด้านการผลิตระบบควบคุมไฟฟ้าแรงสูง เช่น ตู้สวิทช์ ตัดตอนระบบไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage under 33kV) ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า (Main Distribution Boards: MDBs) สำหรับโซล่าฟาร์มและอื่นๆ รวมถึงพัฒนาระบบ Smart Grid และ ๗. บริษัท สตีล แอนด์ โซล่า รูฟ จำกัด (SSR) ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย และให้บริการติดตั้ง หลังคาเหล็กรีดลอน โดยได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน ในราคาประหยัด สามารถนำไปติดตั้งได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ฉบับที่ ๒๒๘๔ วันจันทร์ที่ ๖ - วันศุกร์ที่ ๑๐ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘


685 1347