27thApril

27thApril

27thApril

 

May 22,2015

ผู้ว่าฯเข้มพินัยกรรม ถวายในหลวง ๑๐๐ ล. ทุกวัดทำบุญอุทิศ ๑ มิ.ย.

   ผู้ว่าฯเบิร์ดย้ำ ทุกอย่างทำตามพินัยกรรมทุกข้อ ชี้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรม ต้องเดินตามเจตนารมณ์หลวงพ่อคูณ และทรัพย์สินทั้งหมดต้องเป็นของวัด นัดทำบุญใหญ่ ๑ มิ.ย. ทุกวัดทั้งจังหวัด หลังจากหลวงพ่อคูณละสังขารแล้ว ๑๕ วัน 

    วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องประชุมอาเซียน ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายธงชัย (เบิร์ด) ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายนรินทร์ นันทิพานิชย์ อัยการจังหวัดนครราชสีมา นายสมพงษ์ วิริยะจารุ วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายอาทร จันทร์พิลา ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา และนายสำราญ ราชบัณฑิต นักวิชาการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา แถลงข่าวเรื่อง พินัยกรรมของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภายในของวัด หรือแม้กระทั่งเรื่องให้เปลี่ยนแปลงพินัยกรรม ที่ไม่เป็นไปตามความประสงค์ของหลวงพ่อคูณ 


มอบร่างภายใน ๒๔ ชม.
    ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลวงพ่อคูณเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีบุญคุณและคุณูปการต่อประเทศชาติ และหลายๆ องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สร้างมูลนิธิโรคหัวใจนครราชสีมา, วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ, ที่ว่าการอำเภอหนองบุญมาก, สถานีตำรวจ, โรงพยาบาล, โรงพยาบาลสงฆ์ และโรงเรียน ฯลฯ วันนี้จึงขอชี้แจงว่า ทุกอย่างยึดปฏิบัติตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณที่ระบุไว้ทุกประการ ไม่มีการบิดเบือนไปจากพินัยกรรม ในขณะที่ประชุมอยู่พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แพทย์ และพยานที่ลงนามในพินัยกรรม ๒ คน คือนายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ ญาติ และนายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับสังขารของหลวงพ่อคูณตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมตอนหนึ่งว่า “ศพของอาตมาให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใน ๒๔ ชั่วโมงหลังจากมรณภาพ เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ต่อไป”

 

ยึดตามพินัยกรรม
    และตามที่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้มีการต่อรอง ขอให้นำร่างสังขารไปไว้ที่วัดบ้านไร่ก่อน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ได้กราบไหว้ กราบลาเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้นก็มอบให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อไป ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ต้องปกครอง และดูแลปัญหาต่างๆ  โดยเฉพาะกรณีของหลวงพ่อคูณที่มีประชาชนนับถือมากมายทั่วโลก เพื่อหาข้อยุติให้ได้ ผลก็คือ ต้องมอบร่างของหลวงพ่อคูณภายใน ๒๔ ชั่วโมง ตามความประสงค์ของหลวงพ่อคูณที่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรมเท่านั้น จะให้ไปเรียกร้องต่อศาลเพื่อเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมเพื่อให้ทำพิธีอยู่ที่วัดบ้านไร่ ตามที่มีบางคนเรียกร้องมา ผมไม่สามารถทำได้และไม่มีใครสามารถทำได้ หากมีการจัดตั้งกรรมการ และอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงก็จะมีปัญหาต่อรองเรื่องอื่นๆ ตามมา และในตำแหน่ง       ผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจในการจัดตั้งตรวจสอบทรัพย์สินใดๆ ของวัดบ้านไร่ หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทั้งสิ้น อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวตามความเป็นจริง และตามลายลักษณ์อักษรของพินัยกรรมด้วย 

 

ปัดตอบเจ้าอาวาสใหม่
    ด้านความคืบหน้ากรณีที่พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน แต่งตั้งให้พระภาวนาประชานาถ (นุช รตนวิชโย) วิ. อายุ ๖๖ ปี ๒๒ พรรษา วิทยฐานะ น.ธ.โท วัดบ้านไร่ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และจากกระแสที่จะมีการผลักดันให้หลวงพ่อนุชเป็นเจ้าอาวาสใหม่นั้น นายธงชัย ลืออดุลย์ ขอไม่แสดงความคิดเห็น แนะว่าควรสอบถามกับคณะสงฆ์และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ เพราะเป็นกิจของสงฆ์ และคณะกรรมการที่จะเป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมา ภายใต้อำนาจและหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายการจัดตั้งเจ้าอาวาสได้ 

 

ระดม ๑๐๐ ล.ถวายในหลวง
    นายนรินทร์ นันทิพานิชย์ อัยการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องการจัดการทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณว่า ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้มาระหว่างบวชอยู่นี้ ถ้าหากพระสงฆ์มรณภาพในขณะที่เป็นพระสงฆ์อยู่ ทรัพย์สินทุกอย่างต้องเป็นของวัด และส่วนที่ว่าหลวงพ่อคูณ จะนำเงินจำนวน ๑๐๐ ล้านบาท ขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ต้องจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิสูจน์หาหลักฐาน และหากมีมติเห็นชอบแล้ว อาจจะสานต่อปณิธานตามความประสงค์ของหลวงพ่อคูณท่านก็ได้  
    นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน กล่าวถึงความตั้งใจของหลวงพ่อคูณที่จะทูลเกล้าฯ ถวายเงิน ๑๐๐ ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในใจของศิษยานุศิษย์ทุกคน เพราะหลวงพ่อได้พูดไว้หลายครั้ง ถึงแม้จะรวบรวมได้ไม่ถึง ๑๐๐ ล้านบาท แต่อยากจะทำให้สำเร็จภายในปีนี้ ผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคสมทบทุน สามารถบริจาคโดยตรงได้ที่วัดบ้านไร่ เพื่อที่ทางวัดจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตรเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันการบริจาคให้ ทางคณะกรรมการวัดได้มีการเปิดบัญชีในโครงการนี้ไว้คือ “บัญชี ๙๐” เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารที่หลวงพ่อตั้งใจจะนำทูลเกล้าฯ โดยเงินส่วนนี้ได้มาจากการสร้างวัตถุมงคลให้เช่า ล่าสุดมีเงินในบัญชีกว่า ๒๐ ล้านบาท

 

ข้อความพินัยกรรม
    พินัยกรรมก่อนมรณภาพของหลวงพ่อคูณเขียนเอาไว้เมื่อ ๑๕ ปีก่อนนี้ คือเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยพินัยกรรมดังกล่าวมีพยานรับรอง ๔ คน คือ ๑.รศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ๒.นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ ๓.นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และ ๔.นายเนาวรัตน์ สังคมกำแหง นิติกร ๘ (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื้อหาพินัยกรรมดังกล่าว มีข้อความว่า อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ ๗๗ ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง 
    ๑.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใน ๒๔ ชั่วโมงหลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป  ๒.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ ๗ วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง ๓.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น ๔.เมื่อดำเนินตามข้อ ๓ เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม ๕.ค่าใช้จ่ายและเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนัย ข้อ ๒ , ๓ และ ๔ ให้ดำเนินการ ดังนี้ 
     ๕.๑ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานและบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี ๒๕๓๖ เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อน ๕.๒ ในการจัดการและบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ ๕.๑ หากมีเงินเหลือหรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดรองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น ๕.๓ หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัย ข้อ ๕.๑ และข้อ ๕.๒ แล้ว ให้นำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมา (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น ๖.ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้ ๗.ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๖ หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน 
    ทั้งนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทย ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก ๓ ชุด ชุดแรกเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ชุดที่สองเก็บไว้ที่ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และชุดที่สามเก็บไว้ที่นายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ ๑ ฉบับ ลงวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๓  

 

บำเพ็ญกุศล ๑ มิ.ย. ทั้งจังหวัด
    สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) มีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำหรับผู้ที่จะไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ทางจังหวัดนครราชสีมา มีรถบัสสำหรับบริการรับ-ส่ง ไม่คิดค่าโดยสาร วันละ ๕ คัน โดยผู้ที่ต้องการจะไปต้องลงชื่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา 
    ล่าสุดนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯโคราช กล่าวว่า “พิธีบำเพ็ญกุศลในจังหวัดนครราชสีมาจัดขึ้นทุกวันที่วัดบ้านไร่ มีคนมาร่วมงานวันละประมาณ ๒๐๐ คน ทางพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดพายัพ รวมถึงคณะสงฆ์ในจังหวัดนครราชสีมา ต่างเห็นว่า ควรจัดพิธีอุทิศส่วนกุศลใหญ่หลังจากหลวงพ่อคูณละสังขาร ๑๕ วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยจะทำบุญทุกวัดในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีประมาณ ๑,๕๐๐ วัด

ฉบับที่ ๒๒๙๒ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ - วันจันทร์ที่ ๒๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


696 1342