20thApril

20thApril

20thApril

 

May 27,2015

เตือนภัยผู้บริโภค

ถึงเวลาจัดการชาเขียว


    คุณสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานในนิตยสารฉลาดซื้อว่า บัดนี้ถึงเวลาจัดการชาเขียวแล้ว เหตุผลก็คือ ชาเขียวส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำตาลมาก จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ จากการสำรวจชาเขียวจำนวน ๓๒ ยี่ห้อ พบว่า  ๒๔ ยี่ห้อมีน้ำตาลตั้งแต่ระดับ ๖ ช้อนชาถึง ๑๘.๑๒ ช้อนชา มีเพียง ๘ ยี่ห้อเท่านั้นที่มีน้ำตาลต่ำกว่า ๖ ช้อนชา ตามปกติคนเราไม่ควรกินน้ำตาลมากกว่า ๖ ช้อนชาต่อวัน ดังนั้น เวลาผู้บริโภคจะซื้อเครื่องดื่มประเภทนี้ ควรดูปริมาณน้ำตาลที่ฉลากด้วย แต่เพื่อความปลอดภัยควรเลิกเสียเลยจะดีกว่า เพราะถ้าขืนบริโภคต่อไป ท่านจะได้รับ “โรคเบาหวาน ความดัน โรคอ้วน โรคหัวใจ” แทนที่จะได้รถเบนซ์
    ขอฝากทางราชการว่า ควรควบคุมสินค้ากลุ่มนี้ให้ใกล้เคียงกับสินค้ากลุ่มอื่น ที่เป็นเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน ไม่ควรปล่อยให้โฆษณาอย่างอิสรเสรี รวมทั้งชิงโชคและแถมพกอย่างทุกวันนี้ ควรมีคำเตือน เช่น ห้ามดื่มเกินวันละ ๒ ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรบริโภค (ฉลาดซื้อ ปีที่ ๒๑ ฉบับที่ ๑๖๙) 

การทำบ้านให้ปลอดเชื้อโรค
    ในบ้านเรือนมีแหล่งสะสมเชื้อโรคทุกบ้าน แต่ก็มีวิธีการป้องกันได้ดังนี้
    ๑) เครื่องซักผ้า อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้ เครื่องซักผ้าช่วยทำให้เสื้อผ้าสะอาดก็จริงอยู่ แต่มันก็มีโอกาสสกปรกและเป็นที่เก็บและแพร่เชื้อโรคได้ โดยเฉพาะแบคทีเรียและไวรัส เพราะเชื้อโรคต่างๆ จากการซักผ้าสามารถตกค้างอยู่ตามซอกมุมและส่วนต่างๆ ของเครื่อง การซักผ้าทำให้เครื่องเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นที่เพาะเชื้อราได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เราควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าสัปดาห์ละครั้ง ด้วยการใช้น้ำยาฟอกขาวที่ใช้ฟอกขาวผ้า ๑ ถ้วย ใส่ลงในเครื่องซักผ้า แล้วก็เปิดเครื่องซักผ้าให้ทำงานตามปกติ โดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้า แค่นี้ก็จะทำให้เครื่องซักผ้าสะอาดได้
    ๒) ทำความสะอาดจุดที่มือสัมผัสมากหรือบ่อยๆ บริเวณที่มือจับหรือสัมผัส เป็นแหล่งที่เกิดเชื้อโรคได้ง่าย ได้แก่ โทรศัพท์ รีโมทโทรทัศน์ รีโมทเครื่องปรับอากาศ โต๊ะกาแฟทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ลูกบิดประตู ราวเกาะ สวิตซ์ไฟฟ้าและอื่นๆ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด


    ๓) แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์ (ทั้งมือถือและประจำบ้าน) อุปกรณ์เหล่านี้เราใช้งานและใช้มือสัมผัสมากที่สุด จึงควรทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ด หรือใช้ลูกยางบีบลมไล่ฝุ่นแล้วเช็ดด้วยผ้าอีกที ถ้ามีใครยืมใช้ต้องทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อส่งคืน
    ๔) ทำความสะอาดอ่างล้างจาน อ่างล้างจานชามเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้มาก จึงควรทำความสะอาดอ่างทุกครั้งหลังการใช้งาน ฟองน้ำและวัสดุทำความสะอาดจานชามนั้นจะสะสมเชื้อโรคและไขมันต่างๆ ไว้มาก จึงต้องทำความสะอาดทุกวันหลังเลิกใช้งาน เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีโคไลและซัลโมเนลลา การทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทำได้โดยล้างด้วยสบู่ น้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน หรือแช่ฟองน้ำให้เปียกแล้วนำเข้าในไมโครเวฟ เปิดไมโครเวฟนาน ๒ นาที น้ำจะร้อนเป็นการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดไปพร้อมๆ กัน ถ้าไม่มีไมโครเวฟก็ใช้วิธีต้มน้ำให้เดือด แล้วแช่ฟองน้ำด้วยน้ำร้อน ทิ้งไว้จนเย็นแล้วบีบเอาน้ำออก
    ๕) กดชักโครกให้ถูกวิธี คนส่วนใหญ่เมื่อกดชักโครกมักจะไม่ปิดฝาครอบ การไม่ปิดฝาครอบเวลากดน้ำล้างส้วม จะเป็นการทำให้เกิดการกระจายของอุจจาระและปัสสาวะ จากโถส้วมฟุ้งกระจายไปทั่วในห้องน้ำได้ ควรทำความสะอาดโถส้วมทุกสัปดาห์


    ๖) การทำน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้เอง ทำได้ง่ายๆ และราคาถูก โดยใช้น้ำส้มสายชู ๑ ส่วน น้ำเปล่า ๙ ส่วนผสมกัน แล้วบรรจุขวดที่ฉีดน้ำเป็นฝอยใช้ฉีดตามอ่างล้างหน้า ชักโครก ห้องน้ำ อ่างล้างจาน และฉีดได้ทุกที่ที่ต้องการทำความสะอาด น้ำยานี้จะช่วยชะล้างไขมันได้ดีอีกด้วย (ฉลาดซื้อ ปีที่ ๒๑ ฉบับที่ ๑๖๙)

บุญเลิศ  สดสุชาติ
สภาฮักแพงเบิ่งแงงคนมหาสารคาม


ฉบับที่ ๒๒๙๓ วันอังคารที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


684 1344