26thApril

26thApril

26thApril

 

May 27,2015

๓ ร้าน‘มอปลาย่าง’ดื้อ พันตรีทบ.อ้างศาลไม่สั่ง เชื่อกลางมิ.ย.จบแน่

   อธิบดีกรมธนารักษ์ประชุมถกปัญหาที่ดินราชพัสดุแปลงมอปลาย่าง พบ ๓ ร้านใหญ่ไม่ยอมให้ทางการรื้อถอน หนึ่งในนั้นเป็นของนายทหารยศพันตรี ‘รองผู้ว่าฯวินัย’ ใช้แนวทางสันติ รอคำสั่งศาลคาดกลางเดือนมิถุนายนมีผล

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล 
อธิบดีกรมธนารักษ์

    เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ ชั้น ๒ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย นายปรีชา มงคลหัตถี รองอธิบดีกรมฯ ด้านที่ราชพัสดุ ตรวจเยี่ยมและประชุมรับฟังเพื่อทราบปัญหาที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ส.นม.๒๘๐๖ (มอปลาย่าง) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมประชุม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการทหาร ตำรวจ ราชพัสดุ ธนารักษ์ ข้อสรุป กรณีประชาชนเข้าไปบุกรุกเปิดกิจการร้านอาหาร ก่อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุบริเวณริมเขื่อนลำตะคอง (มอปลาย่าง) ภายในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวรับฟังรายละเอียดถือเป็นความลับ
 

๓ ร้านไม่ยอมรื้อ
    ก่อนการประชุม นายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว นายอำเภอปากช่อง ให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมตนได้นำรายละเอียดการรื้อถอนร้านค้าตั้งแต่วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๒๐ ราย  และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ อีกจำนวน ๓๒ ราย โดยได้จัดสรรพื้นที่รองรับสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าไว้ที่บริเวณ กองพันสุนัขทหาร ซึ่งห่างจากจุดเดิมเพียง ๒.๓ กิโลเมตร และยังเจอกับปัญหาคือ ๓ ร้านอาหารใหญ่ ไม่ยินยอมรื้อถอน คือ ร้านไก่ย่างพรทิพย์ ร้านลำตะคองซีฟู๊ด และร้านครัวอีสาน มีนายทหารยศพันตรีเป็นเจ้าของร้านไม่ยินยอมให้ทางการรื้อถอน อ้างขอสู้คดีในชั้นศาล ทั้งที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอน แต่ผู้ประกอบการทั้ง ๓ ราย กลับดื้อดึงไม่ยินยอมให้รื้อถอนในพื้นที่บางส่วนจึงทำให้เกิดปัญหา จึงต้องมาทำการพิจารณาปัญหาและหารือเพื่อหาแนวทางในการเจรจาตกลง โดยจะมี กรมธนารักษ์ร่วมรับฟังและรับพิจารณา พร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนผู้ประกอบการ ๑๖ ราย ที่ยินยอมให้รื้อถอนแต่แรกได้จัดสรรพื้นที่ชั่วคราวให้ได้ประกอบกิจการแล้ว 

 

ถือปฏิบัติตามกฎหมาย
    ภายหลังประชุม นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ดินที่ได้ทำการรื้อถอนบริเวณมอปลาย่าง ก็จะเร่งปรับภูมิทัศน์ให้กลับมาคงสภาพเดิม ปลูกต้นไม้ และดอกไม้ให้หลากหลายเพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม ในส่วนเรื่องของผู้ประกอบการทั้ง ๓ รายที่ยังไม่ยินยอมให้รื้อถอนนั้นคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการรื้อถอน เราถือว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมายที่มีคำสั่งของศาลให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ปล่อยลอยแพ ได้จัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมให้ย้ายมาทำกิจการร้านอาหารได้ดังเดิม ซึ่งหากอีก ๓ ร้านดังกล่าวจะร่วมฟ้องร้องคดีกับหน่วยงานของรัฐก็เป็นสิทธิของเขา 
    “ส่วนเรื่องของงบประมาณการก่อสร้างอาคารถาวร เพื่อให้ผู้ประกอบบริเวณพื้นที่ของกองพันสุนัขทหารจำนวน ๒๔ ไร่ ขอหาแนวทางครั้งต่อไป เนื่องจากต้องหาเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างหลายล้านบาท ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือกับทางจังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

เจรจายุติรุนแรง
    ท้ายสุด นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรักษาราชการแทนในที่ประชุม กล่าวว่า เป็นปัญหาที่ต้องรอผู้ว่าราชการจังหวัด นายธงชัย ลืออดุลย์ ให้รับทราบพร้อมกับร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย เนื่องจากครั้งนี้ผู้ว่าฯ ติดภารกิจที่อำเภอบัวใหญ่ ซึ่งยังไม่ได้รับทราบรายละเอียดที่ชัดเจน รู้เพียงเบื้องต้นเพียงว่ามี ๓ ร้านค้าที่ยังไม่ยินยอมให้รื้อถอน แต่ทางด้านท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ อยากให้ใช้วิธีการเจรจา ไม่อยากใช้ความรุนแรง ถ้าหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ

 

‘พันตรี’มีเอี่ยว
    ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ‘โคราชคนอีสาน’ สอบถามไปยังนายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรื่องความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคมที่ผ่านมา ของผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร ๓ ร้าน ประกอบด้วย ๑.ร้านไก่ย่างพรทิพย์ ๒.ร้านลำตะคองซีฟู๊ด และ ๓.ร้านครัวอีสาน บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ไม่ยินยอมให้หน่วยงานราชการเข้าทำการรื้อถอนเวนคืนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเขตพื้นที่ของราชการ ว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับอธิบดีกรมธนารักษ์พบว่า ๑ ใน ๓ ร้านดังกล่าว มีร้านของอดีตภรรยานายทหารยศพันตรี ‘ชื่อร้านครัวอีสาน’ คือนางลัดดา โพธิรักษ์ เป็นอดีตภรรยาของ พันตรีวิทยา โพธิรักษ์ สังกัดกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ ๒ อำเภอปากช่องเป็นเจ้าของร้าน โดยพันตรีวิทยา อ้างว่า หย่าร้างกับภรรยาแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการร้านอาหารดังกล่าว ได้จดทะเบียนหย่ากับภรรยาเมื่อประมาณปีพ.ศ. ๒๕๓๑ แต่พฤตินัยแล้วยังถือว่าเป็นสามีภรรยากัน เพราะอยู่กินในบ้านเดียวกันอย่างเปิดเผย อาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องผลประโยชน์กับอดีตภรรยา

 

กลางเดือนมิ.ย.ทราบผล
    นายวินัย กล่าวอีกว่า ทั้ง ๓ ร้านที่เหลือจะใช้มาตรการเดียวกันกับการรื้อถอนครั้งแรก (วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘) เพียงแต่ต้องรอขั้นตอนของกฎหมายให้ครบ ๓๐ วัน คาดว่าประมาณกลางเดือนมิถุนายนจะทราบผล ซึ่งหากมีคำสั่งของศาลพิจารณาแล้ว ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผู้ประกอบการจะยินยอมหรือไม่ ก็ไม่สามารถจะขัดขืนได้ หากศาลมีคำสั่งให้รื้อก็คือต้องรื้อ และจากนั้นจะเป็นหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ในการเข้ารื้อถอนร้านค้าที่เหลือได้ทันที โดยไม่ต้องรอทางจังหวัดเพราะเป็นพื้นที่ปกครองของ อบต.หนองสาหร่าย ซึ่งขณะนี้ก็มีการวางแผนเบื้องต้นไว้แล้ว 

 

ให้ ๓ ร้านเตรียมความพร้อม
    “เนื่องจากว่า ร้านลำตะคองซีฟู๊ด ได้เปิดบริการห้องพักรีสอร์ท และมีทรัพย์สินอื่นๆ นอกเหนือจากห้องพักด้วย อาทิ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่างๆ ฯลฯ อาจจะเสียหายจากการเข้ารื้อถอนได้ เพราะถ้าหากมีคำสั่งศาลให้รื้อถอนแล้ว จึงขอฝากทั้ง ๓ ร้านค้าที่เหลือปฏิบัติตามคำสั่ง และเตรียมความพร้อมหากมีคำสั่งศาลให้รื้อถอน ถ้าไม่อยากให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหาย อยากให้ทำเข้าใจตรงกัน และขอประชาสัมพันธ์ผ่านหนังสือพิมพ์มา ณ โอกาสนี้เลย” รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวท้ายสุด 
    ทั้งนี้ ปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ “ฟ้าสางที่ลำตะคองครั้งที่ ๑ และ ๒” จังหวัดนครราชสีมาได้รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๑๖ พฤษภาคมที่ผ่านมา หากยังมีฐานรากของอาคารหลงเหลืออยู่ ทางอบต.หนองสาหร่าย อบต. คลองไผ่ และจังหวัดนครราชสีมาจะดำเนินการรื้อย้าย อาศัยตามอำนาจพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ กระทั่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ก่อนเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่างเดิม ให้สวยงามและใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป


ฉบับที่ ๒๒๙๓ วันอังคารที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘


687 1342