กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เลือก ๑๒ ผลิตภัณฑ์อาหารเด่นภาคอีสาน ร่วมงานแสดงสินค้าและอาหารประจำปี ๒๕๕๘ หวังยกระดับผลิตภัณฑ์พื้นบ้านสู่ตลาดการค้าในระดับสากล ขณะที่ยอดส่งออกอุตสาหกรรมของไทยในปีที่ผ่านมามากถึง ๘๐๐,๐๐๐ ล้านบาท

  นายอธิคม ตันติวงศ์

    นายอธิคม ตันติวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสงเสริมการค้าระหว่างประเทศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสรุปสถิติมูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารของไทยในรอบปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศที่สร้างรายได้ให้กับประเทศรวมกว่า ๘๐๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยสินค้าอาหารของไทย ๕ อันดับแรกในตลาดโลกยังคงประกอบด้วย ข้าว ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป กุ้งแช่แข็งและแปรรูป และสิ่งปรุงรสอาหาร ทั้งนี้ นโยบายและแผนการดำเนินงานหลักของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการทำหน้าที่เชื่อมโยงการค้าในระดับภูมิภาคสู่ตลาดการค้าโลก ที่เริ่มจากการบริการข้อมูลการค้าการส่งออก รายชื่อผู้นำเข้าในต่างประเทศ และผู้ส่งออกไทยให้คำปรึกษาการทำธุรกิจส่งออก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่จับคู่ธุรกิจโดยแนะนำคู่ค้าที่เหมาะสม จัดทำนัดหมายเจรจาการค้าจัดหาตัวแทนเพื่อเป็นเครือข่ายกระจายสินค้าในต่างประเทศ และอีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก โดยนำผู้ประกอบการท้องถิ่นร่วมงานแสดงสินค้าที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ การจัดคณะผู้แทนการค้า และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร ประจำปี ๒๕๕๘ หรือ THAIFEX-World of  Food Asia 2015 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มีผลิตภัณฑ์อาหารจากภาคอีสาน ๑๒ รายการที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย ซึ่งการเปิดโอกาสให้กับธุรกิจในระดับภูมิภาคได้เข้าถึงตลาดการค้าในระดับโลก เป็นอีกหนึ่งแผนการดำเนินงานที่สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในแต่ละภูมิภาคจะต้องเข้าไปส่งเสริมในรูปแบบต่างๆ ให้ได้อย่างครบถ้วน และเป็นไปตามมาตรฐานตลาดการค้าระดับโลก 

    “ในปีนี้มีผู้ประกอบการ ๑๒ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินและผ่านการคัดเลือกให้ร่วมแสดงผลิตภัณฑ์และเจรจาธุรกิจการค้ากับผู้ค้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่เดินทางมาร่วมงานตลอดทั้งช่วงของการจัดงานไม่น้อยกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นได้อย่างมาก ทั้งนี้ ๑๒ ผู้ประกอบการของภาคอีสานที่เข้าร่วมงานประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ข้าวสุขภาพ, การแปรรูปเครื่องเทศและกระเทียมออแกนิค จากบริษัท อารมณ์ดี ฟาร์ม จ.ชัยภูมิ, ผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำสมุนไพร จากบ้านเจริญสุข กรุ๊ป จ.อุดรธานี, ข้าวฮางงอก จากร้านข้าวคุณแม่ จ.นครพนม, ข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิ จากบริษัท ขวัญข้าว อินเตอร์เทรด จ.มหาสารคาม, ผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูป และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากข้าว เนเจอร์ฟู้ด จ.สุรินทร์, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาและกุ้ง และข้าวเกรียบปลา จากบริษัท ป.เกรียบกุ้ง จ.อุบลราชธานี, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูปกระชายดำ จากบริษัท พฤกษาไพร จ.เลย, ชาแก่นตะวัน จากร้านไร่ราพันธุ์ จ.ชัยภูมิ, ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้แปรรูป จากลูกหม่อน ฐ.สยามเบรฟ จ.สกลนคร, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาและเครื่องเทศ จากร้านซูป อนันต์สุข จ.กาฬสินธุ์, ข้าวหอมมะลิ จากบริษัท ทองเมืองไรท์มิลล์ จ.นครราชสีมา และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้และผลไม้อบแห้ง จากบริษัท วีรนา อินเตอร์เนชั่นแนล จ.มหาสารคาม” นายอธิคม กล่าว
    นายอธิคม กล่าวท้ายสุดว่า “ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ผ่านการประเมินตามระเบียบและเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และพร้อมที่จะก้าวสู่ตลาดการค้าในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น เพื่อแสดงออกถึงศักยภาพของการเป็นครัวของโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอาหารไทยมีความพร้อมเข้าสู่ตลาดการค้าระดับสากลได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยศักยภาพสินค้าที่หลากหลายมีคุณภาพ มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก อีกทั้งผู้ประกอบการไทยยังคงมีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยหน่วยงานภาครัฐยังคงให้การสนับสนุนและเปิดโอกาสในการสร้างช่องทางการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน”

ฉบับที่ ๒๒๙๓ วันอังคารที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘