เครือข่ายประชาชนที่ได้รับกระทบการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบกกว่า ๑๐๐ คน ร่วมเวทีเสวนาจี้ภาครัฐและเอกชนชี้แจงผลกระทบข้อเท็จจริงกับประชาชน ก่อนสำรวจรอบใหม่ พร้อมหนุนจัดตั้งสภาพลเมือง เพื่อมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นตนเอง

    เมื่อเร็วๆ นี้ มีราษฎรจาก ๔ อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ อำเภอสตึก บ้านด่าน แคนดง และอำเภอคูเมือง ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก ของบริษัทต่างประเทศในปี ๒๕๕๗ ทั้งผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ๕ ตารางกิโลเมตร ที่จะมีการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ในปลายปีนี้กว่า ๑๐๐ คน ได้เดินทางเข้ามาร่วมเวทีเสวนาเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการพลังงาน ที่กลุ่มเครือข่ายสภาพัฒนาการเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจัดขึ้น ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก 
    สำหรับเวทีเสวนาประชาชนและกลุ่มเครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรฯ ส่วนมาก ต้องการให้ทางภาครัฐและเอกชนผู้ดำเนินการ ออกมาชี้แจงให้ความรู้ข้อเท็จจริง ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนได้รับทราบและเข้าใจในการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบกในรอบใหม่ พร้อมกันนี้หากทางภาครัฐและเอกชนมีการขุดเจาะทรัพยากรเชิงการพาณิชย์ในพื้นที่ ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งควรแบ่งปันให้กับชุมชนและท้องถิ่นเพื่อที่จะนำไปพัฒนาบริหารจัดการท้องถิ่นของตนเอง เพราะที่ผ่านมาทางภาครัฐและเอกชนไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงและไม่มีการทำประชาพิจารณ์ประชาชนอย่างถูกต้องก่อนการดำเนินการพร้อมกันนี้กลุ่มประชาชนและเครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติยังสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อเป็นกำลังเครือข่ายพิทักษ์ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ใน            ท้องถิ่นของตนเองให้เข้มแข็งมากขึ้น
    นายศุพกร พยุงแสนกุล ตัวแทนราษฎรที่เข้าร่วมเวทีเสวนา กล่าวว่า ความจริงแล้วก่อนที่ทางบริษัทเอกชนจะเข้ามาสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียมในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพลังงานจังหวัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือนักวิชาการจะต้องเข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจหรือให้ความรู้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงถึงผลดี ผลเสียหรือผลกระทบเกี่ยวกับการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมให้ชาวบ้านได้รับทราบอย่างชัดเจน เพราะชาวบ้านเป็นคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่หากการขุดเจาะเกิดผลกระทบไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัยหรือกระทั่งวิถีชีวิตที่จะต้องปรับตัวอยู่กับสิ่งจะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยที่ไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงใดๆ เลย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจให้ชาวบ้านได้ทราบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการขุดเจาะสำรวจรอบใหม่ด้วย
    ทางด้านนายวุฒิพงษ์ เหลืองอุดมชัย ประธานเครือข่ายพัฒนาการเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ข้อมูลปัญหาความต้องการดังกล่าวที่ได้จากการเสวนาของประชาชน และเครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในครั้งนี้จะได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงพลังงาน และ สปช.ได้รับทราบเพื่อที่จะได้นำข้อมูลปัญหาความต้องการไปพิจารณาช่วยเหลือและจัดตั้งสภาพลเมือง เพื่อที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเองอย่างมีคุณภาพ

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๐๐ วันพุธที่  ๑ - วันอาทิตย์ที่  ๕  เดือนกรกฎาคม  พุทธศักราช  ๒๕๕๘