19thApril

19thApril

19thApril

 

July 03,2015

ปตท.ผนึก‘ราชบุรีโฮลดิ้ง’ ศึกษาขยายลงทุนพลังงาน รุกปักธงเพื่อนบ้านอาเซียน

    กลุ่ม ปตท.ประกาศความร่วมมือกับบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนโครงการด้านพลังงานในเมียนมา อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศ เสริมเสถียรภาพความมั่นคงในอนาคต ด้วยการประสานศักยภาพความเชี่ยวชาญของบริษัทไทยร่วมกัน แข่งขันโอกาสทางธุรกิจกับผู้เล่นรายใหญ่ในต่างประเทศ 

    เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานใน “พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนโครงการด้านพลังงาน ระหว่างกลุ่ม ปตท. กับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)” โดย กลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์ส                  เซส จำกัด และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนโครงการด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศ เสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต และสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศร่วมกัน
    ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นับเป็นก้าวที่สำคัญของความร่วมมือในภาคเอกชนของไทยที่มีความสามารถเฉพาะด้านเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ โดยจะมีการศึกษาเพื่อดำเนินโครงการด้านพลังงานที่สำคัญและเป็นทิศทางพลังงานในอนาคตที่จำเป็นของไทย ทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว และถ่านหิน พลังความร่วมมือของแต่ละบริษัทจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่อยู่ในไทยและในต่างประเทศได้ทั้งในวันนี้และอนาคต ที่สำคัญที่สุดคือ เป็นการแสดงถึงศักยภาพของบริษัทพลังงานและบริษัทไฟฟ้าของไทย ที่สามารถสร้างโครงข่ายพลังงานในระดับชาติ ด้วยความมุ่งมั่นในบทบาทหน้าที่สร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านพลังงานของสังคมไทยสืบไป
    นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจจำนวน ๓ ฉบับ คือ ฉบับที่ ๑ เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการ LNG Receiving Terminal ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รวมถึงเป็นโอกาสในการจัดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติให้กับโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ฉบับที่ ๒ เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์สเซส จำกัด และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการลงทุน และแลกเปลี่ยนข้อมูลในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และฉบับที่ ๓ เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และโครงการโรงไฟฟ้าและสาธารณูปการในตอนกลางของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม


    นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH มีแผนมุ่งเน้นที่จะขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียนเป็นหลัก โดยมีการเติบโตร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ความร่วมมือกับกลุ่ม ปตท.ในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้น รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทขององค์กรธุรกิจไทยขนาดใหญ่ที่เป็นต้นแบบในการผนึกกำลังกันเป็น “Team Thailand” ที่ร่วมกันแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในต่างประเทศ การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเช่นกลุ่ม ปตท. ทำให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ จะสามารถขับเคลื่อนและเสริมสร้างการเติบโตของทั้งองค์กรและประเทศชาติได้อย่างแน่นอน
    ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในฐานะแกนนำหลักในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้า และสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะนำพลังงานไฟฟ้าไทยไปสู่เวทีนานาชาติ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในอาเซียน ในขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าให้กับประเทศที่ยังต้องการไฟฟ้าอีกมาก เช่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอยู่หลายโครงการ ซึ่งนอกเหนือจากการเข้าไปศึกษาเองแล้ว ยังมีกลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ อย่างบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อที่จะร่วมกันมองหาโอกาสในการขยายตลาดเข้าไปในต่างประเทศ โดยการจัดทำบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นก้าวแรกของแนวทางดังกล่าว


     ภายหลังการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ นายพีรฉัตร ปิ่นประยงค์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์สเซส จำกัด เปิดเผยว่า “จากการที่ ปตท. ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในความร่วมมือของบริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์สเซส จำกัด ซึ่งเป็นแกนนำหลักของธุรกิจในแต่ละประเภท และโอกาสทางด้านการลงทุนร่วมกันในประเทศที่มีศักยภาพ ประกอบกับความตั้งใจที่จะตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐ ในด้านของการเติบโตอย่างยั่งยืนทางด้านพลังงาน บริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์สเซส จำกัด ซึ่งเป็นแกนนำหลักในการพัฒนาธุรกิจด้านถ่านหินของกลุ่ม ปตท. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง  จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศทางด้านการพัฒนาธุรกิจไฟฟ้า เพื่อศึกษาถึงโอกาสและความเป็นได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาครั้งนี้ โดยหวังว่าความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นของการพัฒนาขีดความสามารถทางด้านพลังงานให้แก่ประเทศไทยต่อไป”
    ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) นับได้ว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานและไฟฟ้าชั้นนำของประเทศ การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวของความสำเร็จและความร่วมมือทางด้านพลังงานของไทย ที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่เวทีสากลอย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนตลอดไป 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๐๐ วันพุธที่  ๑ - วันอาทิตย์ที่  ๕  เดือนกรกฎาคม  พุทธศักราช  ๒๕๕๘

 


694 1342