มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจับมือ ๑๔ มหาวิทยาลัยชั้นนำ จีน-ญี่ปุ่น-เวียดนาม พัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนเทียบชั้นระดับนานาชาติ  มุ่งสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำของภาคอีสาน พร้อมจัดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา เรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษา นำร่องในระดับปริญญาตรี

ผู้บริหาร ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น นายหลี่ มิงกัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายบุนสี วงบัวสี กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทย และดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ ๓ ในหัวข้อ “บูรณาการงานวิจัยสู่ความรู้ที่ยั่งยืน” โดยมีสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัย รวม ๘๙ สถาบัน
    ดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวนี้เป็นการนำเสนอผลงานวิจัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งมีสถาบันการศึกษาร่วมเสนอผลงานวิจัย รวม ๘๙ สถาบัน รวมผลงานทั้งสิ้น ๓๗๔ บทความ โดยแบ่งการนำเสนอผลงานวิจัย รวม ๕ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการศึกษา, ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ, ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ด้านมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ และด้านบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ขณะเดียวกันยังคงได้ประสานความร่วมมือด้วยการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการโครงการส่งเสริมการศึกษาในระดับปริญญาตรี ร่วมกับ ๑๔ สถาบัน ชั้นนำของประเทศไทยและนานาชาติ ประกอบด้วย Institute of Technologit JAPAN, Gannan Normal University Chaina, Hue Industrial College Vietnam, มหาวิทยาลัยนครพนม, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์, มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น, วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี  และวิทยาลัยธาตุพนม มหาวิทยาลัยนครพนม

    “การแลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยการปรับกระบวนการการจัดการเรียนการสอน ด้วยการผลิตผลงานวิชาการ และพัฒนางานวิจัย รวมทั้งร่วมกันสร้างสรรค์นวัตรกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประสานการทำงานร่วมกับ ๑๔ สถาบันการศึกษาในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ที่เริ่มขึ้นจากการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติร่วมกันครั้งที่ ๓ ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกิดจากผลงานวิจัยจากสถาบันการศึกษาของรัฐบาลและเอกชนทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังคงเป็นการเปิดเวทีให้มีการนำเสนอการวิจัยสู่สาธารณชนและแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ระหว่างผู้ทำวิจัย และผู้สนใจทั่วไป ทั้งระดับชาติและนานาชาติ” ดร.เอกอนันต์ กล่าว
    ดร.เอกอนันต์ กล่าวในท้ายสุดว่า ในปีการศึกษา ๒๕๕๘ เป็นที่มหาวิทยาลัยฯประสานการทำงานที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกันที่เริ่มจากนักศึกษาในระดับปริญญาตรีที่จะมีการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบโครงการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา เพื่อยกระดับมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้มีมาตรฐานเทียบชั้นระดับสากลและเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของภาคอีสานต่อไป

นสพ. โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๐๓ วันพฤหัสบดีที ๑๖- วันจันทร์ที่ ๒๐ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘