29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

September 26,2015

บริจาคศูนย์เลือดทะลุ ๓๐ ล. ผู้ว่าเบิร์ด:ภูมิใจผลงาน ‘เจี๊ยบ -หงอก’มุ่งถนนลูกหนัง

ข้าราชการดังถอดเครื่องแบบ “เบิร์ด : รายงานผล...ฉบับอำลา” กับการบริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะผวจ. นครราชสีมา คนที่ ๔๙ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมปิดตำนาน ‘มอปลาย่าง’ สำเร็จ พร้อมกลับมาเป็นพลเมืองเต็มขั้น ๑ ตุลาคม ย้ำบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ เยียวยาผู้บุกรุกมอปลาย่างและคืนทัศนียภาพลำตะคอง ยอดบริจาคอาคารบริการโลหิต ทะลุ ๓๐ ล้านบาทแล้ว ผู้บัญชาการ ตร.ภาค ๓ ‘บิ๊กเจี๊ยบ(พล.ต.ท.)-ผอ.หงอก’ โรงเรียนกีฬาเทศบาลฯ มุ่งหน้าให้ฟุตบอล 

เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายธงชัย(เบิร์ด) ลืออดุลย์ เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ ๙/๒๕๕๘ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ก่อนเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายนนี้ พร้อมด้วยนายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมแจกหนังสือ “รายงานผล...ฉบับอำลา” กับการบริหารราชการแผ่นดินนครราชสีมา ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คนที่ ๔๙ สำหรับระเบียบวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือสถานการณ์น้ำในเขตจังหวัดนครราชสีมา จากภาพรวมปริมาณน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว, เขื่อนลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย, เขื่อนลำมูลบน อำเภอครบุรี, เขื่อนลำแชะ อำเภอครบุรี และเขื่อนลำปลายมาศ อำเภอเสิงสาง ขณะนี้มีปริมาณน้ำสะสมเฉลี่ยร้อยละ ๓๐ เท่านั้น และความสำเร็จตามกรอบการพัฒนาจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง  

ร่วมปิดตำนาน‘มอปลาย่าง’

นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ปกครองจังหวัดนครราชสีมา ทำให้หลายเรื่องประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ส.นม.๒๘๐๖ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง ตั้งอยู่บ้านเขาน้อย หมู่ที่ ๑๒ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง และบ้านคลองไผ่ หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา  หลังจากการบุกรุกมีปัญหายืดเยื้อนาน ๔๐ กว่าปี โดยล่าสุดผู้ประกอบการร้านอาหารทั้ง ๓ รายที่เหลือ ต่างก็ให้ความร่วมมือด้วยดีในการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ แต่สิ่งสำคัญคือ ความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนเนื่องจากการรื้อย้ายผู้บุกรุกมอปลาย่าง ตามยุทธศาสตร์ “ฟ้าสางที่ลำตะคอง” นั้น ทางจังหวัดไม่มีงบประมาณเพื่อการนี้ จึงต้องแสวงหาค่าใช้จ่ายจากภาคเอกชนสมทบ สำหรับการรื้อย้าย/ขนย้ายวัสดุบ้านเรือนออกจากบริเวณพื้นที่บุกรุกอยู่ รวมทั้งการก่อสร้างอาคารในพื้นที่รองรับให้กับผู้ยินยอมรื้อย้ายอาคารบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ถือเป็นการปิดตำนาน “มอปลาย่าง”     

นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

หวั่น!ปีหน้าภัยแล้งคุกคาม

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขตจังหวัดนครราชสีมา ข้อมูลจากโครงการชลประทานนครราชสีมา ระบุว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดนครราชสีมาทั้ง ๕ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก ๒๒ แห่ง ล่าสุดมีปริมาณน้ำรวม ๔๑๖.๒๔ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๔๓ ของความจุระดับกักเก็บรวม ๑,๑๗๔.๗๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้อยกว่าปีที่แล้วซึ่งมีปริมาณน้ำ ๕๖๔.๖๔ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๔๘ ของความจุระดับกักเก็บรวม เฉพาะ ๕ เขื่อนขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เขื่อนลำตะคอง, เขื่อนลำพระเพลิง, เขื่อนลำมูลบน, เขื่อนลำแชะ และเขื่อนลำปลายมาศ มีปริมาณน้ำรวม ๓๒๒.๗๖ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๔ ของความจุระดับกักเก็บ ๙๔๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ หากไม่มีฝนเติมลงมาอีก หรือในช่วงปลายปีนี้ภาพรวมสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ ไม่สามารถสะสมน้ำได้อย่างน้อยร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป หวั่นว่าจังหวัดนครราชสีมาจะเกิดปัญหาภัยแล้งอย่างหนักในปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณการใช้น้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า โรงพยาบาล เป็นต้น

ขอเป็นพลเมืองเต็มขั้น

“ผมต้องขอกราบขอบพระคุณในน้ำใจไมตรีของพี่น้องประชาชน ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนข้าราชการทุกหมู่เหล่า รวมถึงองค์กรปกคลองส่วนท้องถิ่น ที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่ของผมมาด้วยดีโดยตลอด นับตั้งแต่วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ เป็นต้นมา มีหลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นในพื้นที่ของเราเป็นสิ่งดีๆ สำหรับทุกๆ ท่าน เกิดจากความร่วมไม้รวมมือสมัครสมานสามัคคี ด้วยการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนจากทุกๆ ท่านที่มีต่อผม ขอถือโอกาสนี้อำลาท่านกลับไปเป็นพลเมืองเต็มขั้น ในวันที่ ๑ ตุลาคมนี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวทิ้งท้าย 

ยอดบริจาคศูนย์เลือดทะลุ ๓๐ ล.

พร้อมกันนี้ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีรับมอบเงินสนับสนุนการก่อสร้างอาคารภาคบริการโลหิตที่ ๕ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสมทบทุนการก่อสร้าง “อาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ ๕ นครราชสีมา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยในวันนี้ได้รับมอบเงินจากสโมสรไลออนส์มิตรภาพ โคราช จำนวน ๔๐,๐๐๐ บาท, ห้างหุ้นส่วนจำกัดใต้ฟ้าซิตี้ (หลังคุณย่าโม) จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, หจก.อู่ ช.ยานยนต์อะไหล่ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท และนายพรพจน์-นางมธุรส ชัยวรพร จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ร่วมบริจาคเงินส่วนตัวอีกจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ทำให้ขณะนี้มียอดบริจาคเงินก่อสร้างอาคารภาคบริโภคโลหิตแห่งที่ ๕ นครราชสีมา นับตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ถึงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ มีจำนวนรวม ๓๐,๐๐๐,๗๕๙.๒๕ บาท 

ทั้งนี้ ในส่วนของอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ ๕ นครราชสีมา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย จะใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งหมด ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งทางสภากาชาดไทยได้อนุมัติวงเงินสนับสนุนก่อสร้างแล้วจำนวน ๗๐ ล้านบาท ส่วนอีก ๓๐ ล้านบาท ให้ทางจังหวัดนครราชสีมาหาเงินสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการหางบประมาณสนับสนุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยขอสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน พ่อค้า/คหบดี ตลอดทั้งประชาชนในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยขณะนี้ได้รับการสนับสนุนครบจำนวน ๓๐ ล้านบาทแล้ว เมื่อรวมกับงบประมาณที่สภากาชาดไทยสนับสนุนมาจำนวน ๗๐ ล้านบาท ก็ถือว่าได้ครบจำนวนเงิน ๑๐๐ ล้านบาทในงบประมาณการก่อสร้างแล้ว

พร้อมก่อสร้างบนที่ราชพัสดุ

ส่วนพื้นที่ก่อสร้างนั้น จังหวัดนครราชสีมาได้ขอใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุ บนเนื้อที่ประมาณ ๗ ไร่ บริเวณถนนราชสีมา-โชคชัย ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยจะเป็นอาคารที่พัฒนางานบริการโลหิตของภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ ๕ ครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาผู้บริจาคโลหิต การเจาะเก็บโลหิต การเตรียมส่วนประกอบโลหิต การตรวจคัดกรองโลหิต การควบคุมคุณภาพ และการจ่ายโลหิตให้กับโรงพยาบาลในเขตจังหวัดนครชัยบุรินทร์ (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับโลหิตที่มีคุณภาพ รวดเร็ว และเพียงพอต่อความต้องการใช้ ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน และยังเป็นสถานที่เตรียมส่วนประกอบของโลหิตชนิดพิเศษ ที่ต้องใช้ในผู้ป่วยบางประเภทไว้บริการแก่โรงพยาบาล อาทิ เกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดง หมู่โลหิตหายาก เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และฝึกอบรมงานบริการโลหิตให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคารเลือดของโรงพยาบาล รวมทั้งลดจำนวนการเบิกจ่ายโลหิตจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดอื่น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนโลหิต ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ได้

มั่นใจ‘วิเชียร’ผู้ว่าฯใหม่

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์กับ ‘โคราชคนอีสาน’ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ “นายวิเชียร จันทรโณทัย” ที่จะเดินทางมารับตำแหน่งในวันที่ ๑ ตุลาคมนี้ ว่า “เป็นคนหนุ่ม และเป็นคนรุ่นใหม่ มีผลการศึกษาที่ดีมาโดยตลอด มีผลงานที่ดี ขยันขันแข็ง ผมมั่นใจว่าท่านจะมาทำสิ่งดีๆ ให้กับคนโคราช โดยเฉพาะท่านมีเลือดเนื้อเชื้อไขของคนโคราช ขอฝากส่วนราชการทุกคน รวมทั้งพี่น้องประชาชนได้ให้ความช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ “วิเชียร จันทรโณทัย” ซึ่งเป็นชาวอำเภอสีคิ้ว และเคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอสีคิ้ว ในการทำงานเพื่อประโยชน์ของชาวโคราชร่วมกัน ถึงแม้ผมจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนโคราช อยากเห็นบ้านเมืองในทางที่ดี”

ฝากแหล่งน้ำ-คืนทัศนียภาพลำตะคอง

ต่อคำถามที่ว่า จะฝากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ เข้ามาสานต่อในเรื่องใดเป็นพิเศษ? นายธงชัย กล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ค่อนข้างห่วงใย เพราะขณะนี้มีปริมาณน้ำสะสมเฉลี่ยร้อยละ ๓๐ ทำอย่างไรให้ใช้ได้ถึงฤดูฝนครั้งหน้าได้ ปีที่แล้วมีปริมาณน้ำสะสมเฉลี่ยร้อยละ ๕๐ ก็แทบจะไม่รอด ส่วน “มอปลาย่าง” หลังรื้อย้ายผู้บุกรุกออกจากพื้นที่แล้ว ก็ฝากให้ดูแลเรื่องการปรับทัศนียภาพและใช้ประโยชน์ รวมถึงการเตรียมพื้นที่ใหม่มารองรับด้วย ส่วนเรื่องที่วัดบ่อลิง อำเภอครบุรี ซึ่งกันราษฎรออกจากต้นน้ำมาแล้ว ได้ที่ดินมา ๕๒๗ ไร่นั้นจะจัดสรรพื้นที่อย่างไร เพื่อให้ราษฎรเหล่านี้ไม่เป็นภาระของสังคม และมาเป็นพลังของสังคมให้ได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสาธารณูปโภค การสร้างอาชีพและรายได้ นี่คือเรื่องเฉพาะหน้า

หวังระยะยาวคุณภาพชีวิต

“ส่วนเรื่องระยะยาวของจังหวัดนคร ราชสีมานั้น จะเห็นได้ว่าเรื่องวัตถุเราก็พัฒนามาเยอะแล้ว ใจผมอยากจะทำเรื่องคุณภาพชีวิต ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะเรื่องรายได้ต่อคนต่อปีของประชากรในจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ ๙๕,๐๐๐ บาทต่อปี ขณะที่จังหวัดขอนแก่นนั้น มีรายได้ต่อคนต่อปีของประชากร อยู่อันดับ ๑ ของภาคอีสาน คือ เฉลี่ยอยู่ที่ ๑๐๖,๐๐๐ บาทต่อปี ทั้งที่โคราชเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) สูงสุดในภาคอีสาน อยู่ที่ ๒๓๙,๐๐๐ ล้านบาท แต่ GPP ของจังหวัดขอนแก่น อยู่ที่ ๑๘๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ได้เขียนไว้ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของจังหวัดนครราชสีมาแล้ว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้นำมาพูดและขายความคิดให้เพื่อนข้าราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาโดยตลอด เขาคงจะทำกันต่อไป ผมมีเวลา ๔๘๖ วัน เท่าที่เห็นไม่รู้ว่าจะประเมินตัวเองอย่างไร ไม่มีเวลาประเมินตัวเองด้วยซ้ำไป และขณะนี้ยังไม่มีใครทาบทามไปทำงานให้องค์กรไหน” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวในท้ายสุด

พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก

‘บิ๊กเจี๊ยบ’ภูมิใจอีสานล่างสงบ

ด้านพล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก หรือ “บิ๊กเจี๊ยบ” ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๓ (ผบช.ภ.๓) ซึ่งเตรียมตัวเกษียณอายุราชการ ในวันที่ ๓๐ กันยายนนี้ ให้สัมภาษณ์กับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า ช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.๓ ผมทำดีที่สุดในอำนาจหน้าที่ ต้องถามประชาชนในพื้นที่ ๘ จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งผมกำกับดูแลว่าประทับใจอะไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาผมตั้งใจทำงานดีที่สุดในทุกเรื่อง ส่วนเรื่องที่ไม่ดีผมจะแก้ไข ทั้งนี้ ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค ๓ ให้สงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนกับรัฐบาล ถือว่าทำได้บรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายมา อย่างไรก็ดี ตำรวจในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นตำรวจที่มีวินัย ส่วนราษฎรในภาคอีสานนั้น ก็ไม่ได้มีความก้าวร้าวนัก สังเกตจากสถิติการก่อเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จากเมาสุราเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เป็นการก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่น อาวุธที่ใช้ทำร้ายร่างกาย เป็นมีดทำสวน หรือมีดถางหญ้า เป็นต้น ไม่ได้มีการใช้อาวุธร้ายแรง ผมมาอยู่ที่นี่ถือว่าเกิดเหตุค่อนข้างน้อย ไม่มีเหตุอาชญากรรมร้ายแรง ส่วนการลักขโมยทรัพย์สินต่างๆ นั้น เป็นเรื่องธรรมดาในสภาวะสังคมและเศรษฐกิจขณะนี้ แต่เหตุปล้นทรัพย์รายใหญ่ยังไม่ปรากฏ 

ลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอล

เมื่อถามว่า ภายหลังเกษียณอายุราชการแล้ว จะไปทำประโยชน์ด้านใดต่อไปนั้น พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวว่า ผมประกาศตัวลงสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยมีกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ ๑๗ ตุลาคมที่จะถึงนี้ เมื่อลงสมัครแล้วผมก็ต้องมั่นใจ สำหรับนโยบายการหาเสียงของผมนั้น ชู “ความโปร่งใส ยุติธรรม สามัคคี” ก่อนหน้านี้ผมเป็น ๑ ในสภากรรมการ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชุดเดียวกับ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี แต่มั่นใจว่าจะสามารถบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้ดีกว่า จึงลาออกจากตำแหน่งสภากรรมการฯ เป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้  จริงๆ แล้วที่ผ่านมาผมทำมาเยอะ แต่หลีกเลี่ยงเอาความดีใส่ตัว เช่น ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยที่สามารถไปแข่งขันในระดับบอลโลกได้นั้น ผมก็เป็นส่วนหนึ่ง และก่อนหน้านี้ก็ขอใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ บริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ให้นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยได้เช่า เพราะบางรายก็ยังไม่มีที่อยู่อาศัย  

“สุดท้ายในชีวิตข้าราชการตำรวจ ผมขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ๘ จังหวัดอีสานตอนล่าง อยู่กันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม และรอเลือกตั้งต่อไป” ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๓ กล่าว 

นายประสิทธิ์ เทศสูงเนิน

ภูมิใจรร.กีฬาโคราชอันดับ ๑

ขณะที่นายประสิทธิ์ เทศสูงเนิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อาจารย์หงอก” กล่าวกับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า ตลอดอายุราชการที่ดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา (อนุสรณ์ ๗๐ ปี เทศบาล)” ภูมิใจที่มีส่วนร่วมก่อตั้งโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา (อนุสรณ์ ๗๐ ปี เทศบาล) ขึ้นมาสำเร็จ และก้าวขึ้นเป็นโรงเรียนกีฬาเบอร์ ๑ ของประเทศ สร้างผลงานได้เหรียญทองซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ยูธโอลิมปิกเกมส์ หรือกีฬาโอลิมปิกเยาวชน อีกทั้งนักเรียน ๒ คนจากโรงเรียนกีฬาแห่งนี้ยังสามารถเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ และล่าสุดก็สามารถคว้าแชมป์โลกทั้งชายและหญิง ในการแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์โลก ๒๐๑๕ ระหว่างวันที่ ๖-๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ ที่ประเทศสิงคโปร์ ส่วนการประเมินคุณภาพการเรียนการสอนจาก สมศ. (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา) ประเภทโรงเรียนกีฬาด้วยกัน โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมาฯ ก็มีคะแนนนำมาเป็นอันดับ ๑ และยังภาคภูมิใจที่สามารถสร้างนักกีฬาดังๆ ขึ้นมาจำนวนมากให้กับเมืองโคราช จากเมื่อก่อนได้เหรียญทองเพียงเหรียญเดียว แต่ปัจจุบันได้รับรางวัล ๔๐ กว่าเหรียญในการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“สิ่งนี้เป็นกำลังสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ผมภูมิใจที่มีส่วนร่วมก่อตั้งจากโรงเรียนกีฬาเล็กๆ กระทั่งขึ้นมาผงาดเป็นโรงเรียนกีฬาชั้นนำของประเทศ ทั้งที่มีโรงเรียนกีฬาที่มีชื่อเสียง เช่น โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ก่อตั้งก่อนโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมาฯ มาเป็นเวลา ๒๐ ปี แต่ผลงานของเรากลับสามารถแซงโรงเรียนกีฬาดังกล่าวได้ ผมภูมิใจที่สร้างลูกหลานชาวโคราชขึ้นมาสง่างาม เป็นแชมป์โลก แชมป์เอเชีย อย่างทวีปเอเชีย จีนมีพลเมืองจำนวนมากกว่าเรา แต่เด็กนักเรียนจากที่นี่สามารถชนะจีน ผมภูมิใจมาก แล้วก็ความภูมิใจอีกอย่างหนึ่ง คือ มีผู้บริหารเทศบาลนครนครราชสีมา ที่เห็นความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้มีผลงานประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงระดับโลก” อาจารย์หงอก กล่าว

รับตำแหน่งใหม่‘ผู้เชี่ยวชาญ’

ทั้งนี้ อาจารย์หงอก ยังได้วางเป้าหมายภายหลังเกษียณอายุราชการด้วยว่า ผมครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ก่อนหน้านี้ลูกชาย คือ “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ปราสาทสายฟ้า) บอกว่า ท่านเนวิน (ชิดชอบ) ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยากให้ไปช่วยทำอะคาเดมี่ให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ผมยังมีความห่วงใยโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมาฯ เพราะต้องรออีก ๒-๓ ปีจากนี้จึงจะเข็มแข็ง ประกอบกับท่านสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา ไม่อยากให้ผมไปไหน ต้องการให้อยู่ช่วยกันพัฒนาวงการกีฬาเมืองโคราช หลังเกษียณอายุราชการผมจึงน้อมรับตำแหน่ง “ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและกีฬา” ของเทศบาลนครนครราชสีมา 

ปั้นทีมฟุตบอลเด็กโคราช

“นอกจากนี้ วงการลูกหนังเมืองโคราช นั่นคือ กีฬาฟุตบอล ทางโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครราชสีมาฯ ก็ได้สร้างเด็กขึ้นมาแล้ว ภายใต้ทีม “โคราชยูไนเต็ด” เด็กของเราพร้อมนำมาใช้งาน เปรียบเสมือนผลไม้ที่สุกพร้อมรับประทาน ผมมีความตั้งใจลึกๆ ว่า อยากได้ทีมฟุตบอลซึ่งเป็นเด็กจากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมาฯ ขึ้นไปเล่นในลีกดิวิชั่น ๒ เพราะสวาทแคท (สโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี) ก็มีคนโคราชเล่นน้อย หรือแทบไม่มีเลย ทำให้เด็กโคราชไม่มีเวทีเล่น ผมอยากสานต่อในเรื่องทีมฟุตบอลโคราชยูไนเต็ดด้วย เพื่อก้าวเข้าสู่ลีกดิวิชั่น ๒ เพราะมีเส้นทางฟุตบอลอาชีพ จึงอยากสร้างทีมที่เป็นเลือดเนื้อจากเด็กโคราชจริงๆ และหลายจังหวัดก็มีทีมฟุตบอลของเขา ๒-๓ ทีม ทั้งที่โคราชมีพลเมืองจำนวนมาก แต่เด็กกลับมีโอกาสเล่นกีฬาฟุตบอลได้น้อยกว่าจังหวัดอื่น ดังนั้น จึงมีเป้าหมายสร้างทีมฟุตบอลอาชีพ โดยเป็นสายเลือดของเด็กโคราชจริงๆ” อาจารย์หงอก กล่าวในท้ายสุด   
 
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๑๗ วันเสาร์ที่ ๒๖-วันพุธที่ ๓๐ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๘


710 1374