มวลชนร่วมอำลาชีวิตราชการ ‘เบิร์ด’ ผู้ว่าฯ หนึ่งในดวงใจคนโคราช พร้อมขอบคุณทีมผู้บริหาร สามารถแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนให้ราษฎรหลายเรื่อง ขณะที่ ‘ผู้ว่าฯ เบิร์ด’ ขอบคุณกำลังใจทุกภาคส่วนไปถึง ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ไม่หวั่นหลังเกษียณถูกฟ้อง ม.๑๕๗ เชื่อผิดชอบชั่วดีเป็นตัวกำหนด ล่าสุด ‘วิเชียร’ ควงภริยา รับตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ โคราช” คนใหม่ ทุกภาคส่วนร่วมต้อนรับเนืองแน่น ‘ชวน’ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ก็มายินดีและให้กำลังใจด้วย

เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ณ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา มวลชนโคราช นำโดยเภสัชกรจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา, นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล แกนนำกลุ่มพิทักษ์สีมา, นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการฯ เดินทางมาร่วมอำลาชีวิตราชการ ของนายธงชัย(เบิร์ด) ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีกำหนดเกษียณอายุราชการพร้อมกันในวันนี้ และนายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันที่ ๑ ตุลาคมนี้ โดยได้มอบของที่ระลึกและภาพถ่ายให้กับทั้ง ๓ ท่านระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พร้อมถือป้ายข้อความ “ผู้ว่าฯ ธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯ หนึ่งในดวงใจคนโคราช ขอให้ท่านมีความสุขและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา พี่น้องชาวโคราช”

มวลชนขอบคุณ‘ผู้ว่าฯเบิร์ด’

เภสัชกรจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา เป็นตัวแทนมวลชนโคราชกล่าวขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้บริหารจังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายธงชัย ลืออดุลย์ หรือผู้ว่าฯ เบิร์ด นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ กระทั่งเกษียณอายุราชการ โดยมีหลายเรื่องที่สามารถแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะการรื้อผู้บุกรุกมอปลาย่าง บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง สามารถปิดตำนาน “มอปลาย่าง” ได้สำเร็จ จากที่ผ่านมามีผลกระทบต่อภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และมีการปล่อยของเสียลงอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่ลำตะคอง” ที่สามารถรื้อผู้บุกรุกได้สำเร็จ จึงเป็นการรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ สร้างบรรทัดฐานที่ดีให้สังคม ทั้งยังรักษาสิทธิของผู้บริโภคน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และคืนพื้นที่สาธารณะให้แก่สังคม

ตั้งมั่น“บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”

สำหรับการทำงานวันสุดท้ายของชีวิตราชการ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ผมรับราชการมาเป็นเวลาทั้งสิ้น ๓๖ ปี ทั้งชีวิตรับราชการอย่างเดียวไม่ได้ทำอย่างอื่น สังกัดกระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่แรก เริ่มจากตำแหน่งปลัดอำเภอห้วยแถลง เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๒๒ มาสิ้นสุดชีวิตราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา วันที่ ๓๐ กันยายนนี้ ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำตามหน้าที่ ทำตามอุดมการณ์ของกระทรวงมหาดไทย คือ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เท่าที่ผ่านมาค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองว่า ทุกเวลา ทุกนาที ตั้งแต่เริ่มทำงานได้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนชาวโคราช เน้นผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส ผู้ที่เกิดความคับแค้นใจซึ่งเกิดขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ถ้าถามว่าประทับใจไหม? ในที่ทำงานต่างๆ ผมก็ประทับใจทุกแห่ง ส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งเพื่อนข้าราชการ พี่น้องประชาชน หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชน ก็ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลในการทำงานของผมมาทุกหนทุกแห่ง แต่ผมอยากจะพูดถึงที่สุดท้ายที่ผมได้มาทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแห่งนี้ เพราะเป็นจังหวัดแรกที่ผมเริ่มรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอห้วยแถลง และมาสิ้นสุดชีวิตราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในวัย ๖๐ ปีเศษ เหมือนมีอะไรที่สื่อให้รู้ว่ามีความผูกพันกับที่นี่ มีเพื่อนข้าราชการหลายคนเริ่มมารับราชการที่นี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ แต่ไม่มีใครมาจบชีวิตราชการที่นี่เหมือนกับผม แล้วก็ประทับใจในน้ำใจไมตรีตั้งแต่ผู้บังคับบัญชา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยือนโคราช มาดูแลความเป็นอยู่ของคนโคราช เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ภายใต้การนำของผม ในที่สุดได้รับการอนุมัติงบประมาณ ทั้งจากงบกลาง งบประจำปี จากการเกลี่ยของกระทรวง ทบวง กรม และผูกพันต่อเนื่องปีงบประมาณถัดไปมาดำเนินงานสำคัญๆ ในพื้นที่ อีกทั้งนายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ที่ให้งบประมาณมา สร้างสะพาน คสล. ทดแทนสะพาน คสล. มูลมะดันรัฐ เชื่อมถนนสายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ-อำเภอโนนสูง, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย, นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอื่นๆ ทำให้สามารถขับเคลื่อนหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ หรือ Mega Project มาสู่พื้นที่โคราช”

ตลอดชีวิตราชการต้องฟันฝ่า

นายธงชัย กล่าวต่อไปว่า หลังเกษียณอายุราชการไปแล้วผมอยากพัก เพราะผมรับราชการมาด้วยความยากลำบากทุกขั้นตอน ไม่มีพี่เลี้ยงหรือคนดูแล ทุกย่างก้าวของผมต้องฟันฝ่าอุปสรรค ต้องใช้ชีวิตราชการใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ ระหว่างปี ๒๕๔๔-๒๕๔๘ นับตั้งแต่นาทีแรก เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๓.๐๐ น.เศษ เกิดเหตุระเบิดสถานีรถไฟหาดใหญ่, วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๔ เวลา ๑๙.๒๐ น. ยิงป้อมตำรวจพร้อมกัน ๖ แห่งใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมเคยเดินเท้าข้ามเขาในเวลากลางคืนมาถึงบันนังสตา วันนี้ตอนเช้าเพื่อนที่ทำงานเก่า ลูกน้องเก่าทั้งหมด เหมารถตู้มาหาผมที่จวนผู้ว่าฯ เมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. ก็ยังคุยกันถึงความหลังว่าครั้งหนึ่งเคยมีลูกน้องคนหนึ่งถูกยิงด้วยปืนอาก้า ที่จังหวัดปัตตานี ผมได้เตือนเขาก่อนล่วงหน้าถูกลอบยิง ๑ สัปดาห์แล้ว นี่คือชีวิตราชการที่ผ่านมา กระทั่งมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่ได้อยู่เป็นที่เป็นทาง ๕ ปี ถูกย้าย ๖ จังหวัด (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๕ ผวจ.นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, อำนาจเจริญ, นราธิวาส, เลย, มุกดาหาร)  ทั้งหมดก็คือความเหนื่อยยาก ลำบาก แม้กระทั่งครั้งสุดท้ายที่มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผมก็มาจากการปฏิวัติ ถ้าไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้นผมคงไม่ได้มาเป็นผู้ว่าฯ ที่นี่อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ผมเป็นผู้ว่าฯ บึงกาฬ ได้เพียง ๖ เดือนเศษ และถูกย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง ๑๑ เดือน ๑๐ วัน ก็ถูกย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ โคราช ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วในภาวะปกติที่ผมจะย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ โคราช

เพราะปฏิวัติได้ย้ายมา’โคราช

นายธงชัย กล่าวอีกว่า ในขณะที่ปฏิวัติผมได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหาร ได้มาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ ได้มาดูแลทุกข์สุข ดูความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราช นำแผนงานต่างๆ มาปฏิบัติ ผมต้องสำนึกในประการแรก คือต้องรับผิดชอบต่อผู้ที่เขาไว้วางใจแต่งตั้งผมมา ในใจลึกๆ ผมมีอย่างนั้น ผมถึงบอกตลอดว่า ต้องทำ ๔๘๖ วัน หรือ ๑๖ เดือน ให้เป็น ๓๒ เดือนให้ได้ ทุกอย่างผมร้อนรน เร่งรัดทำทั้งสิ้น สังเกตเห็นได้ ประการที่สอง ต้องสำนึกเสมอว่าแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของท่านท้าวสุรนารี (ย่าโม) ที่ต้องต่อสู้โดยใช้เลือด ใช้เนื้อ ในการรักษาแผ่นดินนี้ เพราะฉะนั้น ตำแหน่งแรกกับตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการของผมที่แผ่นดินนี้ต้องทำประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาผมมีเวลาแค่ ๔๘๖ วัน จึงตั้งเป้าหมายการทำงานทั้งการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างสมเหตุสมผล อีกทั้งยังเป็นหัวหน้ากลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ (นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์) ซึ่งโคราชเป็นประตูสู่ภาคอีสาน จึงไม่ใช่ทำแค่โคราช แต่อีก ๑๙ จังหวัดในภาคอีสานต้องได้ประโยชน์ร่วมด้วย

คดีติดตัวผิดชอบชั่วดีกำหนด

นายธงชัย กล่าวด้วยว่า หลังจากเกษียณอายุราชการไปแล้ว ผมมีคดีติดตัวอยู่บ้าง คงมีเวลาได้อ่านคำฟ้องต่างๆ และล่าสุดเมื่อวานนี้ (๒๙ ก.ย. ๕๘) ก็ถูกฟ้องในมาตรา ๑๕๗ ฝากคู่กรณีทั้งหลาย ที่คุณทะเลาะกันด้วยกิเลส ด้วยอคติส่วนตัวก็ตาม และพยายามที่จะให้ผมเข้าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือปลดใครอาจจะผิดหวัง เพราะที่ผ่านมาผมไม่มีเวลาไปดูเรื่องของท่าน ต้องดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของพี่น้องประชาชน ผมไม่มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ท่านที่ฟ้องผมไปทบทวน โดยเฉพาะข้อเรียกร้องที่ให้ผมไปปลดคนโน้นคนนี้ อยากให้มาเป็นผู้ว่าฯ โคราชดูบ้าง และผู้ว่าฯ ไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่โต แต่เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยศ ซึ่งการจะเป็นผู้ว่าฯ ที่มีเกียรติยศได้ขึ้นอยู่กับความประพฤติของตนเอง ไม่ใช่ไปแสดงอิทธิฤทธิ์ยิงปืน โชว์ฟอร์มร้องเพลงตามบาร์/ผับ เมื่อไหร่ที่ผู้ว่าฯ เดินเหงื่อหยดถึงค่ำคืน เพราะชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีน้ำใช้ กระทั่งได้งบประมาณมาขุดสระใหม่ นั่นคือ เกียรติยศของผู้ว่าฯ อย่างที่ผมทำอยู่ เกียรติยศของผมอยู่ที่เป็นมนุษย์ธรรมดา ถ้าผมเป็นเทวดาเกียรติยศของผมก็หมดไป เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไปร้องเรียนให้ปลดใครก็ตาม ถ้ามีหลักฐานไม่เพียงพอ ผมขอมีเรื่องกับคนที่เสนอให้ที่ปลดคนอื่นดีกว่า และท่านสามารถฟ้องมาได้ทุกคดี หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไปผมมีเวลาว่าง ผมมั่นใจว่า ไม่ว่าจะแม่นยำในข้อกฎหมายอย่างไร สุดท้ายผิดชอบชั่วดีจะเป็นตัวกำหนดให้ใครเป็นผู้ชนะ อยากจะฝากข้อคิดและอโหสิกรรม เพราะผมต้องทำตามคนส่วนใหญ่ และเรื่องสำคัญของคนส่วนใหญ่ ปัญหาโคราชไม่ใช่น้อยๆ โดยเฉพาะปัญหาที่ขึ้นสเต็ป ๒ นั่นคือ คุณภาพชีวิตที่ผมอยากทำมาก แต่ต้องละไว้ก่อนเพราะมีปัญหาเฉพาะหน้าที่สำคัญมากกว่า ส่วนการปรับปรุงศาลากลางจังหวัดและหอประชุมเปรมติณสูลานนท์นั้น ไม่ได้ใช้งบยุทธศาสตร์จังหวัด ผมใช้งบฟังก์ชั่น โดยได้รับความกรุณาจากรัฐมนตรีฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่องานราชการ และรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน เพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ดังนั้น จำเป็นต้องทำเพราะโคราชเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถ้าแขกบ้านแขกเมืองมาเห็นสภาพศาลากลางจังหวัดที่ทรุดโทรมคงไม่เหมาะสม

ขอบคุณกำลังใจทุกภาคส่วน

“ดังจะเห็นได้ว่าหน่วยราชการในพื้นที่ ไม่มีความขัดแย้ง หรือคิดเห็นต่างแทบไม่มีเลย มีแต่เห็นอกเขาอกเรา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า เพื่อเป้าหมายประโยชน์สุขของประเทศชาติ และประชาชน มาถึงส่วนราชการท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจก็ล้วนแล้วแต่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนไม่มีใครที่ทำให้ผมรู้สึกท้อแท้ หดหู่ มีแต่ให้กำลังใจ เกิดความเข้มแข็งและเป็นพลังการทำงานมาโดยตลอด กลุ่มสุดท้าย คือ สื่อมวลชน ผมรับราชการอยู่ที่นี่ ๔๘๖ วัน ยังไม่เคยเปิดหนังสือพิมพ์อ่าน หรือดูโทรทัศน์ แล้วมีสื่อประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่เขียนหรือนำเสนอในลักษณะระแวงแคลงใจผม หรือว่าเขียนให้ผมไปมีปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ผมมีความสุขมาก และต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้กำลังใจผมมาโดยตลอด และฝากความประทับใจไว้ที่แผ่นดินโคราชแห่งนี้ หลังจากนี้ผมก็จะไปใช้ชีวิตบั้นปลายเกษียณอายุราชการของผม” นายธงชัย กล่าวขอบคุณ

นายธงชัย กล่าวในท้ายสุดว่า สิ่งที่ผมห่วงขณะนี้ คือสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ เฉลี่ยมีปริมาณน้ำสะสมร้อยละ ๓๐ เท่านั้น ก็ได้แต่อธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำ หรือมีน้ำสะสมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป ก่อนวันที่ ๑๕ ตุลาคมนี้ ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่เป็นปัญหาที่ต้องใช้ความคิด ขยันหมั่นเพียร ผมมั่นใจผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ “ท่านวิเชียร จันทรโณทัย” ทั้งเป็นคนขยัน เข้มแข็ง มีสติปัญญา จบมหาวิทยาลัยก็ได้เกียรตินิยม แล้วก็ได้เปรียบผม เพราะเขาแข็งแรงกว่าผม ยังเหลืออายุราชการอีก ๗ ปี จะสามารถนำพาจังหวัดนครราชสีมาไปในทิศทางที่ดีขึ้นๆ

ต้อนรับผู้ว่าฯใหม่คึกคัก

ในขณะที่กำหนดการเดินทางมาปฏิบัติราชการ ของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ชาวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับตำแหน่งใหม่ “ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คนที่ ๕๐” ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยภริยา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และคณะออกเดินทางโดยรถยนต์จากจังหวัดชัยภูมิมาถึงจังหวัดนครราชสีมา เวลา ๑๐.๓๐ น. โดยนายวิเชียรฯ เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เป็นอันดับแรก ก่อนออกเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง   

ต่อมาเวลา ๑๐.๕๙ น. นายวิเชียร และภริยาเดินทางมาถึงจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่อีก ๒ คน ที่ย้ายมารับตำแหน่งในวันเดียวกันนี้ คือ นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และนายสุวิทย์ คำดี ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ปค., นายชวน ศิรินันท์พร อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายวิเชียร ชวลิต อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.), ดร.บัณฑิต ตั้งประเสริฐ อดีตผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ ๑๔, นาวาอากาศเอกระวิน ถนอมสิงห์ ผู้บังคับการกองบิน ๑, นายสายัณห์ โกลาตี นายกสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญนครราชสีมา และคณะ เป็นต้น อีกทั้งส่วนราชการต่างๆ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ คหบดี และประชาชน ร่วมให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง โดยมีวงดุริยางค์จากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยร่วมบรรเลงดนตรีตอนรับด้วย ทั้งนี้ นายวิเชียรฯ ได้เข้าสักการะพระพรหม บริเวณด้านหน้าจวนผู้ว่าฯ เเละสักการะศาลตายาย ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังจวนผู้ว่าฯ พร้อมทั้งนำพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐาน ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และไหว้พระ พร้อมถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการมารับตำแหน่ง 

พร้อมเป็นกำลัง/แรงหนุน

เวลา ๑๑.๒๙ น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา (ลูกสาวนายประภา ยุวานนท์ อดีตปลัดจังหวัดนครราชสีมา และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น) ขึ้นบนเวทีที่จัดเตรียมไว้ พร้อมรับการเเสดงความยินดีจากคณะส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้ง ๓๒ อำเภอ โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นตัวแทนกล่าวต้อนรับว่า “ในนามชาวจังหวัดนครราชสีมาทั้ง ๓๒ อำเภอ ส่วนราชการต่างๆ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ยินดีต้อนรับท่านผู้ว่าฯ และภริยา เนื่องในโอกาสที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา” คนใหม่ ชาวจังหวัดนครราชสีมายินดีต้อนรับและพร้อมที่จะร่วมงานกับท่าน พร้อมที่จะเป็นกำลัง พร้อมที่จะเป็นแรง และพร้อมที่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่จะให้งานของจังหวัดนครราชสีมาเดินหน้าไปภายใต้การกำกับความดูแลของท่านผู้ว่าฯ ในโอกาสนี้กระผมในนามของทุกส่วนราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ยินดีต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ด้วยความยินดียิ่ง” 

ทั้งนี้ บรรยากาศการต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่เป็นไปด้วยความชื่นมื่น โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ต่างมอบดอกไม้และของที่ระลึก เพื่อต้อนรับและเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด้วยชุดการแสดงจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา, การแสดงจากไทภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที Thailand’s Got Talent Season 5 และรำอวยพรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อีกทั้งยังมีคณะส่วนราชการจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งนายวิเชียรฯ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ (๑ ต.ค. ๒๕๕๖–๓๐ ก.ย. ๒๕๕๗) ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นเวลา ๑๕.๐๐ น. นายวิเชียรฯ สักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ ที่ห้องรับรองจวนผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นอันเสร็จสิ้นกำหนดการเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ในวันนี้

ดรีมทีมแข็งแกร่ง

 สำหรับการย้ายมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ของนายวิเชียร จันทรโณทัย พร้อมรองผู้ว่าฯ ๓ คน ซึ่งล้วนเคยผ่านการรับราชการในจังหวัดนครราชสีมาแล้วทั้งสิ้น เรียงลำดับอาวุโส ได้แก่ นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอบัวใหญ่ และรักษาราชการในตำแหน่งปลัดจังหวัดนครราชสีมา, นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม เคยดำรงตำแหน่งท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา และนายสุวิทย์ คำดี เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังน้ำเขียว ดังนั้น จึงเป็นความคาดหวังว่า จะเป็นดรีมทีมที่แข็งแกร่ง สามารถสานต่อการบริหารและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ตามที่นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไป คาดหวังไว้ว่าจะสำเร็จในสมัยการบริหารงานของคณะผู้บริหารนี้

นายวิเชียร จันทรโณทัย จบการศึกษารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต จากนิด้า เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอสีคิ้ว, รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน, รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์, ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์, ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และย้ายมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต จากนิด้า เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอยางสีสุราช จ.มหาสารคาม, พ.ศ.๒๕๔๒-๒๕๕๔ นายอำเภอโนนแดง เสิงสาง ชุมพวง ห้วยแถลง บัวใหญ่, พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๔ รักษาการในตำแหน่งปลัดจังหวัดนครราชสีมา, ปลัดจังหวัดชัยภูมิ, ปลัดจังหวัดสกลนคร, ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู, รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และย้ายมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จบปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๒) และปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยรับราชการในตำแหน่งท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา, ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น กรมการปกครองท้องถิ่น, หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย และย้ายมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายสุวิทย์ คำดี จบรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต จากนิด้า เคยดำรงตำแหน่งจ่าจังหวัดนครราชสีมา, นายอำเภอเนินสง่า(ชัยภูมิ), นายอำเภอโนนแดง ชุมพวง โชคชัย วังน้ำเขียว, นายอำเภอบางคล้า(ฉะเชิงเทรา), นายอำเภอคลองหลวง(ปทุมธานี), ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ และย้ายมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๑๘ วันพฤหัสบดีที่  ๑  -  วันจันทร์ที่  ๕  เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘