สนามบินขอนแก่นห้ามปล่อยโคมลอยเวลา ๑๘.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ตลอดช่วงเทศกาลออกพรรษาถึงลอยกระทง หวั่นกระทบเที่ยวบินพาณิชย์ พร้อมขอความร่วมมืออปท.-วัด-ชุมชน ในรัศมี ๑๔ กม.รอบสนามบิน ต้องขออนุญาตก่อน

เมื่อเวลา ๑๔.๓๐ น. วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ ที่ห้องประชุมชั้น ๓ ท่าอากาศยานขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน นายกิติชัย สัจจลักษณ์ รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น ประชุมร่วมฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายพิธีการบิน และฝ่ายควบคุมและกำกับอากาศยาน เพื่อกำหนดแผนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจในระเบียบและข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัยในอากาศยานและโดยรอบท่าอากาศยาน เกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย และโคมควัน ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งพบว่าขณะนี้หลายพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่นกำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษาแล้ว

นายกิติชัย สัจจรักษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กล่าวว่า มีการประสานขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ชุมชน และคุ้มวัดต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในรัศมีและพิสัยการบินโดยรอบท่าอากาศยานขอนแก่น ระยะทาง ๑๔ กม. ครอบคลุมพื้นที่อำเภอน้ำพอง บ้านฝาง และอำเภอเมืองขอนแก่น ในการห้ามปล่อยโคมลอยและโคมควัน ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐–๒๒.๐๐ น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกระทั่งสิ้นสุดเทศกาลวันออกพรรษา เพราะอาจส่งผลกระทบต่อพิสัยในการทำการบินและการสัญจรทางอากาศ เนื่องจากในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีสายการบินพาณิชย์ทำการบินในเส้นทางท่าอากาศยานขอนแก่น-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานขอนแก่น-ท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งไปและกลับรวม ๑๐ เที่ยวบิน จาก ๓ สายการบินหลัก ประกอบด้วย ไทยสมายล์ นกแอร์ และไทยแอร์เอเชีย ขณะเดียวกันยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจในกฎระเบียบและข้อบังคับดังกล่าว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และเข้าใจร่วมกัน เพราะการปล่อยโคมควันและโคมลอยนั้นเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของคนอีสานมานาน ซึ่งจะปล่อยในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาต่อเนื่องถึงเทศกาลวันลอยกระทง

นายกิติชัย สัจจรักษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น

“สนามบินขอนแก่นได้กำหนดแผนการดำเนินงานว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดต่ออากาศยาน ทั้งในช่วงของการจราจรทางอากาศ การลดเพดานบินเพื่อลงหรือขึ้นจากท่าอากาศยาน และในช่วงของการวิ่งเข้ามาในเส้นทางรันเวย์ และลานจอดเครื่องบิน ทั้งหมดจะถูกจำกัดพื้นที่ไม่ให้โคมลอยหรือโคมควันเข้ามาในพื้นที่หรือเข้ามาในรัศมีการทำการของอากาศยานในภาพรวมทั้งหมด โดยเฉพาะในรัศมี ๑๔ กม. เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะชุมชนต่างๆ ในการขออนุญาตจุดโคมลอยกับทางสนามบินอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะทำการแจ้งเตือนไปยังนักบินในการเพิ่มความระมัดระวังในช่วงเวลาดังกล่าว อีกทั้งยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอดส่องดูแลการปล่อยโคมลอยบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสนามบิน พร้อมประสานงานร่วมตำรวจท้องที่ และทุกหน่วยงานในการเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการบินบนพื้นฐานความปลอดภัยของกฎการบิน” รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กล่าว

นายกิติชัย สัจจรักษ์ รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจากการตรวจสอบพบว่าโคมลอยและโคมควันมีการดัดแปลงสภาพให้สามารถลอยได้สูงขึ้นและบินไปตามทิศทางลมโดยไม่สามารถบังคับหรือกำหนดระยะเวลาที่ตกได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการพุ่งชนหรือลอยติดกับเครื่องบิน ในช่วงของการทำการขึ้นและลง ของเครื่องบินได้อย่างมาก และถ้าหากโคมลอยและโคมควันลอยไปติดในช่องเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณปีกของเครื่องบินก็จะเกิดการดูดโคมลอยเข้าไปพร้อมอากาศ ก็จะส่งผลต่อการเกิดความเสียหายอย่างมาก ดังนั้น ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ยังคงเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบการลักลอบปล่อยโคมลอย และโคมชนิดต่างๆ อย่างเข้มงวด ซึ่งหากตรวจพบจะมีการประสานงานร่วมตำรวจท้องที่ดำเนินการจับกุม ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๓๒ (๑) โทษจำคุกตั้งแต่ ๖ เดือนถึง ๗ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑,๐๐๐-๑๔,๐๐๐  บาท และความผิดว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ มาตรา ๖ (๓) โทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ ๕-๒๐ ปี ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่ทุกสนามบินของไทยจะต้องปฏิบัติตาม

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๓ วันจันทร์ที่ ๒๖ - วันเสาร์ที่ ๓๑  เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘