ทหารลงพื้นที่ชี้แจงการเข้าขอคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา ๗๔๑ ไร่ ขณะที่ประชาชนเรียกร้องให้ระงับคำสั่งโค่นต้นยางจนกว่าจะพิสูจน์สิทธิเสร็จ กอ.รมน.รุดมอบเงินเยียวยาผู้บุกรุกป่าดงใหญ่ ที่สมัครใจออกจากป่า เพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพ ย้ำห้ามบุกรุกซ้ำอีก

ตามที่เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ นายสรรเพชร เรืองรองหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.๕ (ลำนางรอง) จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ชี้แจงคำสั่งและประกาศการเข้าขอคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงพลอง” ต.แคนดง อ.แคนดง ที่มีประชาชนเข้าไปบุกรุกปลูกยางพารากว่า ๗๔๐ ไร่ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าและเคยทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบสิทธิการเข้าทำกินในที่ดินดังกล่าว นำเอกสารหลักฐานการถือครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินมายื่นเพิ่มเติมเป็นวันสุดท้าย ซึ่งขณะนี้มีราษฎรยื่นรายชื่อเพื่อขอพิสูจน์สิทธิทั้งหมดจำนวน ๕๐ ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ราษฎรส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารหลักฐานในการถือครองที่ดิน หรือเอกสารรับรองการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว มีเพียงสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.๕ ก็จะได้รวบรวมรายชื่อและเอกสารส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พัฒนาชุมชนจังหวัด ที่ดินจังหวัด สำนักงานปฏิรูปที่ดิน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ตรวจสอบว่า ประชาชนมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่รัฐกำหนดไว้หรือไม่ โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง และไม่เคยได้รับการจัดสรรที่ดินจากหน่วยงานรัฐมาก่อน หากประชาชนรายใดมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก็จะได้รับการผ่อนผันให้ทำกินในที่ดินดังกล่าวต่อไป ตามคำสั่ง ๖๖/๕๗ จนกว่ารัฐบาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง แต่หากรายใดไม่เข้าหลักเกณฑ์ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการขอคืนพื้นที่ตามประกาศดังกล่าวภายในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ขณะที่ประชาชนได้เรียกร้องให้รัฐบาลสั่งระงับคำสั่งการเข้าตัดโค่นต้นยางพาราที่ปลูกไว้ จนกว่าจะมีการตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ เพื่อความเป็นธรรมแก่ประชาชน ซึ่งต่างก็ยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ได้รับตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย และทำกินมานานกว่า ๕๐ ปีแล้ว ไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนตามที่ถูกกล่าวหา จึงอยากร้องขอให้รัฐบาลเห็นใจ เพราะส่วนใหญ่จะมีรายได้หลักจากการกรีดน้ำยางขาย
 

นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.๕ กล่าวว่า ทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.๕ เพียงปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีอำนาจที่จะสั่งระงับการเข้าตัดโค่นต้นยางตามที่ประชาชนเรียกร้อง ดังนั้น ประชาชนควรจะทำเรื่องส่งไปยังรัฐบาลหรือผู้ที่มีอำนาจเพื่อขอให้สั่งระงับคำสั่งดังกล่าว

วันเดียวกันนี้ พ.อ.จะเด็ด นวลมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ (กอ.รมน.) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ มอบเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่ป่าดงใหญ่จำนวน ๕๗ ครัวเรือน ใน ๙ อำเภอในเขตพื้นที่จังหวัด เป็นเงินกว่า ๑.๙๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเยียวยาและเป็นทุนประกอบอาชีพ ลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ยากไร้หลังผ่านการคัดกรองจากคณะกรรมการคัดกรองผู้สมควรได้รับการช่วยเหลือกรณีในการแก้ปัญหาพื้นที่ป่าดงใหญ่จากที่ประชาชนเข้าไปบุกรุกในพื้นที่ป่าที่บริษัทเอกชนหมดสัญญาสัมปทานปลูกป่าตามโครงการวนเกษตร ของกรมป่าไม้ จำนวน ๘ แปลง ๖ กลุ่ม รวมจำนวน ๓๑๖ ครัวเรือน เนื้อที่ ๒๒,๗๗๗ ไร่ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายปี

ทั้งนี้ จากการคัดกรองพบว่า ราษฎรทั้ง ๕๗ ครัวเรือนดังกล่าว เป็นครอบครัวผู้ยากไร้และไม่มีที่ทำกินจริงการมอบเงินครั้งนี้เป็นการเยียวยาลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ที่ได้สมัครใจออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ตามคำพิพากษาศาล และตามนโยบายขอคืนพื้นที่ป่าของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนผู้บุกรุกที่ไม่ผ่านการคัดกรองกว่า ๒๐๐ ครัวเรือน เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ เช่น เคยได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานปฏิรูปที่ดิน หรือมีรายได้เกินเกณฑ์ จปฐ. ไม่เป็นผู้ยากจนจริงทั้งไม่ผ่านมติความเห็นชอบของคณะกรรมการหมู่บ้าน

รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การมอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเยียวยาและเป็นทุนประกอบอาชีพเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะได้ไม่เข้าไปบุกรุกป่าซ้ำอีก พร้อมย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่ควรจะเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หากฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๓ วันจันทร์ที่ ๒๖ - วันเสาร์ที่ ๓๑  เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘