27thApril

27thApril

27thApril

 

November 03,2015

ทูตเยี่ยมแรงงานกัมพูชา ‘ซีพีเอฟ’มาตรฐานสากล

ทูตกัมพูชาเยือนและเยี่ยมแรงงานกัมพูชาในโรงงานซีพีเอฟ พอใจไทยดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวถูกต้อง ผู้บริหารซีพีเอฟเผยคนไทยเลือกงาน ย้ำนโยบายจ้างแรงงานต่างด้าวเท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ได้มาตรฐานสากล ตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก และการค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองประธานคณะผู้บริหาร สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจรบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นายสกล ชีวะโกเศรษฐ รองประธานกรรมการเขตประเทศกัมพูชา พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง CPF นำเอกอัครราชทูตประเทศกัมพูชาประจำประเทศไทย นางอีท โซเฟีย (Eat Sophea) เยี่ยมแรงงานชาวกัมพูชาที่ปฏิบัติงานในโรงงานซีพีเอฟ ตำบลท่าเยี่ยม อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา โดย ดร.ชาญชัย ไวเมลืองอรเอก รองกรรมการผู้จัดการ ด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวต้อนรับ พร้อมนำเสนอวีดีทัศน์ในเครือ CPF, โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ พร้อมบรรยายการดูแลพนักงานชาวกัมพูชาและภาพรวมของธุรกิจ CPF

ต่อมาเวลา ๑๐.๔๐ น. นางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร CPF เดินทางร่วมกิจกรรมทำบุญทอดผ้าป่า ณ วัดโนนเพชร อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยได้ร่วมเป็นประธานถวายกองผ้าป่า พร้อมด้วย นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองประธานคณะผู้บริหารสายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจรพร้อมพบปะพูดคุยกับพนักงานชาวกัมพูชาและชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญด้วย

จากนั้นเวลา ๑๑.๒๐ น. คณะผู้บริหาร CPF นำเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมที่พักของพนักงานชาวกัมพูชาและพบปะพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่กับพนักงาน ณ อาคารที่พัก โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานชาวกัมพูชา โดยนายวรรณะ มัย ล่ามการจัดการหอพัก เป็นผู้ให้ข้อมูลการดูแลและการจัดระเบียบและบริการของหอพัก ซึ่งหอพักมีทั้งหมด ๖ อาคาร มี ๕ ชั้น รวมประมาณ ๙๐๐ ห้อง มีห้องน้ำในตัว โดยแต่ละห้องสามารถพักได้ไม่เกิน ๒-๔ คน หรืออาจอยู่กันเป็นครอบครัวซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดบริษัทเป็นผู้ดำเนินการเอง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่พัก และยังมีบริการน้ำดื่มฟรี การบริการที่พักนี้ยังรวมถึงพนักงานที่เป็นคนไทยด้วย ซึ่งทางบริษัทจะมีกิจกรรมให้พนักงานกัมพูชาและคนไทยได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การทำกิจกรรมพัฒนาหอพัก การทำบุญ เป็นต้น

จากนั้นนายวีรชัย รัตนบานชื่น นำคณะเอกอัครราชทูตพร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ชมกิจการโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ โดยดร.ชาญชัย บรรยายขบวนการผลิตต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นการผลิตจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกนอกประเทศและในประเทศ และการทำงานของพนักงานร่วมกันทั้งชาวไทยและกัมพูชา ซึ่งจะมีการแบ่งสีหมวกเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร เมื่อจบการเยี่ยมชม นางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ลงนามการเยี่ยมชมและสอบถามการทำงานกับพนักงานชาวกัมพูชาและถ่ายภาพร่วมกัน

นายพรชัย เอกสกุลไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีแรงงานกัมพูชาทั้งหมด ๒,๒๐๐ คน ซึ่งทุกคนเป็นการจ้างตรงโดยบริษัทฯ ซึ่งมีสวัสดิการ และสิทธิต่างๆ ให้แก่แรงงานชาวกัมพูชาตามกฎหมายแรงงานไทยและเท่าเทียมกับแรงงานไทย เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ ๓๐๐ บาท ค่าล่วงเวลา ๑.๕ เท่าในวันทำงานปกติ และ ๒ เท่าในวันหยุด (วันหยุดนักขัตฤกษ์ ๑๖ วัน/ปี) สามารถลาป่วย ๓๐ วัน ลากิจ ๗ วัน และลาพักผ่อนไม่น้อยกว่า ๖ วันต่อปี มีประกันสังคม และค่ารักษาพยายาล ซึ่งทางบริษัทฯ มีที่พักให้ทั้งแรงงานไทยและกัมพูชา รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดฟรี และเมื่อทางบ้านประสบภัย เช่น น้ำท่วม ทางบริษัทฯ ก็ให้ความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนหนึ่ง สำหรับการรับพนักงานเข้ามาทำงานนั้นจะต้องผ่านการอบรมและเรียนรู้กระบวนการทำงาน อุปกรณ์การใช้งานก่อนอย่างน้อย ๒-๓ สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชาหรือไทย โดยมีระยะเวลาสัญญา ๒ ปี โดยกำหนดรายได้เฉลี่ยต่อเดือนรวมค่าล่วงเวลา (OT) แล้วอยู่ที่ประมาณ ๑๔,๐๐๐-๑๕,๐๐๐ บาท ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่เป็นกัมพูชาเพราะว่าแนวโน้มคนไทยเดี๋ยวนี้เลือกงานมากขึ้น และการมาของท่านทูตฯ ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่รับแรงงานชาวกัมพูชา เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้รับรางวัลการดูแลแรงงานดีเด่นของประเทศและได้รับรองว่ามีการทำงานของพนักงานไม่เกิน ๑๒ ชั่วโมง

ต่อข้อถามถึงความพึงพอใจของการวางระเบียบแรงงานของรัฐบาล นางอีท โซเฟีย กล่าวว่า การจัดระเบียบแรงงานนั้น ทางรัฐบาลกัมพูชา มีความพึงพอใจอย่างมาก เพราะการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายนั้น ทำให้แรงงานได้สวัสดิการหรือสามารถร้องเรียกสิทธิเมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบและสามารถดำเนินคดีหรือฟ้องร้องเอาผิดกับคนที่เอาเปรียบหรือทำร้ายเขาได้

นายสุชาติ สิทธิชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ในฐานะผู้บริหารโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศกัมพูชาและประเทศเมียนมา ในการช่วยสนับสนุนการผลิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ดังนั้น บริษัทจึงกำหนดเป็นนโยบายการจ้างแรงงานต่างด้าวความเท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ได้มาตรฐานสากล ตามหลักสิทธิมนุษยชน และต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๔ วันอาทิตย์ที่ ๑ -  วันพฤหัสบดีที่ ๕  เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๘


696 1342