มูลนิธิเพื่อสันติสุขโลกแพร่ข่าวไปทั่วเมืองชัยภูมิ อ้างร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติ “ปั่นเพื่อพ่อ” จะแจกจักรยาน พร้อมเสื้อ-กางเกง มีเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมเข้าไปเอี่ยว จังหวัดทำหนังสือถึงสำนักพระราชวัง ยืนยันดำเนินการไม่ถูกต้อง เข้าข่ายแอบอ้างเบื้องสูง สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อสถาบันเบื้องสูง สั่งระงับ พร้อมดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ตามที่มีข่าวแพร่สะพัดทำให้เกิดความสับสนต่อประชาชนไปทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิหลายแสนคน จากโครงการที่มีมูลนิธิชื่อดังและมีนายไพบูลย์ แย้มกสิกร เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นนักวิชาการประจำสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ จัดส่งหนังสือระบุชื่อมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลกและกลุ่มเกษตรกรทำสวนไม้เศรษฐกิจจังหวัดชัยภูมิ ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาลตำบล ทุกแห่งในจังหวัดชัยภูมิ ทั้ง ๑๖ อำเภอว่า จะดำเนินโครงการร่วมเฉลิมพระเกียรติปั่นเพื่อพ่อ และให้ผู้นำท้องถิ่นช่วยสำรวจความต้องการของคนในชุมชนเพื่อกรอกแบบตอบรับพร้อมจัดส่งเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน มาให้มูลนิธิดังกล่าวเพื่อจะดำเนินการแจกรถจักรยานให้ฟรีคนละ ๑ คัน พร้อมเสื้อและกางเกง อีกทั้งพร้อมแจกให้ฟรีทั้งหมดได้มากกว่า ๑ ล้านชุด/คัน เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเท่านั้น ตามโครงการปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD OF THE LAND เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ ๘๘ พรรษา เพื่อออกมาร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อให้ทันวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ พร้อมกันทั่วประเทศนั้น

ผวจ.เรียกประชุมเครียด

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิดังกล่าว ที่มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลกตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ ๙๙/๒๙๖ หมู่ ๓ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมีนางเมย์ทินี เทียนสุวรรณ เป็นประธานฯ และยืนยันในเบื้องต้นว่า ทางมูลนิธิฯ เป็นฝ่ายเตรียมดำเนินโครงการนี้จริงเท่านั้น
 
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเรียกประชุมด่วน ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ นานกว่า ๑ ชั่วโมงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงของโครงการทั้งหมดว่า เป็นมาอย่างไร เหตุใดไม่ทำตามระเบียบราชการและไม่แจ้งเรื่องให้ทางจังหวัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสูงสุดของจังหวัดทราบด้วย ทั้งที่เป็นโครงการที่อาจจะเข้าไปกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงได้ และทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ ทั้งหมดทุกคนรวมทั้งนายไพบูลย์ แย้มกสิกร เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีตำแหน่งเป็นนักวิชาการประจำสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับเอกสารภายในโครงการนี้ด้วย แต่ในส่วนตัวแทนจากมูลนิธิดังกล่าวยังไม่สามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมชี้แจงแก่ประชาชนในครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด

ตัวแทนมูลนิธิอ้างแจกมากกว่าล้าน

นายไพบูลย์ แย้มกสิกร นักวิชาการประจำสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้จัดส่งเอกสารจากศูนย์ประสานงานมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก เพื่อให้สำรวจกรอกแบบตอบรับขอรับรถจักรยานฟรีร่วมกับโครงการปั่นเพื่อพ่อครั้งนี้ด้วยนั้น เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับเอกสารยืนยันมาจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ตามที่มูลนิธิเพื่อสันติสุขโลกขอดำเนินโครงการแจกจักรยานฟรีโดยมียอดทั้งหมดสูงกว่า ๑ ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้กับคนที่ไม่มีจักรยานออกมาร่วมงานปั่นเพื่อพ่อในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และหลังจากวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่ทางมูลนิธิฯ ขอให้เร่งรวบรวมจัดส่งเอกสารลงทะเบียนของประชาชนในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เป็นวันสุดท้ายไปแล้วนั้น ล่าสุดก็ได้ประสานไปทางตัวแทนมูลนิธิฯ ว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการจัดส่งเอกสาร ผู้ประสงค์ต้องการจักรยานฟรีทั้งหมดล่าช้ายังมาไม่ถึงอีกจำนวนมาก และเบื้องต้นที่จัดส่งมาถึงแล้วรวมกว่า ๑๐,๐๐๐ คัน จึงขอให้เปิดรับและเร่งจัดส่งเอกสารมาให้เพิ่มเติมอีกไปถึงวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

“เหตุที่ยังไม่มีหนังสือแจ้งให้ทางจังหวัดทราบ เพราะเพียงเริ่มดำเนินการขอสำรวจข้อมูลก่อนเท่านั้น ซึ่งก็ยังได้รับการยืนยันจากมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก เจ้าของโครงการว่าพร้อมดำเนินการให้ได้จริงและทันเวลาให้ประชาชนที่ไม่มีจักรยานออกมาร่วมโครงการปั่นเพื่อพ่อในครั้งนี้ได้ร่วมกิจกรรมทันเวลาแน่นอน ซึ่งหลังจากเสร็จกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อแล้วประชาชนในทุกพื้นที่ชัยภูมิ ยังได้มีจักรยานเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในครอบครัวต่อไป” นายไพบูลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า ทางมูลนิธิฯ ได้มอบหมายให้ พ.อ.ชินรัชต์ รัตนจิตรเกษม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก เป็นตัวแทนเจ้าของโครงการแจกรถจักรยานฟรีครั้งนี้ เดินทางมาที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเชิญผ้ากฐินพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทอดถวายที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดชัยสามหมอ (พระอารามหลวง) ที่ตำบลช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ก่อนเป็นตัวแทนของมูลนิธิฯ และจะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการครั้งนี้ในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ แก่สื่อมวลชนโดยละเอียดด้วย

เข้าข่ายแอบอ้างสถาบัน

จากนั้นในวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยพล.ต.พุฒิเศรษฐ ภาคการ ผบ.กกล.รส.ชัยภูมิ หารือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสำนักพระราชวังว่า มีการรับรองให้มูลนิธิดังกล่าวที่มีนางเมย์ทินี เทียนสุวรรณ เป็นประธานมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก ว่า ได้ขออนุมัติให้ดำเนินโครงการร่วมงานปั่นเพื่อพ่อ เพื่อร่วมแจกจักรยานฟรีในครั้งนี้จากสำนักพระราชวังอย่างถูกต้องได้หรือไม่? กระทั่งล่าสุดทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักพระราชวัง ได้แจ้งกลับมาที่จังหวัดชัยภูมิเพื่อให้ดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิดังกล่าวว่า มีการดำเนินการไม่ถูกต้องและเข้าข่ายแอบอ้างเบื้องสูงสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อสถาบันเบื้องสูงได้ จึงให้มีการสั่งระงับโครงการดังกล่าวไว้ก่อนทั้งหมด พร้อมดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
 
โดยนายไพบูลย์เป็นผู้ออกมายืนยันแทนมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลกว่า พร้อมให้ตรวจสอบและมีการดำเนินการอย่างถูกต้อง รวมทั้งมีการนำหนังสือที่แอบอ้าง ที่ระบุว่ามีการส่งหนังสือเป็นหลักฐานเพื่อขออนุญาตต่อสำนักพระราชวัง และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ออกใบอนุญาตให้ดำเนินโครงการนี้ของมูลนิธิฯ ได้แล้วทั้งหมดนั้น และยังสร้างความสับสนต่อโครงการนี้ที่ทางจังหวัดชัยภูมิ สั่งให้ระงับโครงการนี้ไว้ทั้งหมดอยู่อีก

ผวจ.สอบผิดวินัยจนท.วัฒนธรรม

ล่าสุดเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นายชูศักดิ์ ตรีสาน ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มีคำสั่งให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดต่อนายไพบูลย์ แย้มกสิกร นักวิชาการประจำสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ ที่อ้างตัวเป็นผู้ประสานงานของโครงการและเป็นผู้ดำเนินการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้จัดส่งเอกสารจากศูนย์ประสานงานมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก เพื่อดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาอย่างรุนแรง หลังมีการตรวจสอบไปแล้วว่าไม่มีการอนุญาตจากสำนักพระราชวัง และปลัดสำนักนายรัฐมนตรี ให้ดำเนินโครงการดังกล่าวนี้แต่อย่างใด

รวมทั้งล่าสุดทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดส่งกำลังทหาร ตำรวจ เพื่อขอเข้าตรวจสอบที่ทำการของมูลนิธิเพื่อสันติสุขโลก ณ เลขที่ ๙๙/๒๙๗ หมู่ ๓ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี แล้วเพื่อขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย และในส่วนของการที่จะมีตัวแทนของมูลนิธิดังกล่าวเดินทางมาให้ข้อมูลหรือจัดแถลงข่าวที่จังหวัดชัยภูมิ ในวันที่ ๕ พฤศจิกายนนี้ อาจจะเข้าข่ายสร้างความไม่เหมาะสมกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงได้อีก ในการที่จะมากล่าวอ้างใดๆ ว่า จะเดินหน้าโครงการแจกรถจักรยานฟรีให้ประชาชนในพื้นที่ได้อีกนั้น ทางจังหวัดชัยภูมิมีการสั่งระงับโครงการทั้งหมดแล้ว หากยังดำเนินการจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติมด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้เสร็จสิ้นก่อน หากพบมีใครกระทำผิดเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย ตามมาตรา ๑๑๒ ด้วยเพิ่มเติมอีกทั้งหมดต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๕ วันศุกร์ที่ ๖ -  วันอังคารที่ ๑๐  เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๘