26thApril

26thApril

26thApril

 

November 17,2015

จับลูกกำนันดังค้ายาบ้า อายัดทรัพย์กว่าล้านบาท

ผบช.ภาค ๓ ลงพื้นที่ร่วมแถลงจับกุมลูกชายกำนันดังบุรีรัมย์พร้อมภรรยา และเครือข่ายนักค้ายาบ้ารายสำคัญ พร้อมของกลางร่วม ๔,๐๐๐ เม็ด อายัดทรัพย์สินที่ได้จากการขายยากว่าล้านบาท สารภาพรับยาจากฝั่งลาวผ่านเข้ามาทางอุบลราชธานี พร้อมย้ำจังหวัดติดชายแดนคุมเข้ม

เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๐ น. พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๓ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉัตรวรรษ แสงเพชร รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผู้กำกับการ สภ.นางรอง, พ.ต.อ. บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการ สภ.หนองกี่ และเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. ฝ่ายปกครองจังหวัด ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่หน้ากองกำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง

ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้สนธิกำลังกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ตำรวจ สภ.นางรอง, สภ.หนองกี่, สภ.หนองไทร, ตชด.๒๑๖, ชุดปฏิบัติการข่าวลับกองทัพภาค ๒, เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ ๒๖ และชุดเฉพาะกิจร้อย อส.จ.บุรีรัมย์ วางแผนล่อซื้อจับกุม นายธีรยุทธ เนียมสอน อายุ ๒๗ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๙ หมู่ ๑๑ ถ.ราษฏร์บำรุง ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เป็นลูกชายกำนันตำบลแห่งหนึ่งใน อ.หนองกี่ และน.ส.มยุรี กุ่ยกระโทก อายุ ๓๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๗๗ หมู่ ๔ ต.ชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ภรรยาของนายธีรยุทธ ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ที่บริเวณทางแยกบ้านสระขาม ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะที่นายวีระยุทธ และภรรยา ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส หมายเลขทะเบียน กฉ-๗๔๙๑ บุรีรัมย์ มารับยาบ้าที่เอเย่นต์ชื่อชัย เป็นชาวลาว ได้ให้เครือข่ายนำยาบ้ามาทิ้งไว้บริเวณหลักกิโลเมตร ใกล้กับทางแยกบ้านขาม ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมได้ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนหนึ่ง ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักและยึดของกลางยาบ้าเพิ่มอีกรวมทั้งหมด ๓,๕๙๔ เม็ด โทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อซื้อขายยาบ้า ๒ เครื่อง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการจำหน่ายยาบ้าอีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง ๑ คัน รถจักรยานยนต์ ๒ คัน สมุดบัญชีธนาคาร ๘ เล่ม บัตรเอทีเอ็มหลายใบ รวมมูลค่ากว่า ๑ ล้านบาทด้วย 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ขยายผลจับกุมนายสมปอง ผลกระโทก อายุ ๔๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๓๔ หมู่ ๔ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รับยาบ้ามาจากนายวีระยุทธ เพื่อนำไปขายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน และผู้เสพในเขต อ.นางรอง และหนองกี่ด้วย ซึ่งจากการสอบสวนนายธีรยุทธ ให้การรับสารภาพว่า ได้สั่งซื้อยาบ้ามาจากนายชัย ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นชาวลาวได้ให้เครือข่ายเป็นคนไปรับยาบ้ามาจากฝั่งลาวเข้ามาทางด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เพื่อนำมาส่งให้กับนายธีรยุทธ โดยจะวางยาบ้าไว้ตามหลักกิโลเมตรแล้วโทรศัพท์แจ้งให้มารับ จากนั้นก็จะนำยาบ้าไปกระจายต่อให้กับผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพในพื้นที่อ.นางรอง และ อ.หนองกี่ โดยจะขายในราคาเม็ดละ ๒๕๐–๓๐๐ บาท

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ๒ สามี-ภรรยา ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ส่วนนายสมปอง ได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ ดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่”

พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๓ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ทั้ง ๘ จังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบได้ระดมกวาดล้างจับกุมทั้งผู้ค้าและผู้เสพให้หมดไป ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเข้มตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันกลุ่มกระบวนการจะลักลอบนำยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย เข้ามาในพื้นที่หรือผ่านเข้าไปยังจังหวัดชั้นในอย่างเข้มงวดด้วย

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๖ วันพุธที่ ๑๑ -  วันอาทิตย์ที่ ๑๕  เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๘


703 1343