20thApril

20thApril

20thApril

 

November 17,2015

เทศบาลลุยตรวจโรงแปรรูปขยะ เร่งจัดการขยะตกค้าง ๘ พันตัน

นายกเทศมนตรีนำคณะลุยตรวจโรงงานกำจัดขยะแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า หลังมีความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วร้อยละ ๔๐ พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาขยะตกค้างที่มีมากกว่า  ๘๐๐,๐๐๐ ตัน มากเป็นอันดับ ๘ ของประเทศ

เมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น. วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นำคณะผู้บริหารเทศบาลนครฯ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น(ส.ท.) ผู้แทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ ตามโครงการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยด้วยวิธีการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้าของเทศบาลนครขอนแก่น ที่สถานที่กำจัดขยะเทศบาลนครขอนแก่น ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลโนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีความคืบหน้าตามแผนการก่อสร้างไปแล้วมากกว่าร้อยละ ๔๐ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน ๒๕๕๙

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะด้วยวิธีการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเทศบาลฯ กำหนดแผนการดำเนินงานและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าเสนอโครงการฯและแผนการดำเนินงาน กระทั่งมีการบรรลุข้อตกลงร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ บริษัท อัลไลแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด เข้ามาดำเนินโครงการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่าร้อยละ ๔๐ ทั้งนี้จากสัดส่วนจำนวนขยะคงค้างที่อยู่ภายในบ่อกำจัดขยะทั้ง ๓ ระดับ ประกอบด้วย เหนือพื้นดิน ผิวดินและใต้ดินที่มีความสูงมากกว่าตึก ๘ ชั้น พบว่า มีจำนวนปริมาณขยะคงค้างที่รอการกำจัดมากถึง ๘๐๐,๐๐๐ ตัน ซึ่งเป็นจำนวนขยะที่มากสะสมเป็นอันดับที่ ๘ ของประเทศ ขณะเดียวกันปริมาณขยะที่ถูกส่งมากำจัดด้วยวิธีฝังกลบ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมกว่า ๒๐ แห่ง อยู่ที่ประมาณ ๓๕๐ ตันต่อวัน

“ทางบริษัทฯ ที่ดำเนินการ และฝ่ายตรวจสอบของเทศบาลฯ มีการลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการขยะในภาพรวมทั้งหมดให้การยืนยันว่า โรงงานกำจัดขยะแบบเตาเผาขยะพลังงานไฟฟ้าแห่งนี้จะสามารถเริ่มเดินเครื่องได้ทั้งระบบในเดือนเมษายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะร่วมกับคณะกรรมการของเทศบาลฯ บริหารจัดการพื้นที่รวมกว่า ๒๔ ไร่แห่งนี้ ให้เป็นไปในรูปแบบของการบริหารจัดการภาครัฐร่วมเอกชน โดยมีการกำหนดค่ากำจัดขยะใหม่ไม่เกิน ๔,๒๔๙ บาทต่อตันในช่วง ๓ ปีแรกและเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐ ในทุก ๓ ปีถัดไป ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาของการดำเนินงาน ๒๐ ปี ซึ่งการเผาและกำจัดขยะจะเป็นไปรูปแบบของเทคโนโลยีแบบเผาตรงโดยจะนำพลังงานความร้อนไปผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการเผาไหม้ขยะประสิทธิภาพสูง และมีระบบบำบัดมลภาวะทางอากาศที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับและใช้ในหลายประเทศ” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าว

นายธีระศักดิ์ กล่าวในท้ายสุดว่า รูปแบบการเผาขยะที่เทศบาลนครฯ ได้นำมาใช้นั้น สามารถเผาขยะได้ทุกชนิดพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นขยะเก่าหรือขยะใหม่ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ๔๕๐ ตัวต่อวัน แยกเป็นขยะใหม่ ๒๕๐ ตัน และขยะเก่า ๒๐๐ ตัน โดยจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ๔.๙ เมกะวัตต์ และจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประมาณ ๔.๕ เมกะวัตต์ ส่วนอีก ๐.๔ เมกะวัตต์จะถูกนำกลับมาใช้ภายในโรงงาน อย่างไรก็ตาม แม้ทางจังหวัดจะกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการขยะ โดยให้เทศบาลนครฯ รับขยะ จาก ๓๙ ท้องถิ่นมากำจัดในจุดเดียว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถขานรับในนโยบายดังกล่าวได้ เนื่องจากการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอน โดยยังไม่สามารถนำขยะมาทิ้งไว้ในบ่อขยะได้ในระยะนี้ เพราะปริมาณขยะเดิมที่มีอยู่ก็มีจำนวนมากเพียงพอแล้ว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๖ วันพุธที่ ๑๑ -  วันอาทิตย์ที่ ๑๕  เดือนพฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๕๕๘


700 1342