19thApril

19thApril

19thApril

 

November 23,2015

เซี๊ยะเหมินเปิดกว้างรับนักลงทุน อัดโปรโมชั่นปลอดภาษี ประกาศเปิดเส้นทางบินขอนแก่น

 เซี๊ยะเหมินเปิดกว้างรับนักลงทุนทั่วโลก อัดโปรโมชั่นประกาศยกเว้นภาษี สปข.๑ นำสื่ออีสานดูงานจีน พร้อมเล็งต่อยอดแลกเปลี่ยนด้านข้อมูลข่าวสารร่วมระหว่างสื่อไทย-จีนในอนาคต ประกาศเปิดเส้นทางการบินเซี๊ยะเหมิน-ขอนแก่น รับอาเซียนบวกสอง หวังต่อยอดธุรกิจการค้าและการลงทุน พร้อมประกาศเป็นศูนย์กลางเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมทางทะเล สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจการค้า

เมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น.วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่เขตการค้าเสรีเมืองเซี๊ยะเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน นางเฮือง สิงอิง รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศ เมืองเซี๊ยะเหมิน (Mrs.Huang Xinying Deputy Director General Xiamen Municipal Government) ให้การต้อนรับนายสมพงษ์ ปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๑ (สปข.๑) กรมประชาสัมพันธ์ ในโอกาสนำคณะกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ณ ขอนแก่น และสื่อมวลชนจากทั้ง ๑๑ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เดินทางเข้าร่วมศึกษาดูงานเขตการค้าเสรีและเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมไปถึงแผนการพัฒนาเมืองในเขตเมืองเซี๊ยะเหมิน ตามการเชิญของกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชนชนจีน และกองการต่างประเทศเมืองเซี๊ยะเหมิน เพื่อรับทราบถึงข้อมูลด้านการค้า การลงทุน รวมไปการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตามกรอบความร่วมมือเมืองพี่เมืองน้องร่วมระหว่างเมืองเซี๊ยะเหมินกับจังหวัดขอนแก่น ครบรอบ ๓ ปี

นายสมพงษ์ ปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๑ กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรอบความร่วมมือที่ได้ดำเนินการร่วมกันว่าด้วยการเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างขอนแก่นกับเซี๊ยะเหมินนั้นมีความคืบหน้าและยกระดับความสัมพันธ์ที่ดีอย่างมาก โดยรัฐบาลไทยได้มีการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ไทย ที่เมืองเซี๊ยะเหมินเพื่อให้บริการกับคนไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยว หรือการเจรจาธุรกิจการค้ารวมไปถึงการศึกษาและวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ครอบคลุมกับคนไทยอย่างมาก ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็ได้มีการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่จีนที่ขอนแก่น ซึ่งถือเป็นสถานกงสุลใหญ่ของจีนเป็นลำดับที่ ๒ ที่จัดตั้งในไทย ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีร่วมระหว่างทั้ง ๒ เมือง ขณะเดียวกันแนวนโยบายของรัฐบาลที่ยังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในด้านต่างๆ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทั้ง ๒ ฝ่ายได้เปิดกว้างและพร้อมที่จะเอื้อประโยชน์และในสิ่งต่างๆ ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายในเขตการค้าเสรีของเมืองเซี๊ยะเหมินที่ปัจจุบันมีนักลงทุนจากทั่วโลกสนใจเข้ามาลงทุนอย่างมาก เนื่องจากมีการยกเว้นภาษีทั้งหมดตลอดระยะเวลาของการลงทุนในจีน รวมไปถึงการให้บริการด้านการคมนาคมขนส่งที่ครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ

“ตลอดระยะเวลา ๓ ปีที่ผ่านมาขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับเมืองเซี๊ยะเหมิน อย่างมาก โดยคณะของจังหวัดได้มาเยี่ยมเยือนและหารือว่าด้วยความร่วมมือด้านต่างๆ แล้ว ๓ ครั้ง และมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้าในหลายรายการ ขณะที่การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่ขอนแก่นจะได้แสดงศักยภาพและร่วมกันขับเคลื่อนแผนการพัฒนาที่ดีในด้านต่างๆ ร่วมกันต่อไปในอนาคต ซึ่งจีน และ ญี่ปุ่น ถือเป็นอาเซียนบวกสอง ที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะมองข้ามไม่ได้ ดังนั้นการต่อยอดกรอบความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องการค้า และการลงทุน ที่จีน ยังคงเปิดโอกาสเข้ามาลงทุนในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร ผ้าไหม น้ำมันพืชและการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอกนิกส์ ที่ยังคงเป็นช่องทางการลงทุนที่สดใสและจีนมีกำลังซื้อในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวอย่างมาก อย่างไรก็ตามจะมีการหารือในระดับผู้บริหารของกรมประชาสัมพันธ์ในการนำสื่อมวลชนของจีนเดินทางมาเยี่ยมเยือนขอนแก่นและกลุ่มจังหวัดภาคอีสานเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนในแวดวงสื่อสารมวลชนด้วยเช่นกัน”

ต่อมาเวลา ๑๕.๓๐ น. วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมเลคไซด์ เมืองฝูวโจว มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน นายหวัง เทียน มิง รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศ มณฑลฝูเจี้ยน (Mr.Wang Tian Ming Deputy Director General The Forieign Affairs office of Fujian Provincial People’s Government) ให้การต้อนรับและร่วมแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับนายสมพงษ์  ปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๑ กรมประชาสัมพันธ์ และสื่อมวลชนในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามการเชิญอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ณ ขอนแก่น ตามกำหนดการเยี่ยมเยือนอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ ๑๕-๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านข้อมูลข่าวสารและการร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคตรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการพัฒนาความร่วมมือในเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมทางทะเล ตามนโยบายของประเทศจีนที่ต้องการให้มณฑลฝูเจี้ยนเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมทางทะเลให้ได้ภายในศตวรรษที่ ๒๑

นายหวัง เทียน มิง รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศ มณฑลฝูเจี้ยน กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญในความร่วมมือกับ ๑๐ ประเทศอาเซียนอย่างจริงจังมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะที่มณฑลฝูเจี้ยนนับเป็นคู่ค้ากับไทยที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าทางการค้าร่วมกันรวมกว่า ๓,๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ GDP ที่มากเป็นอันดับที่ ๘ ของจีน ขณะที่มูลค่าจีดีพีเฉพาะของมณฑลฝูเจี้ยน ๑๐ เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ มีมูลค่าสูงถึง ๙% ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงมากเมื่อเทียบกับมณฑลต่างๆ ของจีน ทั้งนี้เหตุเพราะนโยบายการค้าและการลงทุน รวมไปถึงการเป็นคู่ค้าของมณฑลและเมืองต่างๆ ยังคงเปิดกว้างให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในเขตการค้าเสรีเมืองฝูวโจวและเซี๊ยะเหมิน ที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก ขณะที่ไทยเป็นกลุ่มนักลงทุนลำดับต้นๆ ของอาเซียนที่มีสัดส่วนในการลงทุนในมณฑลฝูเจี้ยนอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารและการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ความสัมพันธ์แบบบ้านพี่เมืองน้องนั้น มณฑลฝูเจี้ยนและเมืองเซี๊ยะเหมินเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับจ.ขอนแก่น ประเทศไทย ที่มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่ดีกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนนี้นั้น มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งเดิมมีการให้บริการด้านการคมนาคมขนส่งทางอากาศโดยเฉพาะสายการบินพาณิชย์ที่บินตรงจากเซี๊ยะเหมินและฝูโจวไปยังกรุงเทพฯ เป็นประจำทุกวัน ซึ่งจากนี้ไปจะมีการพิจารณาขยายเส้นทางการบินเพิ่มขึ้นไปยังประเทศไทย โดยขอนแก่นก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ฝูเจี้ยนให้ความสำคัญในการเปิดเส้นทางการบินเช่นกัน

ปัจจุบันมณฑลฝูเจี้ยนมีสนามบินนานาชาติ ๒ แห่งคือที่เซี๊ยะเหมินและฝูวโจว และมีสนามบินภายในประเทศ ๕ แห่ง คือที่ เฉินโจว, หนิงเต๋อ, ซานหมิง, หลงเอียน และอุ๋ยชาน โดยมีสายการบินพาณิชย์ที่ขึ้นตรงกับมณฑลคือ เซี๊ยะเหมินแอร์ไลน์และฝูวโจวแอร์ไลน์ ดังนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยเฉพาะที่ขอนแก่นที่มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับฝูเจี้ยน การขยายเส้นทางการบินแบบบินตรงระหว่างเมืองและระหว่างประเทศในเส้นทางดังกล่าวก็อาจที่จะเป็นไปได้เพราะจะถือเป็นการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรรม การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะนักศึกษาไทยและนักธุรกิจที่จะเดินทางไปมากันได้โดยสะดวก อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนไทย โดยเฉพาะที่ขอนแก่นและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยต้องการที่จะมาร่วมลงทุนในมณฑลฝูวโจว ในเมืองต่างๆ ก็ยังสามารถที่จะเข้ามาดำเนินการได้ ทั้งในกลุ่มธุรกิจอาหาร วัสดุก่อสร้าง การเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร รวมไปถึงเครื่องจักรกลทางการเกษตรทั้งหมดเป็นสิ่งที่คนจีนต้องการจากไทยในฐานะเพื่อนแท้และมิตรคู่ค้าที่สำคัญของการเข้าสู่อาเซียนบวกสองในอนาคตอันใกล้นี้”

นายสมพงษ์ ปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๑ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ร่วมระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับจังหวัดขอนแก่น มีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ขอนแก่น กับสถานกงสุลใหญ่ไทยที่เซี๊ยะเหมิน ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ชัดเจนและถูกต้องในทุกกรอบความร่วมมือ โดยในปีที่ผ่านมาสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำเซี๊ยะเหมิน  ได้นำนักท่องเที่ยวจากเมืองเซี๊ยะเหมินและจากเมืองต่างๆ ของมณฑลฝูวโจว เดินทางมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และได้นำพานักธุรกิจเดินทางมาศึกษาดูงานและร่วมงานในการจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้าของแต่ละเมืองที่ไทยในหลายจังหวัด และในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนต่อเนื่องถึงกลางเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ขอนแก่นได้กำหนดจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลจีนในการจัดส่งการแสดงและสินค้าไปแสดงและจำหน่ายในงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการร่วมกันแลกเปลี่ยนในด้านข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะสื่อมวลชนระหว่างฝูเจี้ยนกับขอนแก่น รวมไปถึงกลุ่มจังหวัดภาคอีสานของไทย นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางความร่วมมือที่จะชัดเจนมากขึ้นหลังการร่วมหารือเป็นไปได้ด้วยดี จะเป็นการลงลึกไปในระดับของการปฏิบัติงานจริงในแต่ละพื้นที่ โดยผู้แทนสื่อมวลชนจากไทยชุดแรกที่ได้เดินทางมาร่วมคณะดังกล่าวนี้จะกลับไปต่อยอดแนวทางความร่วมมือในด้านต่างๆ ต่อไป

นางเฮือง สิงอิง รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศ เมืองเซี๊ยะเหมิน กล่าวว่า เซี๊ยะเหมินเป็นหนึ่งในห้าเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน ที่รัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมการค้าการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างมาก ปัจจุบันมีโครงการที่ยื่นเรื่องขอรับการลงทุนและจัดตั้งกลุ่มธุรกิจในเขตการค้าเสรีดังกล่าวรวม ๗๗ บริษัท และมีการดำเนินกิจการไปแล้ว ๔๕ บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจจากไทยก็ได้เข้ามาลงทุนในเขตการค้าดังกล่าวอย่างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจอาหาร, ข้าว, น้ำมันพืช, ขนม และการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ด้วยศักยภาพความพร้อมของเมืองที่มีประชากรรวมกว่า ๓,๖๗๐,๐๐๐ คน ทำให้กำลังซื้อและความต้องการในด้านต่างๆมีอย่างมาก และมีแผนในการขยายและพัฒนาเมืองไปในด้านต่างๆอย่างครอบคลุมทั้ง ๖ เขตการปกครอง และการพิจารณาจัดตั้งเมืองใหม่และสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารทั้งเส้นทางในประเทศและต่างประเทศให้ได้ ๒๒ ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่เขตการค้าเสรีที่เมืองเซี๊ยะเหมินนั้นรัฐบาลมีการประกาศยกเว้นภาษี ๑๐๐% เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการกับนักลงทุนทั่วโลก ในการเข้ามาลงทุนในประเทศจีนได้ตลอดทั้งปี

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๒๘ วันเสาร์ที่ ๒๑ -  วันพุธที่ ๒๕  เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๘


694 1342