มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดเกมรุกต้นปี หลังส่วนแบ่งทางการตลาดปีที่ผ่านมาโตตามเป้า ๘% ประเดิมส่ง ๒ รุ่นหลัก “ไทรทัน” และ “แอททราจ” โฉมใหม่ลงตลาด ชูจุดเด่นความคุ้มค่ายิ่งขึ้นด้วยออพชั่นแบบจัดเต็ม กับราคาใหม่ที่โดนใจมากขึ้น มั่นใจสามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบ พร้อมตั้งเป้าส่วนแบ่งปีนี้ ๙%

          เมื่อเร็วๆ นี้ มร.โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิในปี ๒๕๕๘ ว่า บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ร้อยละ ๘ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยปัจจัยหลักเกิดจากการแนะนำ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า สำหรับปีนี้มิตซูบิชิตั้งเป้าหมายแนะนำรถยนต์ที่มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ทั้งอีโค คาร์ รถกระบะ รวมไปถึงรถกระบะอเนกประสงค์ ซึ่งจะทยอยแนะนำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เริ่มด้วยการแนะนำรถกระบะ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่” และรถอีโค คาร์ ซีดาน “มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่” รุ่นปี ๒๐๑๖ ในเดือนมกราคมนี้

          “กลยุทธ์ของ “ไทรทันใหม่” คือการปรับจำนวนรุ่นให้มีความเหมาะสมและเพิ่มรุ่น GLS-LTD (จีแอลเอส ลิมิเต็ด) ซึ่งมีการเพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่เพื่อให้เป็นรุ่นท็อปของรุ่นขับเคลื่อน ๒ ล้อแบบยกสูง ได้แก่ ดับเบิ้ล แค็บ พลัส และเมกะแค็บ พลัส รวมทั้งรุ่นดับเบิ้ลแค็บขับเคลื่อน ๔ ล้อ นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องกลยุทธ์ด้านราคาใหม่ด้วยการปรับราคาแบบสวนกระแส โดยมีการปรับราคาลงให้น่าสนใจมากขึ้น อาทิ เมกะแค็บ พลัส ซึ่งมีราคาเริ่มต้น ๖๗๙,๐๐๐ บาท และดับเบิ้ลแค็บ พลัส ราคาเริ่มต้น ๗๕๙,๐๐๐ บาท และเพิ่มราคาบางรุ่นขึ้นเพียงเล็กน้อย ผมมั่นใจว่าจากอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่ได้ติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไป และราคาใหม่ดังกล่าวจะทำให้ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่” เป็นรถที่มีความคุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถขับเคลื่อน ๒ ล้อแบบยกสูง ทั้งในเมกะแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ” มร.ชกคิ กล่าว

          สำหรับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่” ได้รับการตกแต่งภายในให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้นพร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเสริมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน อีกทั้งยังให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้นโดยมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อน ๔ ล้อ Super Select 4WD-II แบบเดียวกับที่มีใน “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งระบบดังกล่าวในรถกระบะ รวมไปถึงถุงลมนิรภัย ๗ ตำแหน่ง ทั้งนี้ จากเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง “ไมเวค คลีนดีเซล” ทำให้ “ไทรทัน ใหม่” ยังคงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ ๒๐ ในขณะที่ “มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่” มีการเสริมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วที่ความเร็วต่ำ และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า ซึ่งมีครั้งแรกในรถอีโค คาร์ ซีดาน ที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันสูงขึ้นถึง ๒๓.๓ กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง ๙๙ กรัมต่อกิโลเมตร เหนือกว่ารถระดับเดียวกัน พร้อมกำหนดราคาขายเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะซื้อ ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง ๔๕๖,๐๐๐ บาทเท่านั้น

          “เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการแนะนำ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่” ผมเชื่อว่าลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ส่วนใหญ่ตระหนักดีว่ารถรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามาก โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องสมรรถนะและความคุ้มค่ากว่ารถในระดับเดียวกัน และจะนำมาเป็นแนวทางหลักในการพัฒนารถรุ่นต่างๆ ของบริษัทฯ ต่อไป ผมมั่นใจว่ากลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่โดดเด่นดังกล่าวประกอบการให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริการหลังการขายของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า ๒๒๐ แห่ง จะทำให้มิตซูบิชิครองส่วนแบ่งทางการตลาดในปีนี้ที่ร้อยละ ๙ ได้อย่างแน่นอน” มร.ชกคิ กล่าวในตอนท้าย

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๔๑ วันอังคารที่ ๒๖ - วันอาทิตย์ที่ ๓๑ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙