บุกยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรี ทวงถามความคืบหน้าการขอแยกจังหวัดนางรอง อ้างเพื่อกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น หลังรอมา ๑๐ ปีแล้ว พร้อมยื่นร้องให้เข้าสำรวจออกโฉนดให้ราษฎรอำเภอโนนสุวรรณที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ด้วย

          เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ผู้นำชุมชน พร้อมประชาชนในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้า กรณีการร้องขอให้แยกจังหวัดนางรอง ออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นขอมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยประชาชนให้เหตุผลว่าการร้องขอให้พิจารณาแยกจังหวัดนางรองนั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่องานราชการต่างๆ ลดภาระในการเดินทางไกลกว่า ๑๐๐ กิโลเมตรเพื่อไปติดต่อราชการที่ตัวจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งเพื่อเป็นการกระจายความเจริญและงบประมาณที่จะได้รับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีอยู่ทั้งหมด ๒๓ อำเภอ หากแยกอำเภอนางรองเป็นจังหวัดนางรอง ก็จะมีพื้นที่ที่ขึ้นกับจังหวัดนางรอง ๑๐ อำเภอ คือ อำเภอนางรอง เฉลิมพระเกียรติ ชำนิ หนองหงส์ หนองกี่ บ้านกรวด ละหานทราย โนนดินแดง โนนสุวรรณ และปะคำ

          นายสวาท จำปาสา ตัวแทนประชาชนอำเภอโนนสุวรรณ กล่าวว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อให้พิจารณายกระดับอำเภอนางรอง เป็นจังหวัดนางรอง เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองบุรีรัมย์ ในการติดต่องานราชการต่างๆ อีกทั้งอยากให้มีการกระจายความเจริญหรืออำนาจสู่ท้องถิ่นมากขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ยื่นร้องขอมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับคำตอบและไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่านางรองมีศักยภาพที่จะยกระดับเป็นจังหวัดนางรอง เพราะขณะนี้ก็มีความพร้อมกว่า ๙๕ เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งศาลจังหวัดนางรอง สำนักงานอัยการ สำนักงานบังคับคดี เรือนจำ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ รวมถึงสถานที่ในการจัดตั้งศูนย์ราชการเนื้อที่กว่าพันไร่ก็มีพร้อมอยู่แล้ว จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาให้มีการยกระดับอำเภอนางรอง เป็นจังหวัดนางรองดังกล่าวด้วย

          นอกจากนี้นายวาสนา ภารวงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมตัวแทนประชาชนจะเดินทางไปยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้พิจารณาออกโฉนดที่อยู่อาศัยให้กับราษฎรในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณ ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นของตัวเอง ทั้งๆ ที่อยู่อาศัยมานานกว่า ๖๐ ปีแล้ว รวมทั้งที่ดินที่ราษฎรอาศัยในปัจจุบันเป็นที่ว่างเปล่าไม่ใช่ป่าสงวนแต่อย่างใด แต่กลับไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ใดๆ ได้ ซึ่งที่ผ่านมาเคยยื่นร้องไปหลายหน่วยงานแล้ว ทั้งกระทรวงมหาดไทย ทำเนียบรัฐบาล แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจ เพื่อออกโฉนดที่ดินให้กับราษฎรในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณด้วย เพื่อที่ประชาชนจะได้มีเอกสารสิทธิ์หรือกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของตัวเอง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๔๔ วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ - วันจันทร์ที่ ๑๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๙