นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ

          ผอ.กองคลังทำหนังสือชี้แจง ขอโทษนายกฯ เข้าใจผิดร้องเรียนพฤติกรรมข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ของดให้ข่าว หลังถูกฟ้องหมิ่นประมาทในชั้นศาลจังหวัด นายกเทศมนตรีชี้ เป็นบทเรียนข้าราชการ

          สืบเนื่องจากการประชุมสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม สมัยวิสามัญ สมัยที่ ๑ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการเปิดอภิปรายทั่วไปของฝ่ายนิติบัญญัติ (ส.ท.) ต่อการดำเนินโครงการของคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน โดยนางประภัสสร ไชยมาตย์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมเขต ๒ ได้ลุกขึ้นอภิปราย พร้อมนำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมและพฤติกรรมของนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ ส่งถึงประธานสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ขึ้นมาอ่านต่อที่ประชุมสภาฯ

ร้องพฤติกรรมนายกฯ

          โดยเนื้อหาระบุว่า “นางลักษณา ประสีระเตสัง ผู้อำนวยการกองคลัง เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ได้รับรายงานจากนางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี สังกัดกองคลัง เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ซึ่งเป็นลูกสาวระบุถึงพฤติกรรมของนายไพบูลย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลาประมาณ ๐๘.๔๕ น. นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ได้เรียกนางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี สังกัดกองคลัง เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ขึ้นไปพบที่ห้องประชุมเล็ก ชั้นสอง ซึ่งนายกเทศมนตรี (นายไพบูลย์ฯ) ใช้เป็นห้องทำงานด้วย มีการ  เตรียมการจะทำร้ายร่างกายนางพงษณาฯ อย่างรอบคอบ คือไล่ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าห้องไปอยู่ที่อื่นก่อน โดยเรียกนายกฤษฎา ค้ำชู เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ลูกจ้าง) ขึ้นไปเฝ้าหน้าประตู เมื่อนางพงษณาฯ เข้ามาในห้องนายไพบูลย์ฯ ได้ปิดห้อง โดยภายในห้องมีนางสาวดารารัตน์ ชาตะวราหะ รองปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม รักษาราชการแทนปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม นั่งอยู่ด้วย รวม ๓ คน จากนั้นนายไพบูลย์ฯ ก็ใช้ความเป็นนายกเทศมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา ปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกายนางพงษณาฯ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่บังคับ ขู่เข็ญให้นางพงษณาฯ ยอมรับว่าได้เขียนเฟซบุ๊กด่าตนเอง แต่นางพงษณาฯ พยายามชี้แจง นายไพบูลย์ฯ ไม่รับฟัง หลังจากนั้นก็ได้ส่งข้อความเพื่อประจานนางพงษณาฯ ตามระบบไลน์ไปยังเจ้าหน้าที่ในเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมอีกหลายคน โดยมีข้อความดูถูกเหยียดหยามใส่ร้ายป้ายสี เพื่อให้เพื่อนเจ้าหน้าที่ หรือผู้ได้อ่านไลน์นายก-เทศมนตรี รังเกียจเดียดฉันท์ว่า นางพงษณาฯ เป็นคนไม่ดี ทำให้นางพงษณาฯ เกิดความกลัวเป็นอย่างยิ่งจึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งพฤติกรรมข่มขู่ ด่าทอ เหยียดหยาม หยาบคาย จะทำร้ายร่างกายเช่นนี้ของนายไพบูลย์ฯ เคยได้กระทำต่อนางปรียาภรณ์ ทิพย์โสภณ ลูกจ้างทั่วไป สังกัดกองคลัง โดยนายไพบูลย์ฯ ได้ทำเอกสารอันเป็นเท็จกลั่นแกล้งจนเกิดการฟ้องร้องต่อศาล ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ฯลฯ จึงขอเรียนมาเพื่อให้ท่านได้โปรดทราบและพิจารณาหาทางช่วยเหลือ และรายงานพฤติกรรมดังกล่าวของนายกเทศมนตรีไปยังbbbbbนายอำเภอเมืองนครราชสีมา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกำกับดูแลเหนือขึ้นไปตามลำดับทราบต่อไป” ตามที่ ‘โคราชคนอีสาน’ นำเสนอข่าวลงฉบับที่ ๒๓๐๑ วันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ชี้แจงว่า สิ่งที่ให้ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จไม่เป็นข้อเท็จจริง และไม่ได้กลั่นแกล้ง จึงเตรียมทนายความยื่นฟ้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น

รับสภาพตามฟ้องหมิ่น!

          ล่าสุดนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ แจ้งกับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้นัดสืบพยาน ซึ่งตนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับข้าราชการประจำและลูกจ้างทั่วไป สังกัดกองคลัง เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ประกอบด้วย นางลักษณา ประสีระเตสัง ผู้อำนวยการกองคลัง จำเลยที่ ๑, นางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี จำเลยที่ ๒ และนางปรียาภรณ์ ทิพย์โสภณ ลูกจ้างทั่วไป จำเลยที่ ๓ ในข้อหา “หมิ่นประมาท” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และ ๓๒๘ ระบุถึงการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทที่ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ทั้งยังได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสารฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หลังจากจำเลยทั้งสามได้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมฯ ส่งถึงประธานสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม โดยมีการเผยแพร่ในที่ประชุมสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม สมัยวิสามัญ สมัยที่ ๑ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ และได้นำเสนอข่าวผ่านสื่อนั้น ซึ่งภายหลังการนัดสืบพยานเพื่อไต่สวนมูลฟ้องเสร็จสิ้น จำเลยทั้งสามได้ทราบคำฟ้องตลอดแล้ว โดยขอให้การตามที่กล่าวต่อไปนี้ คือ คดีนี้จำเลยทั้งสามขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธและขอให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ตลอดข้อกล่าวหา

ผอ.คลังทำหนังสือชี้แจงสภาฯ

          พร้อมกันนี้ นายไพบูลย์ ยังได้เปิดเผยหนังสือ เรื่อง ขอชี้แจงกรณีหนังสือขอความเป็นธรรมและพฤติกรรมของนายกเทศมนตรี (นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ) ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ ซึ่งอ้างถึงหนังสือรายงานขอความเป็นธรรมและพฤติกรรมของนายกเทศมนตรี ฉบับลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยนางลักษณา ประสีระเตสัง ผู้อำนวยการกองคลัง, นางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี และนางปรียาภรณ์ ทิพย์โสภณ ลูกจ้างทั่วไป เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ได้ร่วมกันลงนามส่งถึงประธานสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม

          โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า “ตามที่ข้าพเจ้า นางลักษณา ประสีระเตสัง นางพงษณา พรหมดีสาร และนางปรียาภรณ์ ทิพย์โสภณ รวม ๓ คน ได้ทำหนังสือรายงานขอความเป็นธรรมและพฤติกรรมของนายกเทศมนตรี (นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ) โดยมีสาระสำคัญว่า มีการจัดเตรียมทำร้ายร่างกายนางพงษณาฯ ไว้อย่างรอบคอบ คือ ไล่ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าห้องไปอยู่ที่อื่นก่อน เรียกนายกฤษฎา ค้ำชูเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ลูกจ้าง) ขึ้นไปเฝ้าหน้าประตู เมื่อนางพงษณาฯ ไปถึง นายเทศมนตรี (นายไพบูลย์) ได้ล็อกห้องโดยในห้องมีนางสาวดารารัตน์ ชาตะวราหะ รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทนปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม นั่งอยู่ด้วยรวม ๓ คน จากนั้นนายกเทศมนตรี (นายไพบูลย์) ก็ใช้ความเป็นนายกเทศมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่บังคับ ขู่เข็ญให้นางพงษณาฯ ยอมรับว่าได้ลงเฟซบุ๊กด่าตนเองและประเด็นอื่นๆ ตามสิ่งที่อ้างถึง ซึ่งข้อความดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าทั้งสามคนขอเรียนว่าไม่เป็นความจริง โดยข้าพเจ้าทั้งสามคนเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น ดังนั้น ข้าพเจ้าทั้งสามคนจึงเรียนมาเพื่อแจ้งให้ท่านประธานสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมทราบ และกราบขอโทษท่านนายกเทศมนตรี (นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ) มายังสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้อง มา ณ ที่นี้ด้วย และข้าพเจ้าทั้งสามคนจะไม่ปฏิบัติตนอย่างนี้อีกต่อไป”

ไม่ติดใจถือเป็นบทเรียน

          “คดีนี้จำเลยทั้งสามรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง โดยการดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาและกล่าวหาให้ร้าย ตนก็ยินดีให้อภัย เพราะจำเลยทั้งสามได้กล่าวคำขอโทษต่อหน้าศาลและพยานฝ่ายตนแล้ว พร้อมทั้งทำหนังสือชี้แจงต่อประธานสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ขณะนี้หนังสือดังกล่าวได้นำมาติดประกาศที่เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อมแล้ว เป็นระยะเวลา ๑๕ วัน ส่วนการชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ นั้น คงต้องรอการเปิดประชุมสมัยสามัญต่อไป อย่างไรก็ดี ในเมื่อสำนึกผิดแล้ว จากข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง ก็ให้เป็นบทเรียนไว้ ส่วนเรื่องความถูกต้องในการบริหารงานตนก็ยังคงทำตามระเบียบต่อไป ถือว่าเรื่องนี้ยุติแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ประจักษ์ในชั้นศาลแล้ว โดยผู้ที่กล่าวหาตนนั้นได้รับสารภาพต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ตนก็ไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซึ่งในการบริหารงานตนพยายามทำให้ถูกต้องตามระเบียบ และตนก็เข้ามาแก้ไขปัญหา ไม่ได้มาสร้างปัญหา เพราะฉะนั้น อย่าใช้ความรู้สึกตัวเองทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนกับข้าราชการ” นายไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย  

          ด้านนางลักษณา ประสีระเตสัง ผู้อำนวยการกองคลัง และนางพงษณา พรหมดีสาร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี สังกัดกองคลัง เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ผู้เป็นลูกสาวนั้น ทาง ‘โคราชคนอีสาน’ พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะเปิดเผยในรายละเอียด เกี่ยวกับการยอมรับสารภาพต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ โดยขอให้เรื่องดังกล่าวยุติ

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๒๓๖๙ วันอังคารที่ ๒๑ - วันเสาร์ที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๙