พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ มรภ.สุรินทร์

          หลังหัวหน้า คสช.ประกาศใช้ม.๔๔ กับมรภ.สุรินทร์ ล่าสุด ‘พล.อ.ดาว์พงษ์’ ลงพื้นที่มอบนโยบายคณะผู้บริหารชุดใหม่ หวังร่วมกันจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาล หลังจากมีปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมายาวนาน

          พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ เข้าร่วมหารือร่วมกับคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (มรภ.สุรินทร์) เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบายแก่คณาจารย์และบุคคลากรของมหาวิทยาลัย จำนวน ๕๐๐ คน ในการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.สุรินทร์ ที่จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมในใจ นอกจากนี้ได้ขอให้ไปตรวจสอบประเด็นในข้อกฎหมายอื่นๆ เช่น การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง เพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อไป และหากสภามหาวิทยาลัยรับรู้ ก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน

          พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยม และมาให้กำลังใจกับบุคลากร เจ้าหน้าที่ราชภัฏสุรินทร์ ซึ่งหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ ๓๙/๒๕๕๙ เรื่องการจัดระเบียบ และแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งการมาเยี่ยมในครั้งนี้ก็ตั้งใจมามอบแนวทางการดำเนินงาน และปรึกษาร่วมกัน เพื่อให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเรื่องต่างๆ ที่มันเคยเกิดขึ้นมาเราก็จะร่วมมือกันช่วยกันแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

          อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เป็น ๑ ใน ๒ แห่งจากทั่วประเทศ ที่ถูกใช้มาตรา ๔๔ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก คสช.มีคำสั่งที่ ๓๙/๒๕๕๙ มีผลบังคับใช้กับมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน และมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวงอื่นๆ โดยให้อำนาจคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) สามารถเข้าไปตรวจสอบมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ที่มีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องธรรมาภิบาล การแต่งตั้งของสภามหาวิทยาลัย นายกสภา กรรมการสภา และอธิการบดี ตลอดทั้งมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาเปิดหลักสูตรเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ หรือการจัดการเรียนการสอนที่ไม่มีคุณภาพได้ โดยไม่ติดขัดในข้อกฎหมาย เพราะที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สกอ. และ กกอ. ไม่มีอำนาจเข้าไปดูแลมหาวิทยาลัยของรัฐ รวมทั้งไม่มีอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยของรัฐ เพราะติดขัดในข้อกฎหมาย ที่ให้อำนาจในการบริหารจัดการเป็นของสภามหาวิทยาลัยรัฐแต่ละแห่ง

          ทั้งนี้ เมื่อ คสช.บังคับใช้ มาตรา ๔๔ กับมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ที่มีความขัดแย้งมายาวนาน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลในการบริหาร และการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะในข้อ ๑๒ ของคำสั่งที่ ๓๙/๒๕๕๙ ให้มีผลบังคับโดยทันที เหตุที่นำไปสู่การใช้มาตรา ๔๔ และการปฏิเสธไม่นำเสนอโปรดเกล้าฯ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (นางอัจฉรา ภานุรัตน์ ยาวนานถึง ๘ ปี) การถูกชี้มูลความผิดทุจริตโดย สตง. การมีส่วนร่วมลงมติแก้ไขข้อบังคับของมหาวิทยาลัย โดยยกเลิกลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี เพื่อให้ตนเองสามารถเข้ารับการสรรหาได้ (เนื่องจากขณะนั้นอยู่ระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง) การรักษาราชการแทนอธิการบดีเกิน ๑๘๐ วันหลายครั้ง ขัดต่อความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและขัดต่อ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ และการไม่ปฏิบัติตามบัญชาของ รมว.ศึกษาธิการ (ซึ่งเคยสั่งการมาแล้วถึง ๔ ครั้ง) อีกด้วย

          อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามคำสั่ง ศธ. ที่ สกอ. ๔๙๗/๒๕๕๙ เรื่องให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ในมรภ.สุรินทร์ ดังนี้ ให้นายกสภา กรรมการสภา อธิการบดีหรือรักษาการอธิการบดี และรองอธิการบดีที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และแต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภาฯ ดังนี้ นายถนอม อินทรกำเนิด เป็นประธานกรรมการสภา ส่วนกรรมการสภา ประกอบด้วย รศ.อานนท์ เที่ยงตรง, รศ.ศศิวิมล มี อำพล, ผศ.จรูญ ถาวรจักร, นายชวลิต หมื่นนุช, นายอภิมุข สุขประสิทธิ์ โดยมีรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นกรรมการและเลขานุการ, เจ้าหน้าที่ สกอ. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ สกอ. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ส่วนอำนาจหน้าที่ดังนี้ ให้ปฏิบัติหน้าที่สภามรภ.สุรินทร์ ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.๒๕๔๗ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.สุรินทร์ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๓๙/๒๕๕๙ นอกจากนี้แต่งตั้งผศ.จรูญ ถาวรจักร ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มรภ.สุรินทร์ และให้ส่งมอบงานในหน้าที่ บัญชี รายงานทางการเงินและทรัพย์สินให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ คือวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๓๘๐ วันอังคารที่ ๑๖ - วันเสาร์ที่ ๒๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙