9thMay

9thMay

9thMay

 

August 24,2016

สอบ ‘หมอเปรม’ มีเค้า สั่งจับนักข่าวแก้ผ้าจริง เตรียมส่งให้มท.ฟันวินัย


นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น แถลงผลกรณีตั้งกรรมการสอบสวน นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ

          ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเผยผลสอบสวน “หมอเปรม” หลังก่อเหตุสั่งลูกน้องแก้ผ้าผู้สื่อข่าว ชี้มีมูลความผิดชัดเจน สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยทันที และให้รู้ผลภายใน ๑๒๐ วัน โทษสูงสุดพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว ด้านตำรวจนัดผู้สื่อข่าวฯ ชี้ตัวเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อเอาผิด

          ตามที่มีคณะผู้ปกครองจากโรงเรียนบ้านไผ่ (ขก.๕) อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กว่า ๕๐ คน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และหัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.จ.ขอนแก่น) เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ “หมอเปรม” นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อย่างจริงจัง หลังจากที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณีมีภาพหลุดนั่งคู่ทำพิธีแต่งงานกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.๕ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่หมอเปรมเป็นอาจารย์พิเศษ รวมทั้งยังคงกักขังผู้สื่อข่าวที่ไปติดตามทำข่าวในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับมีข่าวว่าหมอเปรมสั่งให้พนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ถอดกางเกงผู้สื่อข่าวในห้องทำงานของตัวเอง สำหรับเรื่องนี้นางสุรางค์รัตน์ ช่วยวงศ์ญาติ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี เสนาธิการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และหัวหน้าชุดปฏิบัติการ กกล.รส.จ.ขอนแก่น มาร่วมรับเรื่องดังกล่าว

          นางสุจินดา ชำนาญไพร อายุ ๗๐ ปี ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ (ขก.๕) กล่าวว่า หลังจากเรื่องดังกล่าวเกิดเหตุขึ้นมาถึงขณะนี้ ในฐานะที่ตนเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนที่ตกเป็นข่าว รู้สึกอับอายและเกิดความไม่สบายใจอย่างมาก เพราะหมอเปรมเป็นประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและเป็นอาจารย์พิเศษของโรงเรียน แต่กลับมีพฤติกรรมทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน เป็นที่อับอายของผู้ปกครองและกลุ่มเพื่อนของเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ถึงขณะนี้ก็ไม่กล้าจะมองหน้าใคร กลุ่มผู้ปกครองฯ จึงหารือกันและหาทางออกในเรื่องนี้ให้มีความชัดเจนและมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง ใน ๓ ประเด็นหลัก คือการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ไปถึงมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้กำลังใจกับครอบครัวของผู้หญิงที่ถูกกระทำ ร่วมเยียวยาครอบครัวที่ตกเป็นข่าว รวมไปถึงการมาให้กำลังใจครอบครัวผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ ที่กำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้ด้วย

          “ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานด้านการศึกษาซึ่งเป็นต้นสังกัดที่รับผิดชอบดูแลในด้านการศึกษาของโรงเรียนบ้านไผ่ ออกมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น หากพบการกระทำผิดของหมอเปรม ก็ขอให้ลงโทษตามความผิดที่ได้กระทำ และท้ายที่สุดคือการให้กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการเอาผิดกับหมอเปรม ตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่เอาไว้ก่อน จนกว่าผลการสืบสวนด้านวินัย และคุณธรรมจะเสร็จสิ้น  เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย” นางสุจินดา กล่าว

          พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี หลังจากที่ผู้สื่อข่าวเข้าแจ้งความเอาผิดกับนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ซึ่งเวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จาก สภ.บ้านไผ่ ได้เรียกผู้สื่อข่าวทั้ง ๕ คน มายืนยันตัวบุคคลด้วยการชี้ภาพถ่ายพนักงานเทศบาลฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นพนักงานเทศบาลฯ ที่อยู่ในห้องทำงานของนายกเทศมนตรี สถานที่ที่เกิดเหตุในวันนั้นเพื่อสรุปสำนวนคดี และตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในฐานความผิดกักขัง หน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด

แจ้งจับอีก ๘ คน

          ต่อมาเวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ห้องประชุมชั้น ๓ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น (ภ.จว.ขอนแก่น) พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ และ พ.ต.ท.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ ได้ทำการเรียกผู้สื่อข่าว ๕ คนที่ได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีกับนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ หลังก่อเหตุกักขังหน่วงเหนี่ยวและทำการถอดกางเกงผู้สื่อข่าว ภายในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวทั้ง ๕ คน ประกอบด้วย นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ที่ถูกถอดกางเกง รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ๔ คน ประกอบด้วย นายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓, น.ส.จิติมา จันพรม ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก, นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน และนายปรัชญา เทพสกุล ผู้สื่อข่าวเคเคซีเคเบิลทีวี มาทำการชี้ตัวพยานและบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบในสำนวนเอกสารหลักฐานการสอบสวน โดยใช้เวลาในการสอบปากคำและชี้ตัวพยานจากภาพถ่ายที่พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ได้เตรียมมานานกว่า ๓ ชั่วโมง

          พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ผู้เสียหายทั้ง ๕ คนได้แจ้งความเอาผิดกับพนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่และนักการเมืองท้องถิ่น ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมใน ๓ ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำให้ตกใจและร่วมกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่น กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจ ซึ่งรวมขณะนี้มีผู้ต้องหาที่อยู่ในคดีความดังกล่าวทั้งหมด ๘ คน ประกอบด้วย นพ.เปรมศักดิ์  เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ นักการเมืองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งก็เป็นไปในแนวทางของการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำพยานในฝ่ายต่างๆ ไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อมีผู้ต้องหาเพิ่มก็จะต้องมีการเรียกสอบปากคำเพิ่มทั้งหมด ทั้งนี้ได้เน้นย้ำและกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการดำเนินการสอบสวนในภาพรวมและรอบคอบในทุกประเด็นก่อนส่งเรื่องให้อัยการจังหวัด

ตรวจสอบกล้องวงจรปิด

          “พนักงานสอบสวนได้ยึดกล้องที่บันทึกภาพเหตุการณ์วันดังกล่าวทั้งหมด ๓ เครื่องและโทรศัพท์มือถือของพนักงานเทศบาลอีก ๓ เครื่อง ซึ่งระบุว่า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกภาพและถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงของการถอดกางเกงผู้สื่อข่าว ขณะที่ข้อมูลในฮาร์ดดิสจากเครื่องคอมพิวเตอร์และภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยืนยันว่าการทำงานเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ ๓ นั้นยังคงเป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้ในภาพรวมทั้งหมด”

          ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า มั่นใจว่าอีก ๒ สัปดาห์ต่อจากนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ จะสามารถส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดพลได้ เนื่องจากพยานหลักฐานและเอกสารหลักฐานต่างๆ สมบูรณ์แล้วในภาพรวม โดยแบ่งเป็นฝ่ายผู้เสียหายคือผู้สื่อข่าว ๕ คน ฝ่ายจำเลย ๘ คน และพยานแวดล้อม รวมทั้งเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยยืนยันในการให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายเพราะเป็นคดีที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจอย่างมาก

ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

          ทางด้านนายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การสอบสวนของคณะกรรมการระดับจังหวัดที่แต่งตั้งขึ้นจากคดีความดังกล่าวขณะนี้ผลการสอบสวนมีความคืบหน้าอย่างมาก และมีการเรียกสอบปากคำทั้งฝ่ายผู้สื่อข่าวและฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์ รวมไปถึงพยานแวดล้อม ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงการสรุปสำนวนของคณะกรรมการที่รับผิดชอบ คือผู้ช่วยท้องถิ่นจังหวัด และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น ก็สามารถที่จะเสนอเรื่องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ โดยมั่นใจว่าจะส่งทันระยะเวลาที่กำหนดคือ วันที่ ๑๑ สิงหาคมนี้

          นายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ ประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยทนายความจากสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกขั้นตอน โดยการชี้ตัวบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาให้ดูนั้น ยืนยันว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพทั้งหมด ๗ คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ และนักการเมืองท้องถิ่นในระดับบริหาร โดยมั่นใจว่าตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ในภาพรวมอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนการแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมอีก ๗ คนนั้นเป็นไปตามการหารือร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและทนายความ เพื่อให้ผู้ที่ร่วมกระทำผิดได้รับโทษทางกฎหมาย เพราะใครก็ไม่สามารถที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้

ผู้ว่าฯเผยแก้ผ้านักข่าวจริง

          จากนั้นในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการสอบสวนระดับจังหวัดกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ได้กระทำการก่อเหตุกักขังและถอดกางเกงผู้สื่อข่าวฯ ได้แถลงผลการสอบสวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังครบกำหนดระยะเวลาการสอบสวน ๑๕ วัน ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน ที่มาติดตามทำข่าวในประเด็นดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก

          นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนที่จังหวัดตั้งขึ้นเพื่อทำการสอบสวนได้มีการสรุปสำนวนการสอบสวนหลังการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จทั้งหมด ซึ่งจากการสอบปากคำพยานทั้งสองฝ่ายและเอกสารหลักฐานต่างๆ พบว่า มีมูลความผิด และเป็นเหตุการณ์ที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งจากนี้ไปจะเข้าสู่ขั้นตอนของการสอบสวนเอาผิดทางวินัย ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย โดยคณะกรรามการชุดใหม่ที่จะแต่งตั้งขึ้นนั้นจะมีประธานคณะกรรมการสอบสวนในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และจะมีกรรมการสอบสวนทั้งหมด ๕ คน โดยจะไม่ใช่คณะกรรมการชุดเดิมที่ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และจะมีการลงในนามคำสั่งแต่งตั้งในวันนี้

          “จากการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการเพื่อสอบหาข้อเท็จจริงนั้น พบว่า พยานบุคคลคือหลักฐานสำคัญที่สุด ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และให้มีการมาชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ก็พบพิรุธและเหตุที่เชื่อได้ว่าเป็นการให้การเท็จ ซึ่งคณะกรมการสอบสวนจึงใช้ดุลพินิจและมีการสรุปสำนวนและแนวทางการสอบสวนโดยพบว่ามีมูลในการที่ นพ.เปรมศักดิ์ ได้กระทำการจริง จึงต้องมีการเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” นายกำธร กล่าว

          ผวจ.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการที่จังหวัดจะแต่งตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนทางวินัย ว่าด้วยระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ปี ๒๕๕๔ ให้ระยะเวลาในการสอบสวน ๑๒๐ วัน และสามารถที่จะยืดเวลาการสอบสวนได้อีก ๒ ครั้งๆ ละ ๓๐ วัน ดังนั้น เชื่อว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะทำงานได้อย่างรัดกุม รอบคอบ เพราะที่ผ่านมาเป็นขั้นตอนของการให้ความเป็นธรรม ซึ่งเมื่อความเป็นธรรมนั้นปรากฏ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม คือกรรมการสอบสวนระดับจังหวัด กระทั่งสรุปสุดท้ายคือความเที่ยงธรรม ก็คือการที่คณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยสรุปสำนวนส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของนายกเทศมนตรีฯ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาบทลงโทษ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้บทลงโทษคือ การพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว

ตร.ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่ม

          ล่าสุดเมื่อเวลา ๑๕.๓๐ น.วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวเข้าแจ้งความเอาผิดและให้ดำเนินคดี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ หลังก่อเหตุกักขังหน่วงเหนี่ยวและถอดกางเกงผู้สื่อข่าวเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีหลังจากเกิดเตุการณ์ดังกล่าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ ๓ โดยมี พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ พ.ต.ท.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ พร้อมพนักงานสอบสวนคดีเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งใช้เวลาในการประชุมนานกว่า ๒ ชั่วโมง โดยไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์หรือรับฟังการประชุมแต่อย่างใด

          ภายหลังพ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาที่ผู้สื่อข่าวทั้ง ๕ คน ได้แจ้งความเอาผิดกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ใน ๓ ข้อกล่าวหา ขณะนี้ความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงผู้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำการ ร่วมกับหมอเปรม คือนักการเมืองท้องถิ่น ๒ ราย และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่อีก ๕ ราย รวมทั้งหมด ๗ ราย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกทั้ง ๗ คนมาสอบปากคำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่มาตามหมายเรียกก็จะถูกแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจจะถูกออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

          “พนักงานสอบสวนรอเพียงการตรวจหลักฐานที่พนักงานสอบสวนส่งตรวจที่ ศพฐ. ทั้งฮาร์ดดิส และกล้อง DSLR ซึ่งคาดว่าผลตรวจจะออกมาในเร็วๆ นี้ และหากฮาร์ดดิสหรือกล้องเสียก็ไม่มีผลต่อคดี เพราะมีพยานบุคคลยืนยันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เมื่อได้ผลตรวจจาก ศพฐ. พนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนส่งอัยการภายในสิ้นเดือนนี้” พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลากล่าว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๓๘๐ วันอังคารที่ ๑๖ - วันเสาร์ที่ ๒๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙



690 1,344