ส.ป.ก.บุรีรัมย์จ่อยึดคืนพื้นที่บริเวณไร่ฝึกนักศึกษาของวิทยาลัยเกษตรฯ กว่า ๔๐๐ ไร่ หลังไม่พบหลักฐานการถือครองที่ดิน ส่วนอีกกว่า ๔๐๐ ไร่รอผลตรวจ น.ส.๓ จากกรมที่ดิน เผยตรวจพบการถือครองที่ ส.ป.ก. เกิน ๕๐๐ ไร่เพิ่มเติมอีก

          เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ของทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ภายหลังตรวจพบว่า การถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ตั้งแต่บริเวณ ต.สระบัว อ.แคนดง คาบเกี่ยวไปถึงตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง รวมเนื้อที่ ๘๗๑ ไร่ เป็นไร่ฝึกนักศึกษาโดยไม่มีหลักฐานการขอใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องตามระเบียบว่า จากการตรวจสอบเอกสาร นส.๓ ที่ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ นำมาแสดงที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดประมาณ ๒๐๐ ไร่ พบว่า น.ส.๓ ดังกล่าวได้ออกตั้งแต่ปี ๒๕๑๓ และ ๒๕๑๗ ซึ่งทาง ส.ป.ก.ก็ได้ประสานไปยังกรมที่ดิน เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับกระบวนการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และตำแหน่งที่ดินถูกต้องตามหลักฐานที่ยื่นหรือไม่ ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจสอบจากกรมที่ดิน คาดว่าจะทราบผลภายใน ๗ วัน ส่วนอีกกว่า ๒๐๐ ไร่ก็ยังรอเอกสารหลักฐานยืนยันว่าทางวิทยาลัยเกษตรฯ ได้ขอใช้ประโยชน์ตามระเบียบหรือไม่ แต่อีกกว่า ๔๐๐ ไร่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่มีเอกสารหลักฐานการถือครอง หรือการขอใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว

          “อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบแล้วพบว่าการได้มาของเอกสารสิทธิ หรือหลักฐานการขอใช้ประโยชน์ และถือครองที่ดินทั้ง ๘๗๑ ไร่ไม่ถูกต้อง ทาง ส.ป.ก.ก็จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน และเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาดำเนินการขอคืนพื้นที่ตามขั้นตอนต่อไป” นายเอกพงศ์ กล่าว

          นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยในท้ายสุดว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกยังพบว่า มีการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.เกินกว่า ๕๐๐ ไร่เพิ่มเติมอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ทั้งนี้ยังได้รับแจ้งข้อมูลด้วยว่าที่ดิน สปก.บางแปลง มีการติดประกาศขาย ซึ่งก็กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนให้ถูกต้องต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๓๘๐ วันอังคารที่ ๑๖ - วันเสาร์ที่ ๒๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙