26thApril

26thApril

26thApril

 

November 28,2016

หอการค้าฯ วิพากษ์‘ตร.ตั้งด่าน’ ทำเศรษฐกิจย่ำแย่ ‘เกรียงไกร’ย้ำอย่ายื่นให้

                หอการค้าฯ เปิดเวทีเสวนาการบังคับใช้กฎหมายและการตั้งด่าน หลังสมาชิกได้รับผลกระทบ ทำเศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะไม่กล้าออกจากบ้านมาดื่มแอลกอฮอล์ ด้าน “เกรียงไกร  ไทยอ่อน” ผู้โพสต์คลิปแฉตำรวจตั้งด่าน อยากให้ปฏิรูปตำรวจ และอย่าปล่อยให้ตั้งด่านลอย หากไม่ถูกต้องประชาชนอย่ายอมจ่ายค่าปรับ

                เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดการประชุมการเสวนา เรื่อง “การบังคับใช้กฎหมายกับการตั้งด่านและเรื่องอื่นๆ” โดยมีนายเกรียงไกร ไทยอ่อน รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดหนองบัวลำภู, นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าของร้านสเต็กจิ้มก๊ะแจ่ว (ปัจจุบันขยายสาขาไปที่สปป.ลาวในชื่อสเต็กจ้ำก๊ะแจ่ว), นายสุพจน์ สีมันตธรรมกุล ประธานที่ปรึกษาฝ่ายเผยแพร่ความรู้กฎหมายสภาทนายความนครราชสีมา และนายชาญณรงค์ เจริญพรหมพงศ์ ที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าภาคอีสาน เป็นผู้ร่วมเสวนา พร้อมทั้งผู้แทนตำรวจ คณะกรรมการหอการค้า สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมรับฟังกันเป็นจำนวนมาก

                ทั้งนี้ นายสุพจน์ สีมันตธรรมกุล ทนาย ความ กล่าวว่า การตั้งด่านถือเป็นปัญหาอย่างมากต่อประชาชน ซึ่งในปัจจุบันมีการตั้งด่านที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นจำนวนมาก และที่จังหวัดนครราชสีมาสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือทำการรีดไถประชาชน โดยการเรียกเก็บเงิน ณ จุดตั้งด่านนั้นๆ และไม่ทำการออกใบสั่งเพื่อให้ผู้กระทำความผิดไปเสียค่าปรับตามกฎหมายที่สถานีตำรวจ ถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดต่ออำนาจหน้าที่การทำงานของเจ้าพนักงาน ทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทำให้กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการให้ความร่วมมือกระทำการโดยมิชอบ ด้วยการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้ตำรวจ เพื่อทำการปล่อยผ่าน และการตั้งด่านบ่อยครั้งก็ทำให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจทางการค้า เศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาประเทศ เพราะถือว่าการที่มีด่านตรวจมาก นั่นหมายถึงความไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย และเกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคม กระทั่งตำรวจต้องออกมาทำการป้องกันและปราบปราม


นายชาญณรงค์    เจริญพรหมพงศ์

                ด้านนายชาญณรงค์ เจริญพรหมพงศ์ กล่าวว่า ทางด้านการขนส่งก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน อย่างกรณีของการขับรถบรรทุกเพื่อขนส่งสินค้า บางครั้งมีน้ำหนักมากกว่า ๔๐-๕๐ ตัน แล้วไปเจอด่านบริเวณช่วงทางแยกร่วมหรือทางลงเขา ซึ่งมีการตั้งด่านโดยมีสิ่งกีดขวางจราจร อาทิ กรวย หรือป้ายบอกการตั้งจุดตรวจ ทำให้ต้องหยุดรถ และเมื่อจะทำการขับเคลื่อนต่อไปก็ออกตัวลำบากเพราะรถบรรทุกมีขนาดใหญ่ บางครั้งยาวต่อกันหลายคัน ทำให้รถที่ตามมาต้องชะลอตัว เป็นสาเหตุที่ทำให้การจราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และก่อให้เกิดความรำคาญใจอีกด้วย


นายจีระศักดิ์  คาระวิวัฒนา

                นอกจากนี้ นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ผู้ประกอบการร้านอาหาร กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจร้านค้าร้านอาหารว่า การตั้งด่านของตำรวจมีผลโดยตรงที่ทำให้ยอดขายตกต่ำลง เนื่องจากปริมาณลูกค้าที่มาใช้บริการเริ่มลดน้อย โดยเฉพาะสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ หรือร้านอาหารโต้รุ่ง ที่มียอดขายลดลงถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่ม(แอลกอฮอล์) และอาหารได้มากเพียงพอ เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยกล้าดื่มเครื่องดื่มมึนเมา เพราะเกรงว่าจะโดนตรวจเป่าแอลกอฮอล์ หรือบางครั้งต้องรีบกลับบ้านก่อนจะมีการตั้งด่านหลังช่วงเที่ยงคืน ซึ่งหากเป็นการตั้งด่านที่ถูกต้องก็ต้องออกใบสั่งให้จ่ายค่าปรับที่แพง และถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นด่านลอยแม้จะไม่ถูกดำเนินคดีก็ยังมีการเรียกเก็บเงิน เพื่อปล่อยผ่านจากตำรวจที่ตั้งด่าน โดยภายใน ๑ เดือน จังหวัดนครราชสีมามีการตั้งด่านนับได้มากกว่า ๗-๘ ครั้ง จึงทำให้ประชาชนไม่ค่อยอยากออกไปสังสรรค์กันนอกบ้าน เป็นเหตุให้เศรษฐกิจไม่ขับเคลื่อนไปตามเป้าหมายของ ผู้ประกอบการ


  นายเกรียงไกร  ไทยอ่อน

                นายเกรียงไกร ไทยอ่อน เล่าย้อนถึงการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์การตั้งด่านของตำรวจในพื้นที่ต่างๆ และในท้องที่ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา ว่า “ผมแค่ไป-มาตามเส้นทาง ไม่ได้ออกนอกเส้นทางเพื่อไปหาตรวจสอบด่าน ผมเป็นคนตรงไปตรงมา คิดว่าโคราชมีความปลอดภัยสูงที่สุด เพราะมีด่านมากที่สุด เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม เป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีคนออกมาพูด แต่เรื่องจริงเป็นสิ่งไม่ตาย หรือบางทีการพูดเรื่องจริงอาจจะตายก็ได้ ผมกล้าทำในสิ่งที่สังคมอาจจะกล้าคิดแต่ไม่กล้าแสดงออก เราต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม ผมมองว่า ตอนนี้สังคมพิการและต้องมีการผ่าตัดใหญ่ เมื่อเจอด่านก็เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่อุดรธานี ตอนนั้นผมยังไม่ดัง แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้เริ่มทำตรงนี้ ส่วนที่จังหวัดหนองบัวลำภูก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับผู้นำ”

                นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า “ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใครคนใดคนหนึ่ง ผมเป็นศัตรูกับความไม่ถูกต้อง ถ้าท่านทำถูก ทำตามหน้าที่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าทำไม่ถูก แล้วผมไม่ออกมาพูด บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ผมขอเป็นคนกล้าคนหนึ่งเพื่อให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปให้ได้ สังคมได้อะไรจากผม คือสังคมได้ความรู้ เรื่องกฎหมายต้องมีการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ไม่ใช่แค่การคัดค้าน ลองย้อนกลับไปดูการขอแก้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจของตำรวจ ในประเทศไทยมีด่านมากที่สุดในโลก การมีด่านเยอะเป็นสัญลักษณ์แห่งประเทศที่ไม่พัฒนา ประเทศไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย จึงต้องมีการปฏิรูป ตำรวจจราจรทำลายภาพพจน์ขององค์กรตำรวจไทยให้เสียหาย”

                “ต่อไปนี้เราต้องรู้เท่าทัน ไม่ให้ตำรวจทำตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นทุกคนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจอายัด ผมจะบอกว่าตำรวจมีอำนาจสูงสุดในโลก ทั้งเป็นผู้กล่าวหา ตรวจสอบ และตัดสินความผิดได้หมด กฤษฎีกาตั้งขึ้นมาเพื่อกลั่นกรองข้อกฎหมายแต่มาอาศัยความชอบ นายว่าขี้ข้าพลอย ทุกวันนี้โลกเจริญขึ้นแล้ว แต่กฎหมายเรายังล้าหลัง ผมมีอุดมการณ์ที่จะทำเรื่องนี้ และฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าท่านรักองค์กรของท่าน  ก็ต้องตรวจสอบการทำงานของลูกน้อง อย่าดูแค่รายงาน ลองฟังประชาชนดูบ้าง ต้องเคารพความเห็นต่าง ต้องขอบคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างกระแสให้ผม ถ้าท่านไม่ออกมาตอบโต้ แต่ท่านแค่ตอบคำถามก็จบ สิ่งที่ท่านพูด สิ่งที่ท่านเห็นมันค้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมว่า ลูกน้องท่านปฏิบัติอย่างไรบ้าง ใบขับขี่ผมก็ให้ดู ใบอนุญาตยาสูบ ใบอนุญาตขายเหล้ายังติดอย่างเปิดเผยตามกฎหมาย แล้วใบอนุญาตตั้งด่าน ทำไมท่านไม่เปิดเผยให้ผมดูบ้าง ถ้าท่านมีเจตนารมณ์ที่ดี ถ้าท่านรักพวกผม ท่านบอกว่าตั้งด่านเพื่อป้องกันและปราบปราม แต่ทำไมใบสั่ง-ใบเสร็จเต็มไปหมด เช่น เด็กนักเรียนไม่ใส่หมวกกันน็อกก็ไปจับ แล้วสังคมความเอื้ออาทรไปไหน จับไปวันนี้ พรุ่งนี้ไม่มีเงินไปซื้อหมวกกันน็อกก็โดนจับอีก ทำไมท่านไม่ให้ความรู้ในเรื่องข้อกฎหมายกับเด็ก ทำแผ่นพับมาแจกก็ได้ ถ้ารู้แล้วจะได้ไม่กระทำผิด” นายเกรียงไกร กล่าวในท้ายสุด

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๐๐ วันเสาร์ที่ ๒๖ - วันพุธที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙


702 1357